ไม่อยากให้ลูกไม่สบายบ่อย ต้องหมั่นล้างมือให้สะอาด มิเช่นนั้น ลูกอาจเป็น 5 โรคที่มากับมือ นี้ก็เป็นได้!ซึ่งในว
เคยสงสัยกันไหมคะว่า ทำไมคุณหมอถึงต้องรณรงค์ให้พวกเราทุกคนหมั่นล้างมือกันให้สะอาดทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กตัวเล็ก ๆ … เพราะคุณหมอรู้ดีกว่า การที่ปล่อยให้เด็ก ๆ ใช้มือที่สกปรกนั้นหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ และบางรายเผลอเอามือเข้าปากหรือไม่ก็หยี้ตา นั้นเป็นบ่อเกิดของการเกิดเชื้อโรคมากมาย ซึ่งแน่นอนค่ะว่า มันส่งผลให้เด็ก ๆ ไม่สบายตามมาด้วย
และด้วยความเป็นห่วง ในวันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids ก็จะมาขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับโรคต่าง ๆ ที่มีต้นเหตุมาจากมืออันสกปรกและล้างไม่สะอาดของเรานั่นเองค่ะ พร้อมวิธีการล้างมือให้สะอาด ถูกหลักและปลอดภัย ว่าแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชมพร้อม ๆ กันเลยดีกว่านะคะ
โรคอะไรบ้าง ที่มาพร้อมกับมือที่สกปรก คลิก!
5 โรคที่มากับมือ โรคที่พ่อแม่ควรระวังให้ดี!
- โรคท้องร่วง เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Escherichia coli ที่พบได้มากในลำไส้ของมนุษย์เรา แน่นอนค่ะว่า เจ้าแบคทีเรียชนิดนี้นั้น จะส่งผลต่อร่างกายหากลูก ๆ ล้างมือไม่สะอาด แล้วเผลอไปจับอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่ม และเมื่อรับประทานเข้าไป แบคทีเรียชนิดนี้ ก็จะส่งผลกับร่างกายของลูกได้โดยตรงเลย
- โรคผิวหนัง เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อโรคที่มีชื่อว่า Corynebacterium xerosis เป็นแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคผิวหนัง ส่งผลให้ผิวลูกแห้งเป็นขุย ไม่เรียบเนียน และถ้าเป็นมากก็จะส่งผลให้เกิดอาการคันตามมาได้
- โรคไข้หวัด เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ลูกเกิดการอักเสบหลังจากการติดเชื้อ ซึ่งเจ้าแบคทีเรียชนิดนี้มีชื่อเรียกว่า Streptococcus pyogenes เมื่อร่างกายได้รับการติดเชื้อ ก็จะทำให้เกิดอาการเจ็บคอ และเป็นไข้ได้ และหากเป็นมาก ก็ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจ หรือติดเชื้อในกระแสเลือดได้เลยละค่ะ
- โรคอาหารเป็นพิษ หากลูกเราเผลอไปหยิบจับสิ่งของรับประทาน หรือเอามือเข้าปากละก็ แน่นอนค่ะว่า เจ้าแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Staphylococcus aureus นั้นมันมาแน่นอนค่ะ ที่สำคัญแบคทีเรียชนิดนี้ร้ายกาจมาก เพราะมันทนความร้อนได้นั่นเอง เมื่อไรก็ตามที่เจ้าแบคทีเรียนี้เข้าสู่ร่างกายของลูก ก็อาจจะทำให้ลูกเป็นโรคอาหารเป็นพิษได้ค่ะ อาการก็คือ อาเจียน คลื่นไส้ ปวดท้อง และท้องร่วง เป็นต้น
- โรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่า ไวรัสอะไรที่เป็นบ่อเกิดของโรคนี้ เพราะแน่นอนว่า คุณพ่อคุณแม่รู้จักกันแทบทุกคน แต่สำหรับท่านไหนที่ยังไม่รู้ ทีมงาน Amarin Baby and Kids ก็จะมาบอกค่ะ ซึ่งไวรัสที่ว่านี้ก็คือ ไวรัส H1N1 นั่นเอง … คุ้นหูกันเลยใช่ไหมละคะ สำหรับไวรัสชนิดนี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายของลูกแล้ว ก็จะใช้เวลาฟักตัวอยู่ประมาณ 3 – 7 วัน แต่ถ้าหากลูกได้รับเชื้อโรคดังกล่าวในปริมาณที่มากละก็ เท่ากับเป็นการเร่งระยะการฟักตัวของโรคนี้ได้มากขึ้น … ไวรัสชนิดนี้จะพบมากในน้ำลาย เสมหะ และน้ำมูกของผู้ป่วยค่ะ และติดต่อได้จากมือ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่มีผู้ป่วยโรคได้หยิบจับไว้ ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ เจ้าไวรัส H1N1 นี้จะเข้าสู่ร่างกายของลูกผ่านจากจมูกและตาอีกด้วยละค่ะ
ล้างมืออย่างไรให้สะอาดถูกต้องและปลอดภัยห่างไกลโรค คลิก!
การล้างมืออย่างถูกวิธี
คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมคะว่า การปล่อยให้น้ำไหลผ่านมือเพียงไม่กี่วินาทีนั้น ไม่ได้ช่วยขจัดเชื้อโรคที่อยู่ในมือของเราให้หมดไปได้ หน่วยงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำถึงการล้างมือที่ได้ผล ว่าควรล้างด้วยสบู่และถูทำความสะอาดอย่างน้อย 20 วินาที โดยไม่ลืมที่จะความสะอาดข้อมือ หลังมือ ง่ามนิ้วมือ และบริเวณซอกเล็บหากเล็บยาวด้วย เรียบร้อยแล้วล้างด้วยน้ำเปล่าและเช็ดมือให้แห้ง หรืออธิบายเป็นขั้นตอนที่ละเอียดตามการล้างมือมาตรฐาน 11 ข้อ ดังนี้
- ล้างมือด้วยน้ำสะอาด
- ใช้สบู่ในปริมาณที่เพียงพอต่อการล้างมือในแต่ละครั้ง
- ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างถูกันและกัน โดยสลับกันถู
- ใช้ฝ่ามือข้างซ้ายถูหลังมือข้างขวา โดยสอดนิ้วเข้าไปถูง่ามนิ้ว ทำสลับกันกับมืออีกข้าง
- ถูฝ่ามือด้วยการไขว้นิ้วมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันคล้ายท่าประสานมือ
- ใช้นิ้วทั้งสี่ของมือทั้งสองเกี่ยวกันในท่ามือหนึ่งคว่ำ มือหนึ่งหงาย เพื่อถูหลังนิ้วมือด้วยฝ่ามืออีกข้าง
- ใช้มือข้างซ้ายจับนิ้วโป้งข้างขวาแล้วหมุนไปมา ทำซ้ำแบบเดียวกันกับนิ้วโป้งข้างซ้าย
- ถูปลายนิ้วเข้ากับฝ่ามือของอีกข้างในท่าหมุนเป็นวงกลมกลับไปกลับมาบนฝ่ามือ
- ล้างสบู่ออกด้วยน้ำ
- เช็ดมือให้แห้งดีด้วยกระดาษชำระสำหรับเช็ดมือ
- อาจใช้กระดาษชำระที่เช็ดมือปิดก๊อก เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคอีกครั้ง
ซึ่งคุณพ่อคุณแม่นั้น อาจจะสอนให้ลูกล้างมือด้วยการผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น การร้องเพลง เป็นต้น อยากให้ลูกห่างไกล 5 โรคที่ได้กล่าวมานั้น อย่าลืมปลูกฝังให้ลูกล้างมือให้สะอาดกันนะคะ เพราะเจ้าแบคทีเรียหรือไวรัสตัวเล็ก ๆ ที่เราไม่สามารถมองเห็นนั้น พิษสงของมันร้ายแรงจริง ๆ เลยละค่ะ
เครดิต: Pobpad และ MThai
อ่านต่อเนื้อหาอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่