AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

หมอจุฬาเตือน! 5 โรคผิวหนังในเด็ก ต้องระวังช่วงหน้าหนาว

โรคผิวหนัง สำหรับลูกน้อย อาจเกิดขึ้นได้ทุกฤดู ซึ่งในช่วงที่อากาศเย็นลง หรือมีอากาศแห้งๆ หากลูกบ้านไหนภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ ก็อาจเจอเชื้อไวรัสทำให้ป่วยได้ โดยเฉพาะเชื้อไวรัสที่เกี่ยวกับผิวหนัง ซึ่งจะมีโรคอะไรบ้างที่คุณแม่ต้องใส่ใจดูแลลูกน้อยเป็นพิเศษมาดูกันเลยค่ะ

สำหรับสภาพอากาศเมืองร้อนอย่างบ้านเรา เมื่อลมหนาวมาเยือนทีไร ทุกคนก็ต่างพากันดีอกดีใจยกใหญ่ แต่ก็อาจไม่ใช่บ้านที่มีลูกน้อย ซึ่งพ่อแม่มักมีปัญหากวนใจที่มาพร้อมกับอากาศแห้ง ๆ ในช่วงฤดูหนาวโดยไม่ทันได้ระวังกัน ซึ่งก็คือ โรคผิวหนัง นั่นเอง

โรคผิวหนัง เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส มีด้วยกันหลายโรคแบ่งออกเป็น 2 จำพวกได้แก่ DNA และ RNA ไวรัสซึ่งสามารถทำให้เกิดโรคได้หลายชนิด เช่น หัด หัดเยอรมัน ไข้สุกใส เป็นต้น ซึ่ง โรคผิวหนัง นี้ ศ.ดร.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ออกมาเตือนให้คุณพ่อคุณแม่ระวัง ลูกน้อยอาจป่วยเป็น 5 โรคผิวหนัง เหล่านี้ได้

5 โรคผิวหนัง ต้องระวังลูก ในหน้าหนาว อากาศแห้ง

1. โรคสุกใส หรือ อีสุกอีใส (Chickenpox)

เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลา (Varicella Virus) เป็นโรคที่ระบาดแพร่กระจายได้ง่าย โดยเฉพาะในโรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือตามชุมชนที่อยู่อาศัยทั่วไป สามารถพบได้ตลอดทั้งปี แต่จะมีอุบัติการณ์เกิดสูงสุดในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน

อีสุกอีใส สามารถติดต่อโดยการหายใจ หรือการสัมผัสถูกตุ่มแผลสุกใสโดยตรง รวมถึงการสัมผัสถูกของใช้ เช่น ที่นอน ผ้าเช็ดหน้า ฯลฯ มักเกิดขึ้นได้ทั้งเด็กเล็ก วัยรุ่น หนุ่มสาว ไปจนถึงผู้ใหญ่

อาการบ่งชี้ ได้แก่ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร เป็นผื่นแดงราบ ต่อมาจะเริ่มมีเป็นตุ่มน้ำใสๆ เหมือนหยดน้ำขึ้นตามตัว กระจายตามใบหน้า ลำตัว และมีไข้

วิธีรักษาโรคผิวหนัง อีสุกอีใส

วัคซีนสำหรับป้องกันโรค

เป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็นฉีดเข้าที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ในผู้ใหญ่และเด็กอายุเกิน 12 ปีต้องฉีด 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 4-8 สัปดาห์ เนื่องจากวัคซีนเป็นชนิดเชื้อเป็นจึงมีข้อห้ามในผู้ทีมีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ทีรับประทานยากดภูมิต้านทาน ผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ยังไม่ได้รักษา และหญิงมีครรภ์

ในเด็กที่ไม่มีข้อบ่งห้าม สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 12 – 15 เดือนขึ้นไป และฉีดกระตุ้นอีกครั้งที่อายุ 4 -6 ปี หรืออาจฉีด 2 เข็มห่างกันอย่างน้อย 3 เดือน ซึ่งภูมิต้านทานจะขึ้นดีกว่าฉีด 1 เข็ม

เมื่อฉีดครบ 2 เข็มพบว่า 99% ของผู้รับวัคซีนจะเกิดภูมิต้านทานต่อโรค ผู้ที่ได้รับวัคซีนส่วนหนึ่งยังอาจเกิดโรคสุกใสได้ แต่อาการจะไม่รุนแรง เช่น อาจไม่มีไข้ หรือจำนวนผื่นน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่เคยรับวัคซีน

อ่านต่อ >> โรคผิวหนัง ต้องระวังลูก ในหน้าหนาว อากาศแห้ง” คลิกหน้า 2


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.phyathai.com

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

2. โรคหัด (Measles/Rubeola)

เป็นโรคที่ติดต่อกันทางระบบทางเดินหายใจ มักเป็นในเด็กอายุ 1 ปี จนถึงระดับประถมศึกษา นับว่าเป็นโรคที่มีความสำคัญมากโรคหนึ่ง เพราะอาจเกิดโรคแทรกซ้อนทำให้ถึงเสียชีวิตได้ ซึ่งมักจะติดต่อกันได้ง่ายทางเสมหะ น้ำลายเกิดจากเชื้อ Measles virus มักจะระบาดตอนฤดูหนาวถึงฤดูร้อน

