AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

แม่แชร์! ลูกเกือบช็อคเพราะ เบาหวานในเด็ก

เบาหวานในเด็ก หลายๆ ครอบครัวอาจคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ทำให้เข้าใจว่าอาการฉี่บ่อย กินน้ำเยอะ ทานเท่าไรก็ไม่โต เป็นเรื่องปกติ ทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงขอนำเรื่องราวของคุณแม่ที่มาแชร์ประสบการณ์ตรวจเจอ เบาหวานในเด็ก มาให้แม่ๆ ได้สังเกตกันค่ะ

แม่แชร์! ลูกเกือบช็อคเพราะ เบาหวานในเด็ก

แม่แชร์ประสบการณ์ ลูกสาว 4 ขวบ ฉี่บ่อย กินน้ำเยอะ กินน้ำบ่อย เลิกฉี่รดที่นอนแล้ว แต่กลับมาฉี่รดที่นอนมากถึง 5 ครั้งใน 1 คืน กินเก่งแต่ไม่โต เหนื่อยง่าย น้ำหนักลดลง เป็นอาการของ เบาหวานในเด็ก โดยโรคที่น้องเป็นคือ เบาหวานชนิดที่1 เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สร้างฮอร์โมนอินซูลิน อันเนื่องมาจากระบบภูมิคุ้มกันไปทำลายเซลล์ตับอ่อนที่ทำหน้าที่ผลิตอินซูลิน ปกติแล้วจะพบในเด็กและผู้ใหญ่อายุน้อย  ซึ่งยังหาทางรักษาให้หายขาดไม่ได้ ต้องเจาะเลือดตรวจค่าน้ำตาลและฉีดอินซูลินวันละ 5-6 ครั้ง ไปตลอดชีวิต คุณแม่จึงขอบอกเล่าเหตุการณ์เพื่อฝากให้คอยสังเกตอาการของลูกดังนี้

ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์ ลูกสาว 4 ขวบเป็นเบาหวาน

ลูกสาวเราอายุ 4 ขวบ ชื่อน้ำมนต์

น้องมีอาการฉี่บ่อย ตอนกลางคืน 5-6 ครั้ง

เป็นอยู่แบบนี้ประมาณ 1 อาทิตย์เริ่มเยอะขึ้น

เมื่อวานเราเลยพาน้องไปหาหมอ

ส่วนตัวเราคิดแค่ว่าน้องคงเป็นปัสวะอักเสบ

ไม่เคยคิดเลยว่าลูกสาวจะเป็นเบาหวานได้

น้องเป็นเด็กตัวเล็ก ผอมคะ 4 ขวบหนัก 12 โล สูง 97

อาการข้างเคียงอย่างอื่นไม่มีเลย ไม่มีไข้ ไม่ซึม

โดยทั่วไปน้องปกติดีทุกอย่างนะคะ ผิดสังเกตุแค่ฉี่บ่อย

พฤติกรรมการกิน น้องชอบกินขนมกรอบๆ จอลลี่ แบร์

ชอบกินน้ำอัดลม ซึ่งตรงนี้เราทราบคะว่าไม่ใช่ของดีเลย

และเด็กๆ ก็ไม่ควรให้ทานของพวกนี้ด้วยคะ

แต่จากการถามหมอ น้ำอัดลม ก็ไม่ใช่สาเหตุหลัก

แต่ในน้ำอัดลมมีน้ำตาลเยอะ เลยทำให้น้ำตาลในเลือดสูงเร็ว

อย่างของน้องมีน้ำตาลในเลือดสูง มากถึง 800+

ซึ่งหมอเห็นค่าน้ำตาลในเลือดน้องถึงกับตกใจเพราะสูง

แต่ถือว่าเคสเราโชคดี ที่สังเกตุลูกแล้วรีบมาหาหมอ

เพาะถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้ น้องอาจช้อคได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในขนมหรือน้ำอัดลม ก็ไม่ใช่สาเหตุของการเกิดโรคนี้นะคะ เพียงแค่เราบอกถึงพฤติกรรมของน้องเพียวเท่านั้นคะ

ตอนนี้โรคเบาหวาน กลายเป็นโรคประจำตัวน้องไปแล้ว

น้องต้องฉีดอินซูลีน ก่อนมื้ออาหารทุกมื้อ

ต้องควบคุมเรื่องอาหารการกิน

อาจจะดูยากแต่แม่อย่างเราก็ต้องดูแลน้องให้ผ่านไปได้

อยากฝากแม่ๆมั่นสังเกตุเด็กๆด้วยนะคะ

เราไม่อยากให้คิดว่า แค่นี้เอง

ทางทีดีเมื่อลูกมีอะไรผิดปกติ ควรพาน้องไปหาหมอคะ

ลูกเราถือว่าโชคดีที่ทราบสาเหตุเร็ว

ถึงรักษาไม่หาย แต่รู้เร็ว เราก็ดูแลเค้าได้เร็วคะ

#น้องป่วยเป็นเบาหวานชนิดที่1

ขอขอบคุณคุณแม่ Phiraya Buaputta ที่แบ่งปันเรื่องราว เบาหวานในเด็ก เพื่อเตือนใจคุณแม่ท่านอื่นๆ ในครั้งนี้ ทีมงาน Amarin Baby & Kids ขอให้น้องอาการดีขึ้นไวๆ กลับมาสุขภาพแข็งแรงในเร็ววันนะคะ

 

เบาหวานชนิดที่ 1 คืออะไร

โรคเบาหวานคือภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงกว่าปกติ  น้ำตาลกลูโคสเป็นแหล่งพลังงานหลักที่ได้จากอาหารที่รับประทาน ซึ่งฮอร์โมนอินซูลิน (insulin) เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากตับอ่อนและทำหน้าที่นำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์สำหรับใช้เป็นพลังงาน  ส่วนฮอร์โมนกลูคากอน (glucagon) เป็นฮอร์โมนที่ทำงานร่วมกับอินซูลินในการควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด

ส่วนใหญ่ของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ปกติจะต่อสู้กับเชื้อโรค จะทำลายเซลล์ในตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนหยุดการสร้างฮอร์โมนอินซูลิน  เมื่อร่างกายไม่มีอินซูลินแล้ว จะไม่สามารถนำน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงานได้ ทำให้น้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงกว่าปกติ ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 จำเป็นต้องได้รับยาอินซูลินทุกวันเพื่อที่จะสามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

แล้วใครล่ะ ที่เสี่ยงเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 อาการของเบาหวานชนิดที่ 1 เป็นอย่างไร อ่านต่อได้ที่นี่


ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานชนิดที่ 1

โรคเบาหวานชนิดที่ 1 มักจะพบในเด็กและในผู้ใหญ่อายุน้อย แต่ก็สามารถพบได้ทุกช่วงอายุ   หากมีพ่อแม่หรือพี่น้องเป็นโรคเบาหวาน จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานชนิดที่ 1

อาการของเบาหวานชนิดที่ 1

อาการของโรคเบาหวานชนิดที่ 1 จะร้ายแรงและเกิดขึ้นเร็ว อาจจะใช้เวลาไม่กี่วันจนถึงสัปดาห์  โดยอาการมีดังนี้

 

การรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 1

วิธีการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับฮอร์โมนอินซูลิน เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสร้างฮอร์โมนนี้ได้ อินซูลินมีหลายชนิด แต่ละชนิดต่างกันที่ความเร็วในการออกฤทธิ์และระยะเวลาที่ยายังมีฤทธิ์อยู่ และอาจจำเป็นต้องได้รับอินซูลินมากกว่า 1 ชนิด โดยสามารถรับยาอินซูลินได้หลายวิธี เช่น ผ่านเข็มฉีดยา, ผ่านปากกาอินซูลิน, หรือผ่านเครื่องให้อินซูลิน (insulin pump) ในผู้ป่วยบางรายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ด้วยการใช้อินซูลินเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับยารักษาโรคเบาหวานเพิ่ม

 

เบาหวานในเด็กและผู้ใหญ่ต่างกันหรือไม่

เบาหวานในเด็ก ก็เหมือนกับผู้ใหญ่เป็นเบาหวาน โรคนี้เป็นโรคเรื้อรังตลอดชีวิต มีภาวะแทรกซ้อนตามมา เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนเหมือนในผู้ใหญ่ เช่น


รับมือกับ เบาหวานในเด็ก อย่างไร

เบาหวานชนิดที่ 1 วิธีการรักษาคือจะต้องมีการฉีดยาอินซูลิน ผู้ป่วยจะต้องเรียนรู้วิธีการฉีดยา การออกฤทธิ์ของยาอินซูลิน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ฉีดยาวันละ 2-3 ครั้ง บางรายอาจจะต้องฉีด 4 ครั้งต่อวัน เพื่อจะควบคุม ให้ระดับน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ที่ดีได้

เรียนรู้โรคเบาหวาน วิธีการดูแลตนเองจะต้องทำอย่างไรบ้าง นอกจากเรื่องการฉีดยาอินซูลินแล้ว ก็จะต้องมีการเจาะเลือดที่ปลายนิ้วเพื่อจะดูระดับน้ำตาล   วันละ 3-4 ครั้ง จะได้มีการปรับยา ปรับอาหารให้เหมาะสมกับระดับน้ำตาล

เรียนรู้เรื่องอาหาร กินอาหารที่พอเหมาะ ให้เกิดสมดุลกับความต้องการของร่างกาย
ต้องเรียนรู้ว่า เวลาไม่สบาย กินไม่ได้ จะทำอย่างไร  ถ้าน้ำตาลสูงผิดปกติ ก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดเป็นกรด ภาวะช็อก จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง
เด็กและวัยรุ่นที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 และพ่อแม่จะต้องมีการเรียนรู้เรื่องเบาหวานเพื่อจะสามารถดูแลตนเองได้ จำเป็นต้องมีการปรับตัว เพราะต้องมีการฉีดยา เจาะเลือด ปรับลักษณะการกินและประเภทของอาหาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จำเป็นอย่างมาก ผู้ป่วยจึงจะควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี

 

เบาหวานในเด็ก หากไม่สังเกตดีๆ ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าลูกกำลังเป็นโรคนี้อยู่ ดังนั้น หากลูกมีอาการ ฉี่บ่อย อ่อนเพลีย เหนื่อย ซึมง่าย ควรพาลูกไปพบแพทย์นะคะ เพราะหากพบได้เร็ว ก็สามารถดูแล ควบคุมอาการได้เร็วค่ะ

 

อ่านบทความดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้หรือไม่? เด็กทารกก็เป็นโรคเบาหวานได้!

เบาหวานก่อนตั้งครรภ์ VS เบาหวานขณะตั้งครรภ์

เป็นเบาหวานแล้วตั้งครรภ์ อันตรายแค่ไหน?


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

คุณแม่ Phiraya Buaputta

https://www.honestdocs.co/diabetes

https://www.doctor.or.th/article/detail/1113

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids