อุทาหรณ์…แม่โพสต์เตือน! ลูกป่วยเป็น โรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา หรือ โรคเส้นเลือดอักเสบ สังเกตให้ดีอาจไม่ใช่แค่แมลงหรือยุงกัด แต่ร้ายแรงกว่านั้น โชคดีไปหาหมอวินิจฉัยอาการทัน ถ้ามาช้าลูกเสี่ยงไตวายเสียชีวิตได้
ด้วยอาการป่วยของเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งที่ถูกแชร์อยู่ในโลกโซเชียลตอนนี้ ทำเอาคุณพ่อคุณแม่หลายคนวิตกไปตาม ๆ กันกับอาการที่ดูคล้ายโรคผิวหนัง โดยมีผืนแดงเป็นจ้ำ ๆ ตามร่างกาย ทำให้คนเข้าใจไปว่า เด็กคนดังกล่าวกำลังป่วยด้วยโรคผิวหนังที่ระบาดและคร่าชีวิตชาวเวียดนามไปแล้ว 19 ราย ก่อนที่แพทย์จะออกมายืนยันว่า หนูน้อยคนนี้ป่วยด้วย โรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา (Henoch Schonlein Purpura) ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ในเด็ก ไม่ใช่โรคระบาดจากประเทศเวียดนามแน่นอน
ซึ่งเมื่อได้ยินชื่อ โรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา นี้แล้วคุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่าคือโรคอะไรกันแน่ ร้ายแรงเพียงใด หรือมีอาการอย่างไร? ทางทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงได้ไปหาข้อมูลพร้อมสอบถามคุณแม่ของหนูน้อยที่ป่วยเป็นโรคนี้มา เพื่อคลายข้อสงสัยกันค่ะ
แม่แชร์เตือน! ลูกขาบวม มีรอยแดง อย่าคิดว่าแค่แมลงกัด
สุดท้ายเป็น โรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา
โดยคุณแม่ท่านนี้ได้โพสต์เรื่องราวถึงอาการป่วยของลูกสาววัย 4 ขวบครึ่ง ผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อ Tippawan Pingpittayakul ซึ่งคุณหมอแพทย์วินิจฉัยว่าเป็น “โรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา” โดยมีอาการเจ็บขา ฝ่าเท้าบวมปูด มีจ้ำเขียวคล้ายรอยช้ำ และจุดเล็กๆ ขึ้นตามซอกนิ้วและฝ่าเท้า ซึ่งเกิดขึ้นฉับพลันเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา จนสังเกตเห็นว่าเริ่มมีรอยจ้ำเขียวหนักขึ้น คุณแม่จึงพาน้องเข้ารับการรักษาในวันที่ 17 ก.พ. ต่อมา ทั้งนี้คุณแม่ได้บันทึกความเจ็บป่วยของลูกสาวตัวเล็กไว้เพื่อเตือนคุณแม่ ๆ ท่านอื่น ไว้ดังนี้…
ฮีน๊อค ทำไมต้องมาเป็นกับลูก????? แต่เมื่อเป็นแล้วต้องเข้าใจมันและอยู่กับมันให้ได้เพื่อลูก
รายละเอียดอาการเพื่อเป็นอุทาหรณ์ของคนเป็นแม่ เพราะมันไม่ใช่แค่ผื่น มันไม่ใช่แค่แมลงกัดหรือยุงกัด แต่มันร้ายแรงกว่านั้น โชคดีที่มาไว โชคดีที่มันยังไม่ถึงขั้นอาเจียนหรือทำร้ายไตของลูก โรคนี้เป็นโรคที่ไม่ค่อยจะมีคนเป็น แต่ก็มีคนเป็น โรคนี้ต้อง Follow up 1 ปี ห้ามวิ่ง ห้ามออกกำลังกาย ไม่ติดต่อ
15/2/61
