เป็นที่ทราบกันดีว่าผลไม้นั้นมีประโยชน์มากมายมหาศาล เพราะเป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ยิ่งช่วงนี้ผลไม้กำลังเก็บเกี่ยวและทยอยออกมาขาย โดยเฉพาะผลไม้ภาคตะวันออกไม่ว่าจะเป็น เงาะ มังคุด ทุเรียน ลองกอง แต่การเลือกซื้อผลไม้จำพวกนี้ก็ต้องระวังกันด้วยนะคะ …
มิเช่นนั้นอาจเป็นเหมือนหนูน้อยคนนี้ เพียงแค่เด็กน้อยกัดเปลือกเงาะไปคำเดียว คุณแม่ถึงกับต้องหามลูกส่งโรงพยาบาลแทบไม่ทัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อมีคุณแม่ท่านหนึ่งได้ซื้อเงาะมาจากตลาดในกรุงเทพฯ ซึ่งยังไม่ทันได้ล้างทำความสะอาด ลูกสาววัย 1 ขวบ 11 เดือนเห็นเข้า ก็อยากทานขึ้นมา เลยคว้าเข้าปากกัดเข้าไปทั้งเปลือก ยังไม่ได้กัดโดนแม้แต่เนื้อเงาะ หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงก็อาเจียนออกมาติดต่อกันเกิน 10 ครั้ง อีกทั้งลูกก็ไม่ยอมดื่มน้ำเกลือแร่ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด คุณแม่จึงตัดสินใจส่งลูกไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เมื่อไปถึงคุณหมอบอกว่า น้องขาดน้ำ ตัวซีด ชีพจรเต้นเร็ว เสี่ยงจะช็อค ต้องแอดมิทด่วน หลังจากตรวจอาการแล้ว คุณหมอบอกว่าน่าจะเจอพวกสารเคมีที่มากับผลไม้ เพราะน้องไม่ได้ทานอย่างอื่นเข้าไปเลยนอกจากข้าวไข่ตุ๋นที่แม่ทำเอง
จากเงาะที่ซื้อมากิโลกรัมละ 50 บาท กลายเป็นว่าต้องเสียเงินค่าแอดมิทที่โรงพยาบาลสูงถึง 7000 บาทต่อคืน คุณหมอได้ทำการรักษาและให้ยาแก้อาเจียน และยาฆ่าเชื้อ น้องอาการเริ่มดีขึ้นตามลำดับตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว กลับมาร่าเริงได้เหมือนเดิม แต่ก็เกือบแย่ตอนที่อาเจียนออกมาจนตัวซีด ชีพจรเต้นเร็ว นอกจากนี้คุณแม่ยังเผลอเอาปากกัดเงาะ มีอาการปากชา เช่นกัน
ซึ่งคุณแม่เจตได้แชร์เรื่องนี้ให้เป็นอุทาหรณ์กับคุณแม่ท่านอื่นๆ ใน Facebook เพื่อเป็นบทเรียน เลยไม่อยากให้ลูกๆ บ้านอื่นและคนอื่นๆ เจอแบบนี้โดยเธอยังบอกว่า ขอบคุณทุกกำลังใจและเธอผิดเองที่ไม่ทันระวัง ต่อไปคงต้องเลือกซื้อผลไม้ให้ดี และผลไม้ที่ปลอดภัยที่สุดก็คงต้องปลูกเอง
อ่านต่อ >> ข้อความที่คุณแม่เจต โพสต์ลง Facebook
พร้อมข้อความที่เป็นประโยชน์ต่างๆของผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น คลิกหน้า 2
ข้อความที่คุณแม่เจต @Jeda Bell โพสต์ลง Facebook
ใครว่าทุเรียนก้านยาวแพง เจอเงาะโล 7,000 อัพ หนาวเลยค่ะ
#เพิ่งซื้อเงาะมาวางไว้ยังไม่ทันได้แช่น้ำล้างทำความสะอาด ลูกอายุ 1.11 ขวบ เอาไปกัดทั้งเปลือก เพราะอยากทาน ไม่เกินชั่วโมง อาการออกเลยค่ะ อ้วกจนน้ำเหลืองๆออกแล้วค่ะ หาบส่งรพ.อย่างเร็ว (ที่ทราบว่าเป็นเงาะ เพราะลูกยังไม่ได้ทานอะไรไปนอกจากข้าวไข่ตุ๋นที่เราทำเองกับมือ) อันตรายมากๆค่ะ เดี๋ยวนี้น่ากลัว ทุกอย่างผ่านสารเคมีทั้งนั้นเพราะความเห็นแก่ได้และเห็นแก่ตัว ไม่คิดถึงผู้บริโภคอย่างเรา #ระวังกันหน่อยนะคะ โพสต์นี้ถ้าไม่เหมาะสมแจ้งให้ลบได้นะค่ะ อยากมาเตือนเพื่อนๆในกลุ่ม
