ลูกเกือบเสียชีวิต เพราะพิษร้ายไข้หวัดใหญ่ H1N1

น้องโอม หนูน้อยวัย 3 เดือน ป่วยเป็นโรค “ไข้หวัดใหญ่ H1N1” ขั้นรุนแรง!! โดยเริ่มมีอาการไข้หวัด คือมีไข้สูง ไอ มีน้ำมูก และมีอาการเหนื่อยหอบมาก และมีภาวะแทรกซ้อน คือ ปอดอักเสบ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ คุณหมอตรวจวินิจฉัย พบว่าน้องโอม เป็นไข้หวัด H1N1

ไข้หวัดใหญ่ H1N1

คุณพ่อ คุณแม่ของน้องโอม ต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุดในชีวิต เมื่อลูกน้อยวัยเพียง 3 เดือน ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H1N1 ขั้นรุนแรง คุณพ่อกล่าวว่า

“ลูกอายุแค่ 3 เดือน ต้องนอนใส่เครื่องช่วยหายใจระดับสูงสุด ตัวลูกสั่นตลอดเวลา มือเท้าถูกตรึงไว้ และต้องมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตรอบตัว ทำใจลำบากมากเมื่อรู้ว่าลูกมีโอกาสรอดชีวิตแค่ 30%”

คุณพ่อ คุณแม่ทุกข์ใจมาก สงสารลูกน้อย แต่ก็ให้กำลังใจกันและกัน และบอกว่าเรายังมีความหวังตั้ง 30% ทุกวันที่ลูกอยู่ที่โรงพยาบาล คุณพ่อ คุณแม่จะมาดูลูกด้วยกันทุกเช้า มาอยู่เป็นเพื่อน ถึงแม้จะเข้าไปไม่ได้ ก็ขออยู่หน้าห้อง และมีความเชื่อมั่นในทีมแพทย์ว่าจะทำให้ลูกน้อยปลอดภัย

รักษาไข้หวัดใหญ่ H1N1 ใน ICU นาน 3 เดือน

น้องโอมมีอาการหายใจล้มเหลว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และพักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU เด็ก โดยมีทีมกุมารแพทย์เฉพาะทางเวชบำบัดวิกฤติเด็ก ดูแลอย่างใกล้ชิด น้องโอมมีภาวะแทรกซ้อนอันตรายคือ มีการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เข้าไปในไขกระดูก ทำให้เม็ดเลือด และเกล็ดเลือดต่ำ ต้องให้เลือด และส่วนประกอบของเลือดเป็นระยะๆ การทำงานของอวัยวะสำคัญล้มเหลว ต้องใช้ยากระตุ้นความดันโลหิต ช่วยพยุงหัวใจ ร่วมกับใช้เครื่องช่วยหายใจระดับสูง

น้องโอมต้องอยู่ในห้อง ICU ตลอด 3 เดือน มีทีมกุมารแพทย์เฉพาะทางดูแลหลายสาขา เช่น กุมารแพทย์โรคปอด กุมารแพทย์โรคติดเชื้อ กุมารแพทย์โรคเลือด กุมารแพทย์โรคไต กุมารแพทย์โรคหัวใจ กุมารแพทย์ระบบทางเดินอาหาร รวมถึงทีมพยาบาลเฉพาะทางเด็ก ทุกคนต้องร่วมกันดูแลอย่างใกล้ชิด

ทีมแพทย์ ต้องประคับประคองสัญญาณชีพต่างๆ เพื่อให้อาการกลับมาเป็นปกติ พร้อมกับให้ยาต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แต่อาการยังไม่ดีขึ้น มีการหายใจล้มเหลว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจชนิดความถี่สูง จัดว่าเป็นเครื่องช่วยหายใจระดับสูงสำหรับเด็ก หลังจากพักรักษาใน ICU ได้ 3 เดือน น้องโอมจึงกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน

รักษาไข้หวัดใหญ่ H1N1 ที่บ้าน นาน 1 ปี

น้องโอมต้องกลับมาทำการรักษาต่อที่บ้าน หลังจากอยู่ในห้อง ICU นาน 3 เดือน โดยใส่ออกซิเจนช่วยหายใจ เพื่อประคับประคองปอดที่ได้รับบาดเจ็บจากเชื้อไวรัส คุณพ่อ คุณแม่ จัดสิ่งแวดล้อมที่บ้านตามคำแนะนำของคุณหมอ ใช้ออกซิเจน พ่นยา ออกกำลังกายปอด ให้วัคซีนป้องกัน และทีมแพทย์มาเยี่ยมน้องโอมเป็นระยะๆ จนใช้เวลาผ่านไป 1 ปี น้องโอมก็สามารถลดการใช้ออกซิเจนลงเรื่อยๆ จนหายดีในที่สุด

อ่านต่อ “ไข้หวัดใหญ่ H1N1 คืออะไร อาการและการป้องกัน” คลิกหน้า 2

ไข้หวัดใหญ่ H1N1 คืออะไร?

พญ.ดาริน  บรรจงศิลป์  กุมารแพทย์โรคระบบหายใจและเวชบำบัดวิกฤต โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้ให้ความรู้เอาไว้ดังนี้

โรคไข้หวัดใหญ่ H1N1 เป็นโรคที่สามารถติดเชื้อ และป่วยได้ทั้งเด็กเล็ก เด็กโต และผู้ใหญ่ สาเหตุเพราะสามารถติดต่อจากคนสู่คน โดยการสัมผัสละออง เช่น การไอ จาม น้ำมูก ผู้ติดเชื้อจะเริ่มมีอาการหลังจากรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย 1-4 วัน

อาการของไข้หวัดใหญ่ H1N1

ความจริงแล้วอาการของโรคไข้หวัดใหญ่จำนวนมาก จะเป็นเหมือนกันทุกสายพันธุ์ พบได้ตั้งแต่มีอาการน้อยมาก ไปจนถึงอาการหนักจนถึงขั้นเสียชีวิต คือ มีไข้สูง ไอ จาม มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย และมีอาการบางอย่างที่พบจากภาวะแทรกซ้อน เช่น หายใจเหนื่อยหอบ และในเด็กเล็กอาการจะคล้ายผู้ใหญ่ แต่จะมีอาการอาเจียน หรือท้องเสียบ่อยกว่า

อาการสำคัญของไข้หวัดใหญ่ คือภาวะแทรกซ้อน อาการโดยทั่วไปผู้ป่วยส่วนมากจะดีขึ้นไม่เกิน 2 สัปดาห์ แต่ถ้าเกิดมีภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี คุณแม่ตั้งครรภ์ คนที่เป็นโรคอ้วน หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไตวายเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคปอด ต้องระวังเป็นพิเศษ

คุณหมอแนะนำ หลีกเลี่ยงคนพลุกพล่านป้องกันไข้หวัดใหญ่ H1N1

กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้ให้คำแนะนำว่า โรคไข้หวัดใหญ่นั้นติดต่อกันง่าย สามารถแพร่เชื้อได้ภายใน 1-2 วัน และมักจะกระจายในชุมชนง่ายมาก การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ สามารถฉีดได้ตั้งแต่ 6 เดือน และควรหลีกเลี่ยงการพาลูกน้อยไปในที่ชุมชน ที่มีคนพลุกพล่าน โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ และลดภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยในเด็กวัยนี้ได้

นิตยสาร Amarin Baby & Kids ฉบับเดือนกันยายน 2559

Save

Save

Save

Save