ยาสามัญ ที่ควรเตรียมไปเมื่อออกทริป
♣ ยากลุ่มแก้เมา
ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ต้องเคยผ่านอาการเมารถมาแล้วทั้งนั้น นอกจากนี้อาจจะเคยเมาเรือ เมาเครื่องบิน เมารถไฟ แต่หากเตรียมความพร้อมรับประทานยาแก้เมาก่อนขึ้นยานพาหนะ ก็จะช่วยลดอาการสุดเวียนหัวนี้ได้ แต่หากจะป้องกันชั้นที่สองก็ควรเตรียมถุงอ้วกไปด้วย (ในกรณีที่ยาแก้เมาเอาไม่อยู่แล้ว)
♣ ยากลุ่มแก้ปวดท้อง
บางคนเห็นภาพรีวิวอาหารน่ากินก็ตรงดิ่งไปที่ร้าน สั่งมาเต็มโต๊ะ ลองกินทุกรูปแบบ โดยอาจลืมไปว่าร่างกายของคุณที่ไม่เคยรับอาหารประเภทนั้นมาก่อนอาจจะแพ้อาหารหรืออาหารเป็นพิษได้ อย่างดีก็แค่อาเจียน แต่หากเป็นมากก็ต้องรีบส่งโรงพยาบาล
♣ ยากลุ่มแก้ไข ไอ เจ็บคอ
เมื่อร่างกายเจออากาศเปลี่ยน มีโอกาสสูงที่คุณจะระคายเคืองโพรงจมูก มีอาการน้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอกันเป็นธรรมดา โรคหวัดนั้นเป็นกันง่ายและทำให้เสียบรรยากาศการเที่ยว ถ้าไม่อยากเสียค่ายาแพงๆ ในต่างประเทศก็ควรพกยาสามัญง่ายๆ ที่ถูกโรคกับคุณติดกระเป๋าไว้
♣ ยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ
อาการล้าจากการเดิน หรือรองเท้าทำให้เดินไม่สบาย ปวดตัว ปวดหลัง ปวดขา จะสร้างความรำคาญให้กับการเที่ยวครั้งนี้มาก แต่ยาคลายกล้ามเนื้อบางประเภทมีฤทธิ์กัดกระเพาะและต้องรับประทานตามแพทย์สั่งเท่านั้น
♣ ยาแก้แพ้ แมลงสัตว์ กัด ต่อย
บางครั้งสิ่งที่ไม่คาดฝันอย่างเช่นอุบัติเหตุจากสัตว์มีพิษกัดก็อาจเกิดขึ้นกับคุณได้ นอกจากนี้คุณต้องระวังตัวเองเป็นพิเศษด้วย อย่าไปอยู่ในมุมอับ และรักษาความสะอาดของที่หลับที่นอน เลือกที่พักที่สะอาดปลอดภัย ตอนกลางคืนปลอดยุงและแมลง
♣ ยาหรือเวชภัณฑ์จำเป็นอื่นๆ
น้ำตาเทียม น้ำยาล้างตา หรืออุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรคและทำแผลเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้หากต้องเตรียมพกไปด้วย หากคุณเตรียมพร้อมใส่ถุงเที่ยวเป็นประจำอยู่แล้วก็อย่าลืมเช็ควันหมดอายุ เปิดมาอีกทีคุณภาพอาจเสียไปแล้ว
นอกจากนี้คุณอาจจะต้องศึกษาเรื่องข้อควรระวังในแต่ละพื้นที่เป็นพิเศษ ในประเทศเดียวกันอาจจะมีภูมิประเทศหลากหลาย ทำให้มีสภาพอากาศที่แตกต่างกันไป หาข้อมูลก่อนไปเที่ยวหรือปรึกษาผู้ที่เคยไปมาก่อนเผื่อจะได้มุมมองที่ดี ขอให้ทริปนี้เป็นทริปที่สนุกและประทับใจคุณนะคะ
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!
- 10 เทคนิคเตรียมพร้อม พาลูกเที่ยว ต่างประเทศ
- วิธีทำพาสปอร์ตให้ลูกน้อย ไปเที่ยวต่างประเทศ
- กิจกรรมการเล่นสร้างความสัมพันธ์กับลูกตอนอยู่ในรถ
ที่มาจากบทความ รีวิว เตรียมถุงยาไปต่างประเทศ [แบบฉบับหมอเตรียมเอง]
อ่านต้นฉบับได้ที่ http://www.pantip.com/topic/34981040