เมื่อคุณแม่เจตแชร์เรื่องนี้ลงในโลกโซเชียลมีเดียทำให้มีผู้แสดงความเห็นต่างๆ มากมาย บางความเห็นก็น่าสนใจและมีประโยชน์ต่อคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ เช่น
- ชาวสวนคงไม่ได้ทำหรอกค่ะ เพราะถ้าขายไม่ได้ อีกหน่อยเค้าก็ขาดรายได้ระยะยาว
ปกติ เงาะขนจะไม่ร่วง แต่จะเหี่ยวแห้ง ชาวสวนจะแค่รดน้ำเพื่อให้ดูสด แต่พ่อค้าคนกลางอาจจะนำไปแช่น้ำยา เพื่อให้เงาะไม่เน่าจะได้ขายได้ราคาจนกว่าจะขายหมด - ที่บ้านมีสวนผลไม้ คนรับเหมาสวนทำแบบนี้จริงๆ เห็นกับตา ตัดลงมาจุ่มในถังแล้วเอาขึ้นรถ กลิ่นแรงมาก ทำให้เงาะ ทุเรียน กรอบ สุก สีสด จนไม่กล้าซื้อกิน ยายเว้นไว้ให้ตลอด น่ากลัวมากๆเลย น้ำยาเทใต้โคนต้นยังตายเลย
- เงาะทุกวันนี้มียาชนิดหนึ่งฉีดคือยากันหลุดร่วงหรือยาขั้วเหนียวค่ะ เพราะเมื่อเงาะสุกมันจะร่วงชาวสวนเขาเลยฉีดยาไว้ อันนี้ที่ทราบเพราะญาติที่บ้านเล่าให้ฟังค่ะ เพราะมีคนรู้จักทำสวนเงาะ ขอให้น้องหายไวๆนะคะ
- เห็นด้วยค่ะเคยซื้อตามตลาดแถวบ้านมากินมาถึงยังไม่ล้างลองกัดลูกนึงเข้าไปเห็นผลเลยค่ะปากบวมและคันมากค่ะมองดูก้อไม่มีมดนะค่ะ….คงเป็นเพราะสารเคมีที่เค้าฉีดอะค่ะ
- น้ำยาล้างจาน…เป็นส่วนหนึ่งของกรรมวิธีทำให้เงาะสดใช้รดลงบนเงาะเพื่อให้เงาะสดอยู่ได้หลายวัน…
- บ้านนี้ผลไม้ทุกชนิดต้องล้างก่อนค่ะ ไม่เว้นแม้แต่มะนาว/พริกที่ใช้ทำกับข้าว บ้านสามีไม่เคยล้างเงาะ เจ้าตัวทำจนเคย เราบอกไม่ได้!! แล้วเรียกเค้ามาดูน้ำที่ล้าง ทั้งสกปรกทั้งดำ ไหนจะสารเคมีที่มองไม่เห็น ผลไม้ชนิดเดียวที่เราไม่ล้างคือกล้วย แต่บางทีเห็นฝุ่นเกาะแบบสกปรกมากๆ ก็ล้างน้ำค่ะ เพราะลูกชายชอบกิน กลัวจับที่เปลือกแล้วเอามือเข้าปาก
- วันหลังให้ดื่มนมทันทีแล้วส่งแพทย์นะครับ นมจะช่วยเจือจางสารเคมีได้ครับ
- ผลไม้ทุกอย่างห้ามใช้ปากแกะเปลือกจ้ะ สอนลูกหลานไว้ ยา สารเคมีทั้งนั้น พ่อค้า แม่ค้าคนไหนบอกไม่ใช้อย่าไปหลงเชื่อเชียว
ทั้งนี้ ทางคุณแม่เจตได้กรุณาอธิบายเพิ่มเติมกับ Amarin Baby & Kids อีกว่า…
ความจริงแล้ว “ลูกสาวไม่ได้แพ้ยางจากเปลือกเงาะค่ะ แต่เจอฟอร์มาลีนเลยค่ะ เพราะหลังจากเกิดเรื่องก็มีนักข่าวมาตามทำข่าวเรื่องนี้ เค้าก็ไปตามตลาดใหญ่ๆ ตลาดไทย ก็เห็นๆเลยค่ะ แช่ฟอร์มาลีนเป็นถังๆเลยค่ะ จริงๆเราไม่ได้ตั้งใจให้ลูกกัดเปลือกเงาะ แต่เราซื้อมายังไม่ทันเอาไปล้าง ไม่ทันได้เอาไปฟอกด้วยเครื่องโอโซน ด้วยความชอบของลูก เค้าก็มาหยิบไปกัดตอนไหนเราก็ไม่ทันได้ตั้งตัว ส่วนตัวเราเลี้ยงลูกอยู่บ้านคนเดียว เลี้ยงเด็ก 3 คน เช้าๆ ค่อนข้างยุ่งวุ่นวายหน่อยค่ะ แต่ชีวิตปกติของเรา เราค่อนข้างเอาใจใส่เรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของคนในครอบครัว
โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ที่บ้านเราจะมีเครื่องล้างผักผลไม้แบบโอโซนไว้ล้างสารพิษ แต่วันนั้นไม่คาดคิดจริงๆค่ะ ทุกวันนี้อยู่ยากค่ะ ตั้งแต่เกิดเหตุการวันนั้น เรายิ่งไม่ค่อยกล้าซื้ออะไร เราต้องเลือกแหล่งที่ผลิต และก็มีพวกผักที่เราเองก็ปลูกทานเองค่ะ บอกตรงๆ ผู้บริโภคอย่างเราจะตายเร็วเพราะความเห็นแก่ได้ของคนบางกลุ่ม อันนี้เราไม่โทษชาวสวนหรือพ่อค้าแม่ค้า เพราะมันก็มีส่วนที่ดีและไม่ดี เราเองต้องระวังเองค่ะ