ตอนเย็นไปรับพายอาร์กลับจากโรงเรียนแบบปกติทุกวัน แต่ที่แปลกคือตอนรับกลับ พายอาร์ไม่ยอมยืนหน้ารถอย่างที่เคย บอกเจ็บขาๆ เลยนั่งกอดด้านหลังกลับบ้าน วันนั้นถอดถุงเท้ารองเท้าดู ใต้ฝ่าเท้าบวมปูด แว่บแรกที่คิดได้คือ ลูกไปโดนอะไรกัดมา สอบถามครูไม่มีใครรู้ ถามลูกลูกบอกเจ็บตอนนั่งเขียนการบ้าน คืนนั้นเค้าไม่ได้บอกอะไรมาก แค่เจ็บ เราก็รอดูอาการ ไม่มีไข้ กะว่าถ้าอะไรกัดเช้าวันถัดไปน่าจะยุบ
อ่านต่อ >> “แม่แชร์เตือน! ลูกเป็นโรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา โรคหลอดเลือดอักเสบชนิดหายาก ที่ต้องสังเกตให้ดี” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
แม่เล่าอาการ! ลูกเป็น โรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา (ต่อ)
16/2/61
เช้าวันรุ่งขึ้น ลูกบอกยังเจ็บอยู่ยืนไม่ได้ เลยให้หยุดเรียน ฝ่าเท้าด้านขวายังนูนปูด แต่ด้านซ้าย ด้านข้างๆเท้า กลายเป็นรอยช้ำ จ้ำเขียว วันนั้นเลยพาไปหาหมอโรงพยาบาลใกล้บ้าน หมอส่องรอยเขี้ยว หาร่องรอยการโดนกัดของแมลง ไม่พบ เลยได้ยาฆ่าเชื้อมา คิดว่าน่าจะเป็นแมลงเล็กๆกัดแล้วเกิดอาการแพ้ วันนั้นกลับมาลูกก็ยังบอกเจ็บขา และเริ่มมีจุดเล็กๆแดงๆขึ้นที่เท้า และขา
17/2/61
ลูกตื่นเช้ามาพร้อมกับอาการเจ็บหลัง รีบเปิดดูว่ามีผื่นขึ้นหลังมั้ย แต่ไม่มี ตลอดระยะอาการเจ็บขา อุ้มลูกไปไหนมาไหนเข้าห้องน้ำตลอด เดินไม่ได้ ได้เพียงนั่งอยู่กับที่ เช้านี้จุดเริ่มเยอะขึ้น พอตกบ่ายแก่ๆจากจุดกลายเป็นรอยปื้นใหญ่ และการเจ็บหลังและขามีมากขึ้น แตะตัวไม่ได้เลย อุ้มไว้บนตักพอขยับก็ร้อง เลยต้องพามาหาหมอประจำตัว หลังจากหมอพบร่องรอย หมอเจาะเลือดไปตรวจ และสันนิษฐานเลยว่า พายอาร์เป็น ฮีน็อค ซึ่งรอผลเลือดยืนยันอีกรอบ
18/2/61
ผลเลือดออกเป็นที่แน่ชัดว่า เป็นแน่นอน หมอบอกโรคนี้ไม่ทราบสาเหตุน้อยคนที่จะเป็น แต่ก็มีคนเป็น เบื้องต้น ต้องให้สเตียรอยด์ และยาเพื่อกดเม็ดเลือดขาว ยาที่ได้รับได้ทางสายน้ำเกลือ คุณหมอแปลนไว้ว่าวันพุธที่ 21/2/61 ถ้าอาการดีขึ้น ผื่นยุบ บวมยุบ เราจะได้กลับบ้าน
อ่านต่อ >> “ลักษณะอาการของโรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา ที่พ่อแม่ต้องรู้” คลิกหน้า 3
19/2/61
หลังจากได้ยา อาการปวดตามขาและหลังเริ่มหาย เหลือเพียงรอยผื่นและรอยช้ำ ส่วนหลังยังทิ้งรอยปูดอยู่ แต่ไม่เจ็บ ตลอดระยะการรักษา ต้องจดปริมาณเข้าออกน้ำ ฉี่กี่ครั้ง ปริมาณเท่าไหร่ กินน้ำไปเท่าไหร่ ต้องจดหมด และมีการนำฉี่ไปตรวจ
20/1/61
วันนี้ขาที่บวมเริ่มยุบลง และหลังหายปูด ยุบลงเช่นกัน เหลือเพียงรอยช้ำเล็กๆตามซอกนิ้วและฝ่าเท้า หมอบกว่าจะถอดน้ำเกลือให้และเปลี่ยนจากยาฉีดเป็นยากินเพื่อดูปฏิกิริยา ถ้ามันตอบสนองดีขึ้น จะได้กลับบ้าน
21/1/61
