ลูกยืดตัว ท้องเสีย …คุณแม่มือใหม่หลายคน อาจได้ยินคนฒ่าคนแก่สมัยก่อนบอกว่า หากลูกท้องเสีย หรือถ่ายเหลว นั่นเป็นเพราะเด็กกำลังยืดตัว ซึ่งความจริงแล้วเป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือ!
ซึ่งเรื่องนี้ก็มีคุณแม่ท่านหนึ่งซึ่งลูกกำลังป่วยอยู่ โดยมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว โดยทางคนเฒ่าคนแก่ที่บ้านก็บอกว่าเดี๋ยวเด็กก็หายเป็น เพราะเป็นช่วงวัยกำลังยืดตัว จึงมีอาการแบบนี้ แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคุณแม่สังเกตว่าลูกหายผิดปกติไปมาก จึงพาไปหาหมอ และพบว่าแท้จริงแล้ว ลูกป่วยมีอาการท้องเสียเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด
แม่แชร์ประสบการณ์ ลูกยืดตัว ท้องเสีย ไม่ใช่เรื่องจริง แต่ลูกกำลังป่วย ติดเชื้อในกระแสเลือด
โดยคุณแม่ Thidaluk Angkarud ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเตือน ถึงอาการป่วยของลูกน้อยวัย 8 เดือน ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เด็กๆ ชอบป่วยมีอาการท้องเสียแบบนี้กันเยอะมาก โดยคุณแม่เล่าว่า…
ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์นะคะ น้องเดลต้าป่วยท้องเสีย แล้วติดเชื้อในกระแสเลือดค่ะ
เริ่มแรกน้องถ่ายเหลว แต่ไม่ได้มีอาการงอแง ซึม หรือเบื่ออาหารค่ะ มีแค่ก้นแดง ซึ่งเราก็คิดว่าเพราะน้องถ่ายบ่อย ล้างก้นบ่อยค่ะ คุยกับคุณย่าคุณยาย ท่านก็บอกอาจจะเป็นช่วงยืดตัว เดี๋ยวก็หาย
พอเข้าวันที่ 3 มีไข้ 39 ตอนตี 3 คุณแม่พาไปโรงพยาบาล คุณหมอเช็ดตัว ไข้ลดกลับบ้านได้
แต่เรายังติดใจเรื่องท้องเสียไม่หายสักที ช่วงสายไม่มีไข้ แต่พาน้องกลับไปโรงพยาบาลอีกครั้งเรื่องท้องเสีย คราวนี้มีการเก็บผลเลือด ฉี่ กับอึน้องไปตรวจค่ะ รอผลเลือดปกติ กลับได้ ตกเย็นน้องมีไข้สูงอีกค่ะ คุณแม่ก็ทำตามหมอบอกเช็ดตัว กินยา ไข้ลดนอนได้ 4 ชม. ไข้ขึ้นอีก ทำวนไปจนเช้าค่ะ
พอเช้าไม่มีไข้ เริ่มถ่ายน้อยลง แต่ก็กินข้าวน้อยลงด้วย 8 โมงเช้าคุณหมอโทรมา ให้น้องไปแอดมิดด่วน เนื่องจากเอาเลือดเมื่อวานไปเพาะพบว่าติดเชื้อในกระแสเลือด
กลับไปโรงพยาบาลคราวนี้ นอกจากต้องเจาะเลือดเพิ่ม น้องต้องเจาะไขสันหลังด้วยค่ะ ว่ามีเชื้อหรือไม่ เพราะถ้ามีเชื้อน้องอาจจะติดเชื้อในสมองได้ ผลไม่พบเชื้อที่ไขสันหลัง รักษาโดยฉีดยาเข้าเส้น และกลับมาทานยาต่อที่บ้านค่ะ
ตอนนี้หายดีแล้วค่ะ*ทั้งนี้คุณแม่ได้ขอเสริมเพิ่มเติมว่า: ถ้าพบเชื้อในน้ำไขสันหลัง น้องอาจติดเชื้อที่สมองได้ หรือเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้
น้องฉีดวัคซีครบค่ะ แล้วฉีดวัคซีนเสริมโรต้าด้วยค่ะ หมอบอกว่าตัวนี้ไม่ใช่เชื้อโรต้าค่ะ เป็นอีกตัว เพราะวัยกำลังอยากจับ อยากสัมผัสและก้อชอบดูดนิ้วแล้วก้อเชื้อนี้อยู่ตามเปลือกไข่ค่ะ
ขอบคุณพื้นที่แบ่งปันค่ะ**ซึ่งคุณแม่ยังได้บอกอีกว่า: คุณหมอแจ้งว่า ตัวเชื้อโรคที่ทำให้ลูกป่วยนี้ มีอยู่ทั่วไป เพราะเด็กวัยนี้กำลังอยากจับอยากสัมผัสค่ะ แล้วก็จะยัดทุกอย่างเข้าปากหมด หรือแม้กระทั่งการสัมผัสจากผู้ใหญ่ที่เดินมาเล่นกับน้องค่ะ บ้างครั้งก็มาจับมือน้องเล่น ขณะเราอุ้ม หันมาอีกทีเอามือเข้าปากแล้วนั่นก็ทำให้น้องอาจได้รับเชื้อโรคตัวร้ายที่ทำให้ท้องเสียเข้าไปนั่นเอง
ขอบคุณบทความและภาพจากคุณแม่ Thidaluk Angkarud
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!
อ่านต่อ >> “สาเหตุที่แท้จริงของโรคท้องเสีย” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ซึ่งสำหรับเรื่องลูกท้องเสีย เพราะยืดตัวหรือไม่นั้นทางคุณหมอ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ ได้อธิบายบอกกล่าวไว้ดังนี้
ก่อนอื่นต้องขออธิบายความเข้าใจผิดของคำโบราณที่ส่งต่อกันมา คำว่า ท้องเสียเพราะยืดตัว หรือ ท้องเสียเพราะลูกเปลี่ยนอิริยาบถ นั้นไม่มีจริงค่ะ ถ้ามีจริงเด็กคนนั้นก็ต้องท้องเสียทุกวัน (เพราะเด็กมีพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน) การเชื่อคำโบราณที่บอกว่า ท้องเสียเพราะยืดตัวจะทำให้คุณแม่ประมาทชะล่าใจ ไม่พาลูกไปพบแพทย์ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติอาจทำให้ลูกเป็นอันตรายจากภาวะขาดน้ำและพลังงานจนช็อกได้
นอกจากนี้ยังทำให้ไม่คิดป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำเพราะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ทั้งๆ ที่ความจริงเกิดจากการได้รับเชื้อโรคหรือแพ้อาหารซึ่งสามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้
โดยคุณหมอยังบอกอีกว่า ลูกของหมอทั้งสองคน ไม่เคยเป็นโรคท้องเสียเลย เพราะหมอทราบดีว่าโรคท้องเสียเกิดจากอะไร แล้วคอยระวังไม่ให้ลูกท้องเสียทำได้อย่างไร เช่นการรับวัคซีนป้องกันโรค การล้างมือคนเลี้ยงและมือลูกบ่อยๆ คอยทำความสะอาดพื้นบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ ของเล่น การให้ลูกกินนมแม่จะได้รับภูมิต้านทานโรค และไม่เสี่ยงต่ออาการแพ้โปรตีนนมวัวซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ท้องเสีย และเมื่อไม่มีนมแม่แล้ว หมอก็เลือกนมที่ลูกไม่แพ้ ดังนั้นลูกทั้งสองจึงไม่เคยมีปัญหาท้องเสียเลย
สาเหตุที่แท้จริงของโรคท้องเสีย ได้แก่
- ติดเชื้อโรค เช่น ไวรัส แบคทีเรีย พยาธิ
- นมที่เด็กรับประทาน หากกินนมแม่แล้วมีอาการถ่ายบ่อย แต่ตรวจไม่เจอเม็ดเลือดขาว อาจเกิดจากการที่กินนมส่วนต้นมากเกินไป ได้รับน้ำตาลแลคโต๊สมากเกินไป
- แพ้โปรตีนแปลกปลอมที่ผ่านทางนมแม่ เช่น นมวัว นมถั่ว แป้งสาลี ไข่ ซีฟู้ด (ให้คุณแม่งดอาหารที่สงสัย)
- หากไม่ใช่นมแม่อาจจะแพ้นมอื่นที่ลูกรับประทาน
การป้องกันไม่ให้ลูกท้องเสีย
- ล้างมือให้สะอาดก่อนหยิบอาหารเข้าปาก
- กินแต่อาหารที่ปรุงสุก ไม่มีแมลงวันตอม
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดหรือสัมผัสสารคัดหลั่งอุจจาระจากผู้เป็นโรคและล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสโรค
- ในปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของโรคนี้ในเด็กเล็ก เป็นวัคซีนชนิดรับประทาน ช่วยลดความเสี่ยงในการติดโรค หรือ ลดความรุนแรงลงได้
- ให้ลูกกินนมแม่ เพราะในนมแม่มีสารต้านไวรัสและแบคทีเรีย รวมถึงลดโอกาสการปนเปื้อนจากภาชนะที่ไม่สะอาด
เรื่องโดย : พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!
- อึบอกสุขภาพ ลูกน้อยแรกเกิดมากกว่าที่คิด
- ลูกกินอาหารเสริมแล้วท้องเสีย ทำยังไงดี?
- แพ็คเกจวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้า ประจำปี 2560
อ่านต่อ >> อาการท้องเสียชนิด “เด็กยืดตัว” ที่โบราณบอกหมายถึงอะไร คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส
โรคท้องเสียที่พบได้บ่อยในเด็กคือ ท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งศัพท์ภาษาอังกฤษว่า viral gasroenteritis หรือ stomach flu ซึ่งคำว่า “viral gasroenteritis” แปลเป็นภาษาไทยว่า “ทางเดินอาหารอักเสบจากเชื้อไวรัส” หรือ “ลำไส้อักเสบจากเชื้อไวรัส” และคำว่า “stomach flu” แปลเป็นภาษาไทยว่า “หวัดลงกระเพาะอาหาร” ซึ่งคำเหล่านี้บางคำทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกกังวลใจหรือเข้าใจผิดคิดว่ามีความผิดปกติ ที่รุนแรงทางเดินอาหารของลูกน้อย
ซึ่ง “ทางเดินอาหารอักเสบจากเชื้อไวรัส” หรือ “ลำไส้อักเสบจากเชื้อไวรัส” หรือ “หวัดลงกระเพาะอาหาร” ไม่ว่าคำนี้จะเรียกว่าอย่างไร คนไทยเรารู้จักโรคนี้มานานแล้วและเรียกภาวะท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสนี้ว่า “เด็กยืดตัว”
“เด็กยืดตัว” เป็นคำบัญญัติตามภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทยแท้ ที่สรรค์สร้างมองในด้านบวก (positive thinking) ซึ่งสื่อว่าเป็นภาวะปกติที่เกิดขึ้นได้กับเด็กที่จะเริ่มยืนหรือเดิน ซึ่งกำลังจะยืดตัว แสดงถึงการเจริญเติบโต และมีการถ่ายเหลวบ้าง และหลังจากนั้นอีกประมาณ 5-7 วันก็จะหายได้เอง
อาการท้องเสียชนิด “เด็กยืดตัว”
โรคท้องเสียชนิดนี้มักเป็นมากในช่วงปลายฤดูฝนต่อกับฤดูหนาว เริ่มต้นเด็กจะมีอาการถ่ายเหลว บางคนอาจเป็นน้ำ และอาจมีไข้หรืออาเจียนร่วมด้วย และเมื่อเป็นแล้วอาการท้องเสียจะไม่หายทันที ถึงแม้จะไปพบแพทย์ได้รับการรักษาหรือได้กินยาตามสั่งแล้วก็ตาม ซึ่งส่วนใหญ่ของ “เด็กยืดตัว” เด็กยังคงรู้สึกตัวดี ยังคงเล่นซนเหมือนเดิม
หากคุณแม่พบว่าลูกท้องเสียจากไวรัส ลูกจะยังคงมีอาการถ่ายเหลวอยู่อีก 3-5 วัน หลังจากวันแรก แต่ที่สำคัญจะต้องสังเกตให้ดีว่า
1. ลูกยังคงรู้สึกตัว เล่นได้ปกติ และไม่ซึม
2. อาการถ่ายเหลวจะค่อยๆ ดีขึ้น ทีละน้อยๆ แต่จะไม่หายเป็นปกติทันที
ซึ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ทราบหรือไม่เข้าใจว่า ระบบภูมิคุ้มกันกำลังจัดการกับเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุให้ลูกท้องเสีย ก็จะมีความกังวลใจว่า ทำไมท้องเสียของลูกน้อยจึงไม่หายเสียที?
แต่ถ้ารู้ก็จะช่วยให้การดูแลรักษาท้องเสียในเด็กเล็กที่เกิดจากเชื้อไวรัสเป็นไปได้โดยง่าย เพราะอาการต่างๆ จะค่อยๆ ดีขึ้น ทีละเล็กทีละน้อย เมื่อเวลาผ่านไป และจะหายได้เองภายใน 5-7 วัน ระหว่างนี้ควรให้การดูแลรักษาตามอาการ เช่น
- สำหรับลูกน้อยที่ยังดื่มนมอยู่ อาจงดหรือลดจำนวนนมประมาณ 1-2 วัน และกลับมาให้ได้เมื่ออาการเด็กดีขึ้น
- ควรให้สารน้ำเกลือแร่ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ของร่างกายจากท้องเสีย
- ควรให้ยาลดไข้ ถ้ามีอาการเป็นไข้ตัวร้อน
นอกจากนี้ยังมียาอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งประกอบด้วยเชื้อแบคทีเรียชนิดดี ชนิดเดียวกับที่พบในโยเกิร์ต ซึ่งมีรายงานว่าสามารถลดอาการท้องเสียของเด็กที่เกิดจากเชื้อไวรัสได้อีกด้วย โดยจะช่วยให้อาการถ่ายเหลวหายเร็วขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถเลือกใช้ได้
⇒ อ่านต่อบทความแนะนำ : รีวิว โยเกิร์ต ยี่ห้อไหนดี เพื่อลูกน้อยและทุกคนในครอบครัว
ถึงตอนนี้ก็คงพอสังเกตอาการท้องเสียของลูกน้อยได้แล้ว ว่าเกิดจากสาเหตุใด และควรจะดูแลรักษาลูกน้อยเมื่อมีอาการท้องเสียขั้นต้นด้วยตนเองอย่างไร
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกต “การเล่นหรือความรู้สึกตัวของลูกน้อย” ให้ดีๆ เพราะถ้าลูกไม่ป่วยมาก เขาก็จะเล่นซนตามวัย แต่ถ้าลูกไม่เล่นซน มีอาการซึม หรือร่วมกับมีไข้สูง ถ่ายเหลวเป็นน้ำ ถ่ายบ่อยหรือถี่มากขึ้น และมีอาการเพลียมาก ก็ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที เพื่อให้การรักษาที่เหมาะสม
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!
- โรคท้องร่วง ช่วงหน้าร้อน เด็กเล็กควรระวัง!
- การดูแลเมื่อลูกท้องเสีย
- ลูกท้องเสีย ท้องร่วงหลังไข้ลด สาเหตุเกิดจากอะไร?
ขอบคุณข้อมุลจาก : www.doctor.or.th