ใกล้หน้าหนาวเข้ามาทุกที กรมควบคุมโรคเตือน ระวัง 6 โรคระบาดหน้าหนาว เอาไว้ให้ดี
คุณพ่อคุณแม่สังเกตกันไหมคะว่า ช่วงนี้ตอนเช้าอากาศเริ่มเย็นลงและฟ้ามืดไวขึ้น นั่นแสดงว่าประเทศของเรากำลังเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวกันแล้วละค่ะ แน่นอนว่า หน้าหนาวก็เป็นอีกหน้าหนึ่งที่ทำให้เราพบเห็นโรคระบาดต่าง ๆ มากมายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก ๆ
และในวันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะขอนำเสนอ 6 โรคระบาดที่ชอบมาพร้อมกับหน้าหนาวให้คุณพ่อคุณแม่ได้รับทราบกันค่ะ ซึ่งจะมีโรคอะไรบ้างนั้น กรมควบคุมโรคได้รวบรวมเอาไว้แล้ว ดังต่อไปนี้
โรคที่ชอบระบาดหน้าหนาวมีอะไรบ้าง อยากรู้คลิกเลย!
6 โรคระบาดหน้าหนาว ที่ควรระวังให้ดี
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาเตือนคุณพ่อคุณแม่ ให้ระวัง 6 โรคดังนี้เอาไว้ให้ดี
- โรคไข้หวัด โรคยอดฮิตที่ชอบมาในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง และมีลักษณะอาการที่คล้ายคลึงกับไข้หวัดใหญ่เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งข้อแตกต่างของไข้หวัดธรรมดาก็คือ มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ไอจาม และคันคอเป็นต้น แต่จะไม่ค่อยพบว่ามีไข้หรือมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อให้เห็นเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ค่ะ
- โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอย่างฉับพลัน ซึ่งไวรัสต้นเหตุนั้นก็คือ อินฟลูเอ็นซาไวรัสหรือไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งหลัก ๆ แล้วมีทั้งสิ้น 2 ชนิดที่อันตรายและมักพบเห็นได้บ่อย ๆ นัั่นคือ อินฟลูเอ็นซา ชนิด A และชนิด B ส่วนชนิิด C นั้นไม่ค่อยมีความรุนแรงเหมือนกับสองชนิดที่แรกมากนัก และก็ไม่ค่อยพบว่ามีคนเป็นด้วยเช่นกันค่ะ โรคไข้หวัดใหญ่นั้น สามารถหายเองได้ภายใน 5 – 7 วัน อาการที่พบก็คือ มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว อาเจียน และกลุ่มเสี่ยงก็ได้แก กลุ่มผู้ใหญ่วัยทำงานและเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี
อ่านต่อ >> ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และ B ต่างกันอย่างไร ?
- โรคปอดบวม เกิดจากการอักเสบของเนื้อปอด สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และพยาธิ โดยเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปอดบวมที่พบบ่อยในเด็ก ได้แก่ เชื้อนิวโมคอคคัส เชื้อฮีโมฟิลุส เชื้อไมโครพลาสม่า ส่วนเชื้อไวรัสที่พบบ่อย ได้แก่ เชื้ออาร์เอสวี เชื้อไข้หวัดใหญ่ อาการของโรคปอดบวม ที่พบนั้นได้แก่ ไอ มีไข้ เสมหะมีมาก หอบ ซึม เบื่ออาหาร และหายใจเร็ว เป็นต้น
โรคที่ชอบระบาดหน้าหนาวมีอะไรบ้าง อยากรู้คลิกเลย!
- โรคหัด เป็นไข้ออกผื่น เกิดจากเชื้อไวรัส Measles โดยติดต่อที่ระบบทางเดินหายใจ คือจมูก และลำคอ เมื่อเชื้อเข้าไปจะแบ่งตัวในทางเดินหายใจ ใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน จึงเริ่มมีอาการแสดงให้เห็น โดยเริ่มจากมีไข้ต่ำๆ แล้วสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยจะสูงถึง 41-42 องศาเซลเซียส ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ตาแดง ผู้ป่วยโรคหัดอาจมีโรคแทรกซ้อน ได้แก่ ปอดอักเสบ อุจจาระร่วง ช่องหูอักเสบ สมองอักเสบและภาวะทุพโภชนาการ โดยเฉพาะในเด็กที่มีภาวะขาดสารอาหาร หรือขาดวิตามินเอ เมื่อเป็นหัดจะมีความรุนแรงมาก และถ้ามีปอดอักเสบร่วมด้วย อาจทำให้เสียชีวิตได้เลยละค่ะ
- โรคหัดเยอรมัน เป็นโรคไข้ออกผื่นที่พบทั้งในเด็กและในผู้ใหญ่ เนื่องจากแพทย์ชาวเยอรมันเป็นผู้ที่ให้คำอธิบายว่า โรคนี้เป็นโรคใหม่ที่ต่างจากหัด จึงเรียกโรคนี้ว่าหัดเยอรมัน เป็นโรคติดเชื้อที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ถ้ามีอาการจะมีไข้และออกผื่นคล้ายหัด แต่มีความรุนแรงน้อยกว่าหัด และมักจะหายได้เองโดยไม่มีโรคแทรกซ้อน แต่มีความสำคัญคือ ถ้าเกิดการติดเชื้อในหญิงตั้งครรภ์ เชื้ออาจแพร่กระจายเข้าทารกในครรภ์ ทำให้เกิดการพิการได้สาเหตุของหัดเยอรมัน เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชื่อ รูบิไวรัส หรือ บางคนเรียกว่า รูเบลลาไวรัส ซึ่งอยู่ในตระกูล โทกาวิริดี โรคนี้เป็นแล้วมีภูมิคุ้มกันไปตลอดชีวิต และมีวัคซีนป้องกันได้
- โรคอีสุกอีใส สามารถเรียกอีกอย่างได้ว่า โรคฝีดาษไก่ เป็นโรคที่ติดต่อได้จากเชื้อไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ เป็นโรคที่ระบาดได้ง่ายและแพร่กระจายได้โดยการแพร่เชื้อผ่านทางอากาศของละอองที่มาจากทางเดินหายใจ หรือจากของเหลวที่มาจากแผลตุ่มน้ำบนผิวหนัง ของผู้ที่เป็นโรคอีสุกอีใสหรือโรคงูสวัด ผู้ที่ติดเชื้ออีสุกอีใสจะมีไข้และผื่นคัน โดยปกติแล้วผื่นจะเห่อขึ้นมากกว่า 5 วันโดยจะเริ่มขึ้นเป็นตุ่มน้ำบนหนังศีรษะและใบหน้าก่อน แล้วจึงจะเคลื่อนไปที่ลำตัวและตามแขนขา ผื่นจะขึ้นโดยส่วนมากตามลำตัว ตุ่มน้ำจะคันและหลังจากนั้นจะแห้งลงและกลายเป็นสะเก็ดในระยะเวลาประมาณ 3 วัน ผู้ที่เป็นโรคอีสุกอีใสส่วนมากจะหายเป็นปกติใน 2 ถึง 4 สัปดาห์
วิธีที่จะป้องกันลูกหลานให้ปลอดภัยจากโรคเหล่านี้ก็คือ หมั่นล้างมือให้สะอาด และหลีกเลี่ยงไปอยู่ในสถานที่แออัด เท่านี้ลูกน้อยของเราก็ห่างไกลจากโรคระบาดนี้แล้วล่ะค่ะ
เครดิต: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
- การติดเชื้อ เอนเทอโรไวรัส 71 โรคระบาดสายพันธุ์รุนแรง
- โรคปอดบวมในเด็ก หาหมอช้าอาจสูญเสียอวัยวะบางส่วนได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่