พายอาร์ตื่นมาพร้อมกับคำพูดแรก “มาม๊าวันนี้เราจะได้กลับบ้านแล้ว” ทุกคนดีใจ เก็บข้าวของเรียบร้อยเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมกลับ แต่พายอาร์บอกว่ามีปวดตรงหัวเข่า เลยบอกว่าลูกว่า เดี๋ยวคุณหมอมา บอกคุณหมอนะคะ พอหมอเข้า หมอเห็นเข่าพายอาร์ปูดมาก หมอบอกว่ากลับไม่ได้แล้วคะคุณแม่ หมอขอเพิ่มโด๊ดยา และรอดูผล ถ้าไม่ดีขึ้น ต้องเจาะน้ำเกลือให้ยาทางสายอีกรอบ ขออย่าให้เป็นเช่นนั้น…
ทั้งนี้สำหรับอาการของน้องพายอาร์หลังออกจากโรงพยาบาลในวันที่ 22 ก.พ. ทางคุณแม่ก็เผยว่า น้องมีอาการดีขึ้นมาก หลังจากเข้ารับการรักษา แต่หมอแจ้งว่าโรคนี้ต้องติดตามดูอาการ Follow up 1ปีค่ะ เพราะมันสามารถออกอาการขึ้นมาอีกได้
อย่างไรก็ดีทางทีมงาน Amarin Baby & Kids ก็ขอให้น้องพายอาร์ หายดีสุขภาพแข็งแรง กลับมา เดินและวิ่งเล่นได้ น่ารักสดใสในเร็ววันนะคะ ^^
ขอบคุณเรื่องราวและภาพจาก : คุณแม่ Tippawan Pingpittayakul
และสำหรับโรคที่น้องพายอาร์เป็นนั้น พญ.นุชนาฏ รุจิเมธาภาส นายแพทย์ชำนาญการงานโรคผิวหนัง สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดเผยว่า…
อ่านต่อ >> “ลักษณะอาการของโรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา ที่พ่อแม่ต้องรู้” คลิกหน้า 4
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อาการของอาการของ
โรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา ที่พ่อแม่ต้องรู้
โรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา (Henoch Schonlein Purpura) หรือมีชื่อภาษาไทยว่า “โรคหลอดเลือดอักเสบ”เกิดได้กับคนทุกวัย โดยเฉพาะเด็กวัย 2-11 ปี แต่จะพบได้บ่อยในเด็ก อายุเฉลี่ย 6 ปี และมักจะพบในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กหญิง โดยในประเทศไทยพบโรคนี้ในอัตรา 22 คน ต่อประชากร 100,000 คน
อย่างไรก็ตามโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่า… เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกันร่างกายเฉียบพลัน หรือภูมิแพ้ตัวเอง
ซึ่งอาจถูกกระตุ้นด้วยการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือ ไวรัสบางชนิด ทำให้หลอดเลือดเล็กอักเสบ และแสดงอาการออกมาทางส่วนต่าง ๆ เริ่มจากผื่นที่ผิวหนัง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจมักเข้าใจผิดว่าเป็นผื่นจากแมลงกัด รวมไปถึงบริเวณ ตา ทางเดินอาหาร กระดูกและข้อ รวมทั้งไต ซึ่งอาการอักเสบของเส้นเลือดขนาดเล็กนี้ มักเกิดขึ้นตามหลังการเชื้อทางเดินหายใจ เช่น เป็นหวัดมาก่อนหน้า
