แม่แชร์ประสบการณ์! หลังพบ ลูกนอนกรน หนักขึ้นกว่าเดิม จนครั้งนึงหยุดหายใจโดยไม่รู้ตัว
คุณแม่อีฟ อนุญาตให้ทีมงาน Amarin Baby and Kids เผยแพร่เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับลูกชาย เพื่อต้องการให้เป็นอุทาหรณ์กับครอบครัวอื่น ๆ ที่กำลังกลุ้มใจ เมื่อพบว่าลูกหลานของตัวเองกำลังนอนกรน ทั้ง ๆ ที่ยังเป็นเด็ก โดยเรื่องราวจะเป็นอย่างไร เราไปติดตามพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
#นอนกรนอันตรายมากกว่าที่คิด โปรดอย่านิ่งนอนใจ มีน้อง ๆ คนไหนนอนกรนมั้ยคะ อยากจะมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานนะคะ ถือว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังนะคะ อิคคิวมีอาการนอนกรนมาตั้งแต่ประมาณ 2 ขวบ เนื่องจากต่อมอดีนอยด์โต ซึ่งทางคุณหมอเด็กที่เป็นหมอประจำบอกว่า จะหายไปเองเมื่ออายุ 5 ขวบ หรือหากอยากผ่าก็ได้
ใจคนเป็นแม่คำว่าผ่าตัดยังไงก็เสี่ยงและน่ากลัวเกินไปจริงมั้ยคะ? จึงตัดสินใจรักษาตามอาการด้วยการทานยา Zyrtec และ Zingulair และพ่น Nasonex มาจน 5 ขวบ (ไม่มีอาการก็ไม่ใช้นะคะ) ปรากฏว่าช่วง 5 ขวบ 9 เดือนมีอาการนอนกรนหนักมาก ยาเอาไม่อยู่ ไม่ดีขึ้น รักษามาเรื่อย ๆ จน 5 ขวบ 11 เดือนน้องมีอาการหยุดหายใจเกิดขึ้นแบบไม่รู้ตัว จึงพาไปหาหมอเฉพาะทาง หู คอ จมูก หมอบอกว่า ตัวต่อมอดีนอยด์โตจนย้อยลงมาปิดทางเดินหายใจ และทอนซิลก็โตมาก ๆ พูดง่าย ๆ คือหายใจทางจมูกไม่ได้ หายใจทางปากก็แทบไม่ออก
อ่านต่อเรื่องราวของคุณแม่ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>
น้องเริ่มขอนอนกลางวันเอง ทั้งที่ตั้งแต่ขึ้น อนุบาล 3 ไม่อยากนอนกลางวันเลย จึงตัดสินใจผ่าเลยค่ะ เอาออกทั้งทอนซิลและอดีนอยด์ สิ่งที่เห็นคือ ต่อมก้อนโต ๆ 1 ก้อนที่หลังจมูก ต่อมก้อนโต ๆ 2 ก้อนในคอ
หลังผ่ามา เกือบ 1 เดือน น้องอาการดีขึ้นมาก ไม่นอนกรน นอนหลับได้เต็มที่ ลูกร่าเริงมากขึ้นค่ะ ขอบตาไม่ค่อยคล้ำ มีสมาธิมากขึ้น พ่อแม่คนไหนมีลูกเล็ก 2 ขวบขึ้นไปแล้วมีอาการนอนกรน แนะนำให้ไปหาหมอหู คอ จมูกนะคะ คุณหมอยังบอกเลยว่า ผ่าช้าไป 1 วันลูกก็ทรมานไปอีก 1 วันค่ะ หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่น ๆ ได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
ทั้งนี้คุณแม่อีฟ ยังได้พูดถึงอาการของน้องพร้อมกับเล่าเพิ่มเติมอีกว่า อาการเริ่มต้นก็คือนอนกรนเลยค่ะ กรนยังไง ก็กรนแบบผู้ใหญ่นอนกรนนั่นแหละค่ะ คร่อก คร่อก คร่อกแบบนี้ กรนทุกท่า ไม่ว่าจะนอนตะแคงซ้าย ขวา นอนคว่ำ นอนหงาย หรือแม้กระทั่งนั่ง เป็นมาตั้งแต่ 2 ขวบ แต่ไม่หนักเท่าไร มาเป็นหนัก ๆ เลยช่วง 5 ขวบกว่าแล้วค่ะ ซึ่งหมอประจำบอกให้รอไปจนอิคคิวอายุ 10 ขวบนะคะ มันจะหายไปเอง คนเป็นแม่คงทนไม่ได้ค่ะที่ลูกจะต้องมาเสี่ยงมาจะหยุดหายใจอีกวันไหนก็ไม่รู้ หลังจากผ่าตัดและพักฟื้น อาการนอนกรนหายไปจนไม่เหลือเลยค่ะ ไม่ต้องทานยาแล้ว แต่จะทำทุกคืนคือ ล้างจมูกค่ะ
นอนกรนในเด็กเป็นอย่างไร อ่านเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>
เครดิตเรื่องราว: คุณแม่อีฟ
นอนกรนในเด็กภาวะอันตรายที่พ่อแม่ควรรู้จัก
จากการศึกษาพบว่า ร้อยละ 20ของเด็กมีอาการนอนกรน ร้อยละ 7-10 มีอาการนอนกรนทุกคืน เด็กหลายรายที่นอนกรนนั้นมีสุขภาพดี แต่ประมาณร้อยละ 2 พบว่ามีปัญหาในขณะหลับและมีปัญหาในการหายใจ
เด็กที่มีการหายใจลำบากขณะนอนกรนอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น ซึ่งอาจมีอาการหายใจเสียงดัง หายใจหอบ สะดุ้งสำลัก และผู้ปกครองสังเกตเห็นว่าเวลาหายใจเข้าแล้วหน้าอกบุ๋ม โดยการอุดกั้นของทางเดินหายใจมักเกิดจากช่องคอที่แคบลงและปิดในระหว่างหลับค่ะ
อาการที่พบได้ทั่วไปในเด็กมีดังต่อไปนี้
1. การนอนหลับในท่าทางที่ผิดปกติ
2. กรนเสียงดังและกรนเป็นประจำ
3. สังเกตเห็นว่าหยุดหายใจขณะหลับในระยะเวลาสั้น ๆ ตามด้วยเสียงกรนหายใจหอบหรือตื่นระหว่างกลางคืน
4. เหงื่อออกมากขณะหลับ
5. มีปัญหาในการเรียนและพฤติกรรม
6. นอนกระสับกระส่าย
7. ปลุกตื่นยากหลังตื่นนอนอยากนอนหลับต่อ
8.ปวดศีรษะในระหว่างวัน หรือปวดศีรษะหลังตื่นนอน
9. อารมณ์หงุดหงิดง่าย โมโหง่าย
10. หลับขณะเรียนหนังสือ
11. สมาธิสั้นและซนกว่าปกติ
12. ปัสสาวะรดที่นอน เป็นต้น
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่คะ ถ้าหากพบว่า ลูกของเรามีอาการตามที่ได้กล่าวมาแล้วมากกว่า 5 ข้อขึ้นไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจเช็กให้แน่ใจดีกว่าปล่อยทิ้งไว้ และสายเกินไปนะคะ
เครดิต: คณะแพทย์ศูนย์นิทราเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และสมาคมแพทย์โรคจากการหลับแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่