อาการของโรคหัด เมื่อได้รับเชื้อหัดเข้าไปในร่างกาย ระยะแรกจะยังไม่ปรากฏอาการใดๆ เพราะเชื้อจะใช้เวลาในการฟักตัวของโรค ประมาณ 1-2 อาทิตย์ โดยอาการของโรคหัดจะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะก่อนออกผื่นและระยะออกผื่น

  1. ระยะก่อนออกผื่น เริ่มด้วยการมีไข้สูง น้ำมูกไหล เจ็บคอ ไอ นอกจากนั้นยังมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหารร่วมด้วย จะเป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 3-4 วันก่อนออกผื่น และภายในกระพุ้งแก้มจะเกิดจุดเล็กๆ ขาวๆ ขอบสีแดงขึ้น ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคหัด
  2. ระยะออกผื่น ผื่นจะมีลักษณะนูนแดง ไม่คัน เริ่มขึ้นที่บริเวณใบหน้าก่อน หลังจากนั้นจะแพร่กระจายไปทั่วตัว เมื่อผื่นขึ้น ไข้จะเริ่มลดลง ระยะแรกผื่นจะมีสีแดง ต่อมาสีจะเข้มขึ้นจนแดงคล้ำเป็นเวลาเกือบอาทิตย์ก่อนจะหายไป

การรักษาโรคหัด

เนื่องจากโรคหัดเกิดจากเชื้อไวรัสดังนั้นจึงไม่มียาที่รักษาโดยตรง ท่านต้องปรึกษาแพทย์ของท่านให้ทราบถึงวิธีดูแล และโรคแทรกซ้อนต่างๆ หลักการดูแลทั่วๆไป คือ

การป้องกันโรคหัด

สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน MMR ตามตารางการฉีดวัคซีน หรือสามารถฉีดวัคซีนก่อนสัมผัสโรค หรือหลังสัมผัสโรคไม่เกิน 3 วันก็กันโรคได้ และควรระวังให้ลูกหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ติดเชื้อหัดด้วย

3. โรคหัดเยอรมัน (Rubella, German measles)

เป็นโรคติดต่อเกิดจากเชื้อไวรัส Paramyxovirus ทำให้เกิดอาการคือมีไข้ ผื่น และต่อมน้ำเหลืองโต ส่วนใหญ่มักจะหายเองโดยที่ไม่มีโรคแทรกซ้อน

สามารถติดต่อกันทางระบบทางเดินหายใจ จากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่งโดยการหายใจเอาเสมหะ หรือน้ำลายของผู้ป่วยซึ่งจามหรือไอออกมา ระยะติดต่อ 1 อาทิตย์ก่อนและหลังออกผื่น

อาการบ่งชี้ ได้แก่ มีไข้ต่ำ ปวดเมื่อยตามตัว หลังจากนั้นจะมีผื่นขึ้นที่บริเวณหน้า คอ ลำตัว แขน และขา ผื่นมักขึ้นเต็มตัวภายในระยะเวลา 1 วัน และต่อมน้ำเหลืองจะโต ผื่นมักจะหายไปเองภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 วัน

การรักษาโรคหัดเยอรมัน

โรคนี้หายได้เอง ให้วัดไข้วันละ 2 ครั้ง ควรพบแพทย์ถ้าไข้มากกว่า 38 °C และห้ามใช้ยาแอสไพรินในการลดไข้เนื่องจากอาจจะทำให้เกิด Reye’s syndrome เช่นเดียวกับ 2 โรคข้างต้นที่กล่าวมา

การป้องกันโรคหัดเยอรมัน

ที่สำคัญเด็กทุกคนควรฉีดวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันตามเกณฑ์เพื่อป้องกันการเกิดโรค และถ้าสตรีมีครรภ์เป็นโรคนี้ขณะตั้งครรภ์อาจทำให้ทารกพิการได้

 

อ่านต่อ >> โรคผิวหนัง ต้องระวังลูก ในหน้าหนาว อากาศแห้ง” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

4. โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis)

เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ทุกฤดู แต่จะพบมากในฤดูหนาว ที่มีอากาศแห้ง หรือเย็น และมักทำให้เกิดอาการคันผิวหนังรุนแรง ไม่ควรเกา เพราะอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อ ทั้งนี้มักจะมีโรคภูมิแพ้ร่วมด้วย เช่น โรคหอบหืด แพ้อากาศ สาเหตุของโรคไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากพันธุกรรมเข้าไปเกี่ยวข้องโดยมีสิ่งแวดล้อมเป็นตัวกระตุ้น มักจะพบในเด็กโดยพบได้ประมาณร้อยละ 9-17 โรคนี้จะดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น