ผื่นที่เกิดจากโรคเส้นเลือดฝอยอักเสบ ลักษณะผื่นระยะแรกจะเป็นจุดแดงๆ คล้ายยุงกัด แต่เด็กจะไม่มีอาการคัน หากปล่อยไว้ก็จะเพิ่มขึ้น จะสังเกตว่าผื่นจะเป็นที่บริเวณขาทั้ง 2 ข้างเท่าๆ กัน เวลากดลักษณะผื่นจะเป็นสีแดง กดไม่จาง ถ้าเป็นมากขึ้นเด็กจะรู้สึกไม่อยากเดิน ปวดขา ปวดข้อเท้า ถ้าเป็นมากขึ้นอีก ก็จะมีอาการปวดท้อง ลักษณะปวดเป็นๆ หายๆ ถ้าเป็นมากขึ้นอีกก็อาจจะถ่ายเป็นเลือด
ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคนี้อาจจะแสดงอาการออกมาหลายอย่าง จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของร่างกาย บางคนอาจจะมีอาการปวดท้อง ปวดตามข้อ ไตอักเสบ มีผื่นเป็นลักษณะแดงขึ้นเกิดขึ้นตามผิวหนัง ขา เท้า แขน และก้น
หากนอนมากอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ข้อบวมอักเสบ โดยเฉพาะที่ข้อเท้า หัวเข่า ปวดท้อง เลือดออกในทางเดินอาหาร หรือภาวะลำไส้กลืนกัน รวมถึงไตอักเสบ แต่หากเป็นหนักก็ถึงขั้นไตวายเสียชีวิต ซึ่งมีโอกาสพบได้น้อยมาก
วิธีการรักษาโรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา
คุณหมอจะรักษาเด็กที่ป่วยโรคฮีน็อคตามอาการที่ปรากฏ พร้อมกับให้ยากดภูมิคุ้มกัน เพื่อควบคุมอาการหลักของโรคให้ทุเลาลง เช่น หากผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องเลือดจาง ซีด คุณหมอก็จะให้เลือด เป็นต้น
หรือให้ยาลดการอักเสบของเส้นเลือดฝอย โดยผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ หากไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่ก็ยังจำเป็นต้องติดตามอาการตลอด 1 ปี โดยห้ามผู้ป่วยวิ่ง ออกกำลังกายหนัก เพราะโรคนี้อาจกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
อย่างไรก็ตาม โรคนี้ไม่ใช่โรคระบาด หรือโรคติดต่อ ดังนั้น หากรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลา ผู้ป่วยก็สามารถหายจากโรคนี้ได้ภายในเวลาไม่นาน
และแม้ว่าประเทศไทยยังไม่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจาก โรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา และโรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เนื่องจากป้องกันไม่ได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติของลูกน้อยให้ดี เพื่อจะได้เข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลา
อ่านต่อ “บทความอื่นน่าสนใจ” คลิก!
- 6 โรคหายากในเด็ก ที่พ่อแม่ต้องทำความรู้จัก
- ซางอันตราย ลูกน้อยอาจเสี่ยงสารพัดโรคร้ายแรง
- แม่แชร์ประสบการณ์สังเกตให้ดี ลูกป่วย มีตุ่มแดงแปลกๆ ขึ้น เสี่ยงเป็น โรค ITP เกล็ดเลือดต่ำ รักษาช้าเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต!
- โรคทางพันธุกรรม ถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกมีอะไรบ้าง?
ขอบคุณข้อมูลจาก : news.thaipbs.or.th , www.printo.it