อ่านต่อ >> วิธีแก้พิษจากสารเคมีเบื้องต้น คลิกหน้า 3
สารฆ่าแมลงกำจัดศัตรูพืช กรด ด่าง น้ำยาทำความสะอาด ส่วนมากจัดว่าเป็นอันตรายเมื่อถูกนำเข้าสู่ร่างกาย จะโดยการกิน การสัมผัส หรือการสูดดมทั้งสิ้น
ดังนั้นเมื่อมีผู้ได้รับอันตรายจากสารเคมี ควรรีบไปพบแพทย์และโรงพยาบาลทันที แต่ในระหว่างการเตรียมตัวและเดินทางไปพบแพทย์นั้น ควรได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเสียก่อน เพื่อช่วยลดความเจ็บป่วย ลดโอกาสพิการและเสียชีวิตได้ดังนี้
1.ถ้าได้รับอันตรายจากสารเคมีโดยการรับประทาน
1.1ให้ผู้ป่วยรีบดื่มนม หรือไข่ดิบ หรือดื่มน้ำเปล่าทันที แต่ในกรณีที่ผู้ได้รับสารเคมีกำลังชักหรือสลบ อย่าให้ดื่มอะไรทั้งสิ้น
1.2 ทำให้อาเจียน โดยใช้นิ้วแหย่แถวเพดานคอ หรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่นจัดๆ (ผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะในน้ำ 1 แก้ว) หรือทั้งดื่มและล้วงคอ ถ้าผู้ได้รับสารเคมี มีอาการชักหรือสลบ ห้ามทำให้เศษอาหารทะลักเข้าไปในหลอดลม ในกรณีที่ดื่มกรด ด่าง หรือน้ำยาฟีนอล (ยาดับกลิ่น) ถ้าดื่มกรดให้ดื่มน้ำปูนใสแล้วให้ดื่มนมเพื่อลดการระคายเคืองก่อน แล้วจึงทำให้อาเจียน ถ้าดื่มด่างให้ดื่มน้ำผลไม้ เช่น น้ำส้ม หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย แล้วดื่มนมหรือไข่ตีก่อนทำให้อาเจียน
1.3 ให้ยาถ่าย เพื่อช่วยขับสารเป็นพิษออกจากลำไส้ ยาถ่ายที่เหมาะสมที่สุดได้แก่ โซเดียมซัลเฟต ดีเกลือ น้ำมันละหุ่ง
2.ถ้าได้รับอันตรายจากสารเคมีที่ผิวหนัง ให้ล้างผิวหนังในบริเวณที่ถูกสารเคมีโดยใช้น้ำสะอาดล้างให้มากที่สุด เพื่อทำให้เจือจางและขับออก ถ้าสารเคมีหกรดเสื้อผ้า ให้รีบถอดเสื้อผ้าออกก่อน ห้ามใช้สารแก้พิษใดๆ เทลงไปบนผิวหนัง เพราะอาจเกิดความร้อนจากปฏิกิริยาเคมีทำให้แผลกว้างและเจ็บมากขึ้น
3.ถ้าได้รับอันตรายจากสารเคมีที่ตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดให้มากที่สุดทันที โดยเปิดเปลือกตาขึ้นให้น้ำไหลผ่านตาอย่างน้อย 15 นาที ป้ายขี้ผึ้งป้ายตา แล้วรีบนำส่งแพทย์โดยเร็ว ห้ามใช้สารเคมีแก้พิษใดๆ ทั้งสิ้น
4.ถ้าได้รับอันตรายจากสารเคมี ในการสูดดม ให้ย้ายผู้ได้รับสารเคมีนั้นออกจากบรรยากาศของสารเคมีไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ช่วยผายปอด หรือกระตุ้นการหายใจด้วยยาดมฉุนๆ
ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องเลือกใช้วิธีให้เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็กๆ ด้วยนะคะ Amarin Baby & Kids จึงอยากจะฝากเตือนมายังคุณแม่ทุกๆท่านให้ระวัง อย่าลืมล้างผักผลไม้ที่ซื้อมาจากตลาด ไม่ว่าจะตลาดไหนก็ตามนะคะ เพื่อความปลอดภัยของคุณและทุกคนในครอบครัว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : women.mthai.com
และคุณแม่เจต @Jeda Bell
ขอบคุณข้อมูลจาก-ศูนย์อาชีวอนามัยและเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม จ.ระยอง
Save