AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

อุทาหรณ์เตือนใจ เพียงพ่อละสายตา ก่อนได้ยินเสียง “โครม” ดังสนั่น! หันไปเจอลูกกลายเป็น “ศพ” (มีคลิป)

โต๊ะทับเด็ก …หนึ่งในอุบัติเหตุ ที่มักเกิดขึ้นกับเด็กวัยซน วัยเตาะแตะ ชอบสำรวจและปีนป่าย ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่กำลังมีลูกที่อยู่ในช่วงวัยนี้ ต้องคอยดูแลระมัดระวังให้มาก เพราะหากเผลอ หรือปล่อยในคลาดสายตาไป  อันตรายหรืออุบัติเหตุก็พร้อมเกิดขึ้นกับลูกน้อยได้เสมอ

วงจรปิดจับภาพ พ่อปล่อยลูก 2 ขวบโหนโต๊ะเล่นในธนาคาร ก่อนถูกโต๊ะล้มทับจนเสียชีวิต เป็นเหตุอุทาหรณ์ที่ผู้ปกครองควรระวัง ในการดูแลเด็กเล็ก

เพราะ ความซน ซึ่งหมายถึง อาการที่อยู่ไม่สุข แต่ชอบจับโน่นจับนี่ไปเรื่อย (เช่น ซนเหมือนลิง) ถ้าจะว่ากันตามประสาพ่อแม่ ที่เลี้ยงลูกมาแล้วหลายคน เด็กวัยซน ก็คือเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 1 ถึง 5 ขวบ เรียกได้ว่าตั้งแต่ 1 ขวบ (วัยเตาะแตะ) จนถึง 5 ขวบ(วัยอนุบาล) เรียกว่าตั้งแต่เริ่มเดินได้ กระทั่งสู่วัยเข้าเรียนชั้นประถม

เมื่อลูกเริ่มเดินได้ แม้จะยังไม่ค่อยคล่อง แต่เขาก็พร้อมจะเป็น “นักสำรวจตัวน้อย”อยู่ตลอดเวลา แถมเป็นนักสำรวจที่ดื้อเอาเรื่องซะด้วย ซึ่งเรื่องนี้เองจึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย ซึ่งอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลากับลูกวัยซนของเรา เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้

โต๊ะทับเด็ก เสียชีวิต อุทาหรณ์เตือนใจ เพียงพ่อละสายตา

โดยทาง  เว็บไซต์ sina.com ได้เผยรายงานเหตุสลดที่เกิดขึ้น ณ ธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศจีน เมื่อคุณพ่อพาลูกสาววัย 2 ขวบมาทำธุระในธนาคาร แต่ก็ดันเกิดเรื่องร้ายขึ้น

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดในธนาคาร เผยให้เห็น คุณพ่อที่พาลูกสาวมาในธนาคาร และขณะที่ผู้เป็นพ่อกำลังหันไปกรอกเอกสารที่เคาน์เตอร์  ลูกสาวตัวน้อยของเขาที่เดินเล่นอยู่ใกล้ๆ ก็ได้เดินไปที่โต๊ะเคาเตอร์ตัวสูงที่มีไว้สำหรับเขียนใบฝาก-ถอนเงิน ก่อนที่จะกระโดดขึ้นไป โดยใช้สองมือโหนที่โต๊ะตัวดังกล่าว โดยไม่รู้ว่าโต๊ะนั่นไม่ได้ถูกยึดไว้กับพื้น

ทำให้โต๊ะตัวดังกล่าวนั้นล้มลงมาฟาดทับตัวเด็กสาวตัวน้อยอย่างแรง  ท่ามกลางความตกใจของเจ้าหน้าที่ธนาคารและผู้เป็นพ่อของเด็ก ซึ่งก็รีบวิ่งมายกโต๊ะตัวดังกล่าวขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ในรายงานข่าวยังได้ระบุว่า เด็กน้อยผู้เคราะห์ร้ายได้เสียชีวิตลงแล้ว ท่ามกลางความเสียใจของผู้เป็นพ่อและแม่ ในขณะที่ชาวเน็ตจีนและทั่วโลกต่างแชร์คลิปสุดสะเทือนใจนี้  เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คนเป็นพ่อและแม่ระมัดระวังอันตรายยามต้องพาลูกออกไปตามสถานที่สาธารณะอีกด้วย

และจากสถิติพบว่า สาเหตุหนึ่งของการเสียชีวิตของเด็กที่อยู่ในวัยปีนป่ายนั้น เกิดมาจากการที่ตู้หล่นทับนั่นเองค่ะ ว่าแล้วก็ไปชมคลิปดังกล่าวพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

>> ชมคลิปเหตุการณ์จริง…เตือนใจ! “เคาเตอร์ธนาคารล้มทับลูก เสียชีวิต” หลังพ่อละสายตา คลิกหน้า 2

อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!


ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก :  weibo.com , https://hilight.kapook.com/view/152818

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 


ขอบคุณคลิปประกอบ 以民为主 For The People

ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ทาง Amarin Baby & Kids ก็อยากจะฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านให้อ่านพร้อมช่วยการแชร์เรื่องราวนี้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจพ่อแม่ว่า ไม่ควรปล่อยลูกไว้ตามลำพังหรือให้คลาดสายตาเด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม เพราะอุบัติเหตุภายในบ้านเกิดขึ้นได้เสมอ

สาเหตุที่พ่อแม่ควรรู้ ถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับลูกน้อย

อุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับลูกน้อย มักมีด้วยกัน 3 สาเหตุ ได้แก่

1. การขาดความดูแลเอาใจใส่

สำหรับลูกน้อย ที่อยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่ขาดการดูแลใจใส่ ซึ่งบางครั้งอาจมีภารกิจยุ่ง หรือขาดความรู้ในการเลี้ยงลูกอย่างถูกวิธี จึงมักเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และเกิดขึ้นบ่อย เพราะเด็กมักซุกซน ไม่อยู่นิ่งตลอดเวลาในทุกๆวัน

การปล่อยให้ลูกอยู่บ้านตามลำพัง ลูกอาจชวนกันไปเล่นในที่ที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะการลงเล่นน้ำ ซึ่งเรามักจะได้ยินข่าวว่าเด็กตกน้ำ จมน้ำในบ่ออยู่เสมอ อุบัติเหตุเหล่านี้เกิดจากขาดความเอาใจใส่ของคนในครอบครัวเป็นหลัก

2. ความประมาทของพ่อแม่

คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครองที่ขาดความระมัดระวังในการดูแลลูกน้อยซึ่งแม้จะอยู่ในบ้าน ก็ทำให้อาจขาดการคิดพิจารณาให้รอบคอบ มากกว่าอยู่นอกบ้านด้วยซ้ำ ซึ่งนั้นก็เป็นสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้ชีวิตลูกไม่ปลอดภัย เช่น

หรืออุบัติเหตุจากนอกบ้าน เช่น

* ควรดูแลระมัดระวังลูกให้ดี เพื่อความไม่ประมาท ควรแนะนำอันตรายที่อาจจะเกิดกับเด็ก ด้วยการชี้แจงให้ลูกเข้าใจด้วย

3. พ่อแม่มีสภาพร่างกาย อารมณ์ และจิตใจไม่ปกติ

ในกรณีนี้ ซึ่งอุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นกับลูกน้อยได้ เนื่องจากพ่อแม่อาจมีสภาพร่างกายและจิตใจไม่ปกติ เช่น เจ็บป่วย พิการ มีความเครียด เศร้าโศกเสียใจ หรือกำลังโกรธอยู่ นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ขาดความสนใจ ขาดความระมัดระวังในการดูแลเอาใจใส่ลูกได้ดีพอ ทำให้ลูกได้รับอุบัติเหตุ ดังนั้นข้อนี้จึงควรหาคนมาดูแลลูกเป็นหูเป็นตาให้จะปลอดภัยกว่าค่ะ

ข้อแนะนำคุณพ่อคุณแม่

* พ่อแม่ต้องเข้าใจและยอมรับธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กที่มักมีความซุกซน

* ภายในบ้าน ควรเก็บสิ่งต่างๆที่เป็นอันตราย เช่น ของมีคม ของร้อนๆ หรืออุปกรณ์เครื่องมือต่างๆที่มีลักษณะแหลมคม รวมทั้งสารเคมี น้ำยาต่างๆให้มิดชิดพ้นมือเด็ก

* พ่อแม่ต้องคอยจับตามองลูก คอยระวังลูกอยู่เสมอ มิให้คลาดสายตา เมื่อจะปล่อยให้ลูกเล่นสิ่งใด ที่ไหน จะต้องดูของเล่น ดูสถานที่ให้ปลอดภัย เช่น สนามเล่นเด็กจะต้องมีพื้นหญ้าหรือทราย เผื่อลูกตกลงมาจะได้ไม่เป็นอันตราย เป็นต้น

อ่านต่อ >> “ข้อสำคัญที่ควรรู้ก่อนพาลูกเล็กออกนอกบ้าน” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ยิ่งหากคุณพ่อคุณแม่ประมาทปล่อยปะละเลยจากลูกน้อย ก็อาจทำให้ลูกน้อยได้รับอันตรายได้

เมื่อมีข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเด็กทีไร เชื่อว่าคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ทุกคนต้องรู้สึกใจหายแทนแทบทุกครั้ง และคิดต่อไปว่าถ้าเป็นลูกเราจะเสียใจแค่ไหน  ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงพึงระลึกคำว่า Safety First หรือปลอดภัยไว้ก่อนเสมอ และย้ำกับคนรอบตัวที่มีส่วนช่วยเลี้ยงลูกทุกคนว่า ไม่มีคนที่ประสบอุบัติเหตุคิดก่อนว่าตัวเองจะประสบอุบัติเหตุแน่นอน

ดังนั้น แทบทุกจังหวะชีวิตของลูก พ่อแม่จึงต้องมีสติระลึกว่าจะมีโอกาสประสบอุบัติเหตุได้รึเปล่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฝากลูกไว้กับคนอื่น แม้ว่าจะเป็นญาติพี่น้องใกล้ชิดก็ตาม หรือการปล่อยให้ลูกคลาดสายตา อันตรายก็พร้อมจะเกิดขึ้นกับลูกน้อยได้เสมอ

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า เด็กวัยกำลังโตนั้นเป็นวัยที่เสี่ยงต่อการเกิด อุบัติเหตุ ได้แบบไม่รู้ตัวมากที่สุด โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี เพราะพวกเขามีร่างกายและภูมิต้านทานที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ บวกกับสัญชาตญาณความอยากรู้อยากเห็นของเด็กในวัยนี้ ทำให้บางครั้งประสบการณ์ใหม่ที่เด็กๆ ได้รับ ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด หรือแผลเป็นที่คาดไม่ถึง และแน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้พ่อแม่อย่างเรากังวลไม่น้อยทีเดียว

การป้องกัน อุบัติเหตุให้ลูกน้อย เมื่ออยู่นอกบ้าน

1. สอนลูกให้รู้ถึงอันตราย

สิ่งที่สำคัญคือ การคอยชี้แนะและย้ำเตือนพวกเขาเสมอ ถึงอันตรายที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการกระทำของเขาเอง หรือคนรอบข้าง จะทำให้พวกเขาสามารถจดจำได้ด้วยตัวเองว่าสิ่งไหนที่อาจก่อให้เกิดอันตราย การที่เราสอนให้พวกเขารู้จักคำว่าอันตรายตั้งแต่เด็ก จะช่วยให้เขารู้จักสังเกตและระมัดระวังตัวเองมากขึ้น

2. เตรียมพร้อมก่อนทำกิจกรรม

เมื่อพ่อแม่พาเด็กๆ ไปศูนย์การเรียนรู้ หรือออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เพื่อให้เขาได้สนุกกับการออกไปเจอผู้คนใหม่ๆ และได้สัมผัสสิ่งแปลกใหม่ จะช่วยเสริมสร้างทักษะและพัฒนาการของเขาได้ดีเลยล่ะ แต่อย่าลืมนะว่า…นอกจากความรู้และความสนุกที่เด็กๆ ได้รับแล้ว เราควรคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย เพราะฉะนั้นก่อนทำกิจกรรมต่างๆ พ่อแม่ควรหาอุปกรณ์สำหรับป้องกันให้เขาสวมใส่ เช่น ถ้าจะไปปั่นจักรยานก็ควรให้น้องๆ ใส่หมวกกันน็อค สนับเข่า หรือศอก เพื่อช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำกิจกรรม งานนี้รับรองอุ่นใจ หายห่วงได้เลย

3. เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกาย

อาการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ ที่พ่อแม่มองข้าม อาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเด็กๆ เนื่องจากเด็กวัยนี้ยังดูแลตัวเองได้ไม่ดีเหมือนผู้ใหญ่ รวมถึงร่างกายและภูมิต้านทานก็ยังไม่แข็งแรงมากนัก ทำให้มีโอกาสที่จะเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุได้ง่าย พ่อแม่จึงต้องหาตัวช่วยในการดูแลพวกเขาให้แข็งแรงขึ้น ด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูกให้พวกเขาด้วย เมื่อเด็กๆ ร่างกายแข็งแรงแล้ว เวลาทำกิจกรรมต่างๆ จะได้ไม่เกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย นั่นเอง

ความปลอดภัยของลูกเป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องรับผิดชอบ

สุดท้าย เรื่องที่สำคัญที่สุดเมื่อใดที่คุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยออกจากบ้านไปตามที่สาธารณะต่างๆ สิ่งที่ต้องระวัง คือ อุบัติเหตุ อันตรายต่างๆ ที่มักเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นอันตรายจากสิ่งของโดยรอบ อันตรายบนท้องถนน หรืออันตรายจากการพลัดหลง และการถูกลักพาตัว รวมไปถึงอันตรายจากเชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้ลูกป่วยได้

ซึ่งจากอันตรายทั้งหมดที่กล่าวมานั้นถึงจะเยอะ แต่ก็คงห้ามไม่ได้ที่จะไม่พาลูกน้อยออกนอกบ้านเลย สิ่งสำคัญอยู่ที่พ่อแม่ที่ไม่ควรประมาท ต้องคอยดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิดและพร้อมเตรียมรับมือกับทุกสถานการณ์ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย

อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!


เรียบเรียงบทความโดย www.amarinbabyandkids.com