อาการบ่งชี้ ได้แก่ มีผื่นแดง ผิวแห้งลอก มีอาการคันมาก ซึ่งตำแหน่งที่เกิดโรค มักจะเป็นบริเวณ แก้ม คอ ข้อพับ ผื่นของเด็กมักจะเกิดที่ศีรษะ หน้า ผื่นของผู้ใหญ่มักจะเกิดที่ ข้อศอก ข้อเข่า คอมือ และเท้าตำแหน่งของผื่นที่พบได้บ่อยได้แก่ คอ ข้อพับ ข้อมือ เข่า ข้อเท้า

การรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

ในปัจจุบันยังไม่มีหนทางในการรักษาโรคนี้ให้หายขาด โดยการหาทางบรรเทาอาการที่ใช้ได้ผลเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้อาการคันและระคายเคืองลดลง การทำให้ผิวลดอาการอักเสบจะช่วยลดความเครียดและป้องกันการเกาซึ่งนำไปสู่อาการติดเชื้อของผิวหนัง โดยตัวเลือกในการบรรเทาโรคนี้มีตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายยา ยาตามที่แพทย์สั่ง หรือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต

โดยมาตรการในการป้องกันการกำเริบของอาการที่ดีที่สุดคือ การรักษาความชุ่มชื้นของผิวอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ผิวที่มีสุขภาพดีจะไม่อักเสบบ่อยๆและสามารถป้องกันสารก่อภูมิแพ้และสารก่อความระคายเคืองได้ดีขึ้น การอาบน้ำและทาครีมทุกวันเป็นวิธีง่ายๆที่จะทำให้ผิวชุ่มชื้น โดยควรจะทาครีมทันทีหลังจากอาบน้ำ

 

5. โรคผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมัน (Seborrtheic dermatitis)

ผื่นผิวหนังชนิดนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่าย เนื่องจากอากาศในฤดูหนาวมักทำให้ผิวหนังแห้ง มักพบในเด็กแรกเกิด และวัยผู้ใหญ่ มีลักษณะเป็นผื่นแดง มีสะเก็ดเป็นมัน คล้ายกับรังแค แต่มีขอบเขตชัดเจน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่บริเวณต่อมไขมันจำนวนมาก เช่น แก้ม จมูก หัวคิ้ว หน้า หู ไรผม หนังศีรษะ บริเวณหน้าอก และหัวหน่าว

อาการบ่งชี้ ได้แก่ มีลักษณะเป็นผื่นแดง มีสะเก็ดเป็นมัน มีขอบเขตชัดเจน มักอยู่บริเวณร่องข้างจมูก หว่างคิ้ว หน้าหู และหนังศีรษะ

โรคนี้เป็นโรคที่ไม่รุนแรง ไม่คันมากเหมือนกับโรคภูมิแพ้อื่น ๆ แต่ก็สร้างความรำคาญได้อย่างมาก เพราะจะเป็นผื่นแดง เป็นขุย ๆ ลอกเป็นสะเก็ด ทาแป้งไม่ได้เป็นขุยตลอดทำให้ถูกเรียกว่าเป็นรังแคที่หน้า ซึ่งจะเป็น ๆ หาย ๆ แต่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

การรักษาโรคผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมัน

เน้นเรื่องการทายาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หากเป็นเยอะก็จะใช้ยาต้านเชื้อรา แน่นอนว่าเนื่องจากเป็นโรคที่ไม่รุนแรงจึงสามารถหาซื้อยามาใช้เองได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่ไม่แนะนำให้ใช้ยาสเตียรอยด์ เพราะถ้าใช้มาก ๆ จะทำให้ผิวหนังบาง เส้นเลือดขยายจนทำให้เป็นสิวตามมาได้

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่คุณแม่เพิ่งพบความผิดปกติ เห็นลูกมีผื่นแดงที่ผิวหนังเป็นครั้งแรก ๆ ให้คุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยให้ชัดเจนเสียก่อนว่าเป็นโรคผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมันจริง ๆ หรือไม่ เนื่องจากลักษณะของโรคไปคล้ายคลึงกับโรคผิวหนังชนิดอื่นๆ คิดว่าเป็นเชื้อรา หรือแม้แต่การแพ้เครื่องสำอาง จนเกิดความเข้าใจผิดอยู่บ่อยครั้ง ทำให้การรักษาไม่ตรงกับโรค

นอกจากนี้ ในกรณีคนที่เป็น โรคผิวหนัง แบบนี้ครั้งแรก แต่ค่อนข้างเป็นหนัก อาจจะต้องมีการตรวจภูมิคุ้มกันของร่างกายร่วมด้วย เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีโรคอื่นแฝงอยู่ เช่น การติดเชื้อเอชไอวี หรือเป็นโรคเอดส์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าคนที่เป็นโรคผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมันทุกคนจะเป็นโรคแฝง หรือต้องตรวจเชื้อทุกคนแต่อย่างใด เฉพาะผู้มีความเสี่ยงเท่านั้น

อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!


โดย ศ.ดร.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.siamhealth.net , https://www.dailynews.co.th/article/366367