กรมควบคุมโรคเตือน ฤดูฝนนี้เด็กเล็กป่วยเป็นโรคปอดบวม และไข้หวัดใหญ่ รวมกว่า 40,000 คน โดย นายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในฤดูฝนมีการระบาดของเชื้อโรค ทั้งไวรัส และแบคทีเรีย คุณพ่อ คุณแม่ จึงควร ป้องกันไข้หวัดใหญ่ และปอดบวมให้ลูกน้อยช่วงนี้
โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เนื่องจากช่วงอายุหลังจาก 4-6 เดือนไปแล้ว ภูมิคุ้มกันโรคที่ได้รับจากแม่จะลดลง ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่ำ ถ้าลูกน้อยได้รับเชื้อ อาการเจ็บป่วยจะเกิดขึ้นได้ โรคที่ควรระวังคือ ปอดบวม และไข้หวัดใหญ่ จากข้อมูลตั้งแต่ 1 ม.ค.-4 ก.ค. 59 พบว่ามีผู้ป่วยปอดบวมทั่วประเทศ 105,429 คน เสียชีวิต 206 คน และไข้หวัดใหญ่ พบผู้ป่วย 55,545 คน เสียชีวิต 4 คน เฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ขวบ พบว่า เป็นปอดบวม 29,808 คน และไข้หวัดใหญ่ 12,771 คน
อาการปอดบวมในเด็ก
นายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคปอดบวมมักเป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือโรคหัด พบบ่อยในเด็กต่ำกว่า 5 ขวบ น้ำหนักตัวน้อย ขาดสารอาหาร อาการปอดบวมจะมีไข้สูง เกิดขึ้นก่อน หรือพร้อมการมีปอดบวม ไอมาก ไอแห้งๆ หรือไอมีเสมหะ หายใจเร็วจนชายโครงบุ๋ม เวลาหายใจจะเห็นปีกจมูกบาน หอบเหนื่อย บางคนหายใจเสียงดัง ถ้ามีเชื้อรุนแรงหรือไม่ได้รักษาได้ทันทีอาจเสียชีวิตได้
การป้องกันสำหรับลูกน้อย
1.พาลูกน้อยไปฉีดวัคซีนป้องกันโรค ลูกน้อยควรได้รับนมแม่ และรับประทานอาหารครบ 5 หมู่
2.ถ้าอากาศหนาวเย็นควรสวมเสื้อผ้าที่อบอุ่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสโรค ไม่คลุกคลีกับคนป่วย
3.ไม่พาลูกน้อยไปสถานที่แออัด ฝึกให้ลูกน้อยล้างมือบ่อยๆ
4.ดูแลบ้านให้อากาศถ่ายเทสะดวก เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ ควรเลี้ยงที่บ้าน
5.ถ้าลูกน้อยไอ หายใจลำบาก หอบ หายใจเร็ว แรง จนชายโครงบุ๋ม หายใจเสียงดัง รีบพาไปพบแพทย์ทันที
อ่านต่อ “การป้องกันสำหรับพ่อแม่ และรักษาลูกน้อยเมื่อไม่สบาย” คลิกหน้า 2
การป้องกันสำหรับคุณพ่อ คุณแม่
1.ดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ครบ 5 หมู่ ใช้ช้อนกลาง
2.ล้างมือบ่อยๆ รักษาอุณหภูมิร่างกายให้เหมาะสม สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมตามสภาพอากาศ
3.พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าอดนอน เพราะถ้าคุณพ่อ คุณแม่อดนอนแล้วร่างกายจะอ่อนแอ
4.หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการไอ จาม จากคนป่วยที่มีเชื้อในร่างกาย
การดูแลรักษาลูกน้อยเมื่อไม่สบาย
ถ้ามีอาการเล็กน้อย เช่น ไข้ต่ำๆ ยังรับประทานได้ อาจไปพบแพทย์ หรือซื้อยา และขอคำแนะนำจากเภสัชกรใกล้บ้าน
- พักผ่อนให้มากๆ ในห้องที่มีอากาศถ่ายเท ดื่มน้ำมากๆ งดดื่มน้ำเย็น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไข่ ผัก ผลไม้ เป็นต้น
- ถ้ามีไข้ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด ถ้าไข้ไม่ลดให้รับประทานยาลดไข้
- สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อแพร่กระจาย หยุดอยู่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ
ดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด ถ้ามีอาการรุนแรง เช่น เหนื่อยหอบ หรืออาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ควรไปพบแพทย์ทันที ถ้าสงสัยสามารถโทรปรึกษากรมควบคุมโรค โทร.1422
เครดิต: สำนักโรคติดต่อทั่วไป/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค