AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

พ่อแม่ระวัง! ลูกถ่ายเป็นเลือด เสี่ยงโรคอันตราย

อาการถ่ายอุจจาระผิดปกติ เกิดจากกิจวัตรประจำวันของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็จะมีความแตกต่าง ก่อนที่คุณพ่อ คุณแม่จะทิ้งผ้าอ้อมของลูกน้อย ลองสังเกตดูสักนิด ว่าลูกน้อยถ่ายเป็นอย่างไร เพราะอุจจาระ สามารถบ่งบอกถึงโรคภัยของลูกได้ รวมถึงเมื่อ ลูกถ่ายเป็นเลือด

ลูกถ่ายเป็นเลือด เกิดจากอะไร?

เมื่อลูกน้อยถ่ายอุจาระผิดปกติ โดยเฉพาะการถ่ายเป็นเลือด คุณพ่อ คุณแม่หลายคนก็คงจะเกิดความกังวล ว่าลูกน้อยจะเสี่ยงเป็นโรคอันตรายร้ายแรงหรือไม่ เรามาดูกันว่า เมื่อลูกน้อยถ่ายเป็นเลือด มีสาเหตุเกิดมาจากอะไรบ้าง

1.ความผิดปกติแต่กำเนิดของทวารหนัก

ลูกน้อยอาจมีความผิดปกติของทวารหนัก อาจทำให้ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด คุณพ่อ คูณแม่ควรทำความเข้าใจในขั้นตอนของการรักษา และผลแทรกซ้อนที่อาจจะตามมา

2.ผิวหนังรอบรูก้นอักเสบ

เมื่อลูกถ่ายเป็นเลือด อาจเกิดจากผิวหนังรอบรูก้น ได้รับเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา ทำให้เกิดการระคายเคือง เพราะเกิดจากความเปียกชื้นของอุจจาระเหลว

3.ผื่นผ้าอ้อม

ผิวหนังของลูกน้อย ระคายเคืองเพราะสัมผัสกับปัสสาวะ อุจจาระ ทำให้มีผื่นแดงที่รอบๆ รูก้น และเมื่ออวัยวะส่วนนั้น ถูกปกคลุมไปด้วยผ้าอ้อม ถ้าไม่รักษาความสะอาดให้ดี อาจติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราได้ง่าย ซึ่งอาการนี้มักเกิดขึ้นกับเด็กแรกเกิด ไปจนถึง 6 เดือนแรก

4.รับประทานไม่สะอาด

การรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด หรือปนเปื้อนเชื้อโรค เมื่อร่างกายพยายามกำจัดอาหารที่มีเชื้อโรคนั้นให้เร็วขึ้น จึงทำให้เกิดอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว และอาจถ่ายออกมาเป็นน้ำ หรือมูก ที่มีเลือดปนออกมาในอุจจาระ ภาวะนี้อาจเป็นกระบวนการกำจัดสิ่งผิดปกติที่มีอยู่ออกไปจากร่างกาย

5.ติดเชื้อทางเดินอาหาร

มีเชื้อหลายชนิด ที่เป็นสาเหตุให้เด็กๆ ท้องเสีย และมีมูกเลือด เช่น บิดมีตัว บิดไม่มีตัว อหิวาต์ เป็นต้น อาการติดเชื้อทางเดินอาหารนี้ อาจมีไข้ ถ่ายเหลว อ่อนเพลีย ถ่ายเป็นมูก หรือมีมูกเลือดได้

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ “ถ่ายเป็นเลือด จุดเริ่มต้น 6 โรคอันตราย” คลิกหน้า 2

ถ่ายเป็นเลือด จุดเริ่มต้น 6 โรคอันตราย

เมื่อลูกน้อยถ่ายอุจจาระเป็นก้อนแข็ง ต้องออกแรงเบ่งมาก ขณะถ่ายออกมาก็รู้สึกเจ็บ หรือแสบบริเวณก้น มีแผลถลอก ต้องระวังให้มากๆ เมื่อลูกน้อยท้องผูก เพราะนั่นคือจุดเริ่มต้นของโรคร้าย ดังต่อไปนี้

1.โรคริดสีดวงทวาร

คนที่ท้องผูกบ่อยๆ จะมีความเสี่ยงกับโรคนี้ได้มากกว่าคนที่ถ่ายปกติ เพราะเมื่อเกิดแผล เพราะพยายามที่จะเบ่งอุจจาระแข็งๆ อยู่บ่อยๆ อาจทำให้มีก้อนริดสีดวงปลิ้นออกมา จนมีอาการอักเสบ ปวดแสบมากขึ้น

2.เลือดออกในลำไส้ใหญ่เป็นจำนวนมาก

ถ้ามีเลือดสดๆ หรือลิ่มเลือดไหลออกมาพร้อมกับอุจจาระ แต่ไม่มีอาการปวดแสบที่ทวารหนัก เพราะไม่ได้มีอาการท้องผูก อาจเป็นเพราะมีเลือดที่ลำไส้ใหญ่ ถ้ามีเลือดออกมาก  ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

3.เลือดออกในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็ก

อาการอาจเริ่มจากอาเจียนออกมาเป็นเลือดก่อน หรืออาจไม่มีอาการอาเจียนก็ได้ จากนั้นจะตามมาด้วยถ่ายเป็นเลือด เลือดจะมีลักษณะสีเข้มจนเกือบดำ ถ้าถ่ายเป็นเลือดจำนวนมาก ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

4.โรคบิด

ถ้าลูกน้อยมีอาการท้องเสีย แล้วมีอุจจาระเป็นมูกเลือด มีกลิ่นเหม็นรุนแรง อาจเสี่ยงเป็นโรคบิด ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อในลำไส้ใหญ่ จนทำให้ลำไส้อักเสบ เป็นแผล คุณพ่อ คุณแม่ควรให้คุณหมอตรวจอุจจาระของลูกน้อย เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน

5.โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

มะเร็ง จะทำให้เกิดแผล โดยเฉพาะบริเวณทวารหนัก ทำให้มีความเสี่ยงให้ถ่ายแล้วมีเลือดปนออกมา โรคนี้มักเกิดกับผู้ใหญ่อายุมากกว่า 40-50 ปี แต่มีโอกาสเกิดขึ้นในวัยรุ่น วัยทำงานได้ ครอบครัวที่มีประวัติว่าเป็นโรคนี้ ยิ่งมีความเสี่ยง ฉะนั้น คุณพ่อ คุณแม่ควรลดเนื้อแดง อาหารปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม

6.โรคลำไส้ขาดเลือด

โรคนี้เกิดจากหลายสาเหตุ อาการคือเลือดไม่สามารถเข้าไปไหลเวียนในลำไส้ได้ ทำให้เซลล์ลำไส้เริ่มไม่ทำงาน เซลล์ตาย และเริ่มเน่าจนมีแบคทีเรีย จะมีอาการปวดท้องเกร็ง อาจปวดมาจนหมดสติ และอาจติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิต ถ้าระหว่างปวดท้องมีอาการถ่ายเป็นเลือด ควรรีบพบแพทย์

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ “การป้องกันและรักษา เมื่อลูกถ่ายเป็นเลือด” คลิกหน้า 3

การป้องกันและรักษา เมื่อลูกถ่ายเป็นเลือด

1.เว้นระยะการใส่ผ้าอ้อม หรือควรเปลี่ยนบ่อยๆ เพื่อป้องกันการเปียกชื้น ไม่ใช้สบู่ที่เป็นด่าง ทำความสะอาดก้นให้ลูกน้อยด้วยน้ำอุ่นบ่อยๆ ผสมกับเบบี้ออยล์เล็กน้อย

2.ถ้าลูกติดเชื้อบริเวณก้น ทำให้มีเลือดออก หรือเป็นตุ่มก้อน มีอาการเจ็บ และคัน ให้พาไปพบแพทย์ คุณหมอจะทำการรักษา และให้ยา Silver nitrate มาทาเพื่อป้องกันการเป็นซ้ำ หรืออาจจี้ด้วยเลเซอร์

3.ถ้าลูกน้อยมีอาการรูก้นฉีก ส่วนใหญ่มักจะหายได้เอง คุณหมอจะทาด้วยยาชาที่รูก้น และขยายรูก้นเบาๆ ด้วยนิ้ว แล้วให้ยาทำให้อุจจาระนิ่ม คุณพ่อ คุณแม่ หมั่นแช่ก้นลูกน้อยในน้ำอุ่น เพื่อให้หูรูดคลายตัว สำหรับเด็กโต ให้รับประทานผัก ผลไม้ หรือให้ยาแก้อักเสบ ถ้ามีติ่งแผลบวม ไม่ควรสวนให้ถ่าย เพราะจะทำให้แผลขยายใหญ่ขึ้น ถ้ารักษานานเกิน 6 เดือน หรือมีติ่ง ควรผ่าตัดเอาติ่งออก หรือรักษาจนกว่าจะหาย

4.ถ้าลูกน้อยถ่ายเป็นเลือด เพราะลำไส้เน่า จะต้องรักษาที่ต้นเหตุ โดยให้ลูกน้อยได้รับออกซิเจนที่เพียงพอ ให้ยาปฏิชีวนะ ให้สารประกอบของเลือด และผ่าตัดถ้าลำไส้ทะลุ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

5.ถ้าถ่ายเป็นเลือดเพราะมีก้อนติ่งเนื้อในลำไส้ ส่วนใหญ่มักหลุดออกไปเอง ถ้าใช้นิ้วล้วงถึงก็สามารถเด็ดออกได้ แต่ถ้าแพทย์ล้วงแล้วไม่พบ ควรให้ตรวจวินิจฉัย ส่องกล้อง เพื่อตัดเนื้องอกออก เพราะอาจเป็นต้นเหตุของมะเร็งได้ถ้าปล่อยทิ้งไว้

6.ถ่ายเป็นเลือดเพราะมีก้อนเนื้อหลายก้อนในลำไส้ อาจต้องตัดลำไส้ส่วนที่มีก้อนเนื้อทิ้ง และต้องตรวจคนในครอบครัว และติดตามการเปลี่ยนแปลง เพราะอาจเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่

7.ถ่ายเป็นเลือด เพราะริดสีดวงทวารหนัก ระวังอย่าให้ลูกท้องผูก โดยให้รับประทานอาหารที่มีกาก เช่น ผัก ผลไม้ ดื่มน้ำให้มากๆ ถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา กินมะขาม หรือน้ำมะขาม หรือสมุนไพร เช่น มะละกอดิบ มะละกอสุก น้ำต้มใบมะขาม มะขามแขก เม็ดแมงลัก เป็นต้น

8.ถ้าลูกน้อยถ่ายเป็นเลือด เพราะติดเชื้อแบคทีเรีย ถ้ามีอาการไม่มากก็ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น ยาแอมพิซิลลิน หรือยาอะม็อกซีซิลลิน หรือยาโคไตรม็อกซาโซล ตามคำแนะนำของแพทย์ ถ้ามีอาการเช่น อ่อนเพลีย หมดแรง หน้ามืด เป็นลม มีไข้สูง หรืออื่นๆ ควรให้น้ำเกลือ หรือส่งโรงพยาบาล

9.ถ้าถ่ายเป็นเลือดเพราะติดเชื้อพยาธิ ควรให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยให้แน่นอนก่อน โดยการตรวจอุจจาระ แพทย์จะให้ยาเมโทรนิดาโซลมารับประทาน

เครดิต: หมอชาวบ้าน, สนุกดอทคอม, มุสลิมไทยโพสต์

อ่านเพิ่มเติม คลิก!!

9 วิธีง่ายๆ ฝึกขับถ่ายลูก ให้เป็นนิสัย

ลูกท้องผูก ถ่ายยาก ทำไงดี?

ห้องน้ำ โรงเรียนไม่สะอาด ลูกสาวไม่ยอม “ฉี่” และ “ถ่าย”

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

Save