AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

วิธีคุมกำเนิด (ยาฝังคุมกำเนิด) ได้ผลดีจริงหรือเปล่า?

Credit Photo : เพจเรื่องเล่าจากโรงหมอ

วิธีคุมกำเนิด ในปัจจุบันมีให้เลือกอยู่หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น ยาเม็ดคุมกำนิด(รับประทาน)  การฉีดยาคุมกำเนิด การใส่ห่วงคุมกำเนิด ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งวิธีนั่นคือการใช้ ยาฝังคุมกำเนิด ว่าแต่วิธีนี้จะปลอดภัยและได้ผลดีหรือไม่นั้น ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูลเกี่ยวกับวิธีคุมกำเนิดแบบใช้ยาฝังคุมกำเนิด มาบอกให้ทราบกันค่ะ

 

วิธีคุมกำเนิด (ยาฝังคุมกำเนิด)

มีแม่ๆ ฝากคำถามว่าอยากรู้เรื่อง วิธีคุมกำเนิด แบบใช้ยาฝังคุมกำเนิด เพราะเคยได้ยินคนเล่าให้ฟังบอกว่าน่ากลัวต้องเอาเข็มฝังเข้าไปในแขน ใจนึงอยากลองวิธีนี้แต่ก็กังวลว่าจะไม่ได้ผลดี ตอนนี้มีลูก 2 คนพอแล้ว ว่าจะไม่อยากท้องอีก …ถ้าจะให้แนะนำนะคะ ทุกรูปแบบของวิธีการคุมกำเนิดที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ คนที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุดคือ สูตินรีแพทย์ค่ะ เพราะก่อนที่จะเลือกวิธีคุมกำเนิด ตัวคุณแม่จะต้องปรึกษากับคุณหมอก่อนว่าการคุมกำเนิดวิธีไหนที่เหมาะกับสุขภาพร่างกายเรามากที่สุด เพราะการคุมกำเนิดแต่ละวิธีก็มีผลและประสิทธิภาพที่อาจจะแตกต่างกันอยู่บ้าง

ส่วนการคุมกำเนิดแบบใช้ยาฝังคุมกำเนิด ที่ถามกันเข้ามาว่าได้ผลดีจริงหรือเปล่า ทางทีมงานมีคำตอบจากนายแพทย์ แมนวัฒน์ โชคสุวัฒนสกุล สูตินรีแพทย์ เจ้าของเพจดัง “เรื่องเล่าจากโรงหมอ” ที่คุณหมอได้เขียนเล่าสาระความรู้เกี่ยวกับ การใช้ยาฝังคุมกำเนิดไว้อย่างละเอียด  

ซึ่งคุณหมอได้อนุญาตให้ทีมงานเว็บไซต์ Amarin Baby & Kids นำความรู้ในเรื่องนี้มาบอกให้คุณแม่ๆ และผู้อ่านที่กำลังสนใจการคุมกำเนิดด้วยการใช้ยาฝังคุมกำเนิด เพื่อที่จะได้เข้าใจกันอย่างถูกต้องหากเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้กันค่ะ

อ่านต่อ ยาฝังคุมกำเนิด ได้ผลดีจริงหรือเปล่า? หน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

 วิธีคุมกำเนิด (ยาฝังคุมกำเนิด) ได้ผลดีจริงหรือเปล่า?   

นั่นหนะซิคิดอยากจะคุมกำเนิดแบบใช้ยาฝังคุมกำเนิด ที่ต้องมีการฝังเข็มเข้าไปในแขน แค่นึกภาพก็หวาดเสียว กล้าๆ กลัวๆ กับวิธีนี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลดีมากน้อยแค่ไหน …เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งคิดกันไปไกล เพราะคนที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุดก็คือ คุณหมอแมนวัฒน์ โชคสุวัฒนสกุล สูตินรีแพทย์ เจ้าของเพจ “เรื่องเล่าจากโรงหมอ” มีคำตอบที่ชัดเจนให้ตามนี้ค่ะ…

คุณหมอคะ ในรูปที่เห็น คือการใช้ “ยาฝังคุมกำเนิด” ใช่ไหมคะ ทำไมมี 2 เข็ม?  

คุณหมอ – ในรูปเป็นการฝังยาคุม 2 หลอด ที่คุมกำเนิดได้ 5 ปี ขนาดหลอดยาที่ฝังเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 2.5 มิลลิเมตร ซึ่งจะใหญ่กว่าแบบหลอดเดียว ที่คุมกำเนิดได้แค่ 3 ปี ซึ่งหลอดเดียวจะมีขนาด 2 มิลลิเมตร ตัวเข็มจะมีขนาดต่างกันไม่มากครับ  แต่แบบเข็มเดียวตัวฝังจะออกแบบมาปิดๆ เข็มไว้  เพื่อความปลอดภัย และการไม่เห็นตัวเข็มที่แทงเข้าผิวหนัง คนไข้จะได้ไม่รู้สึกว่าน่ากลัว

แล้วแบบนี้ถ้าจะเลือกวิธีการใช้ยาฝังคุมกำเนิด ถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดไหมคะ?

คุณหมอ – ก่อนอื่นขอชี้แจงก่อนว่าการคุมกำเนิดแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป และก็มีข้อจำกัด ซึ่งบางครั้งก็มีโอกาส ผิดพลาดทำให้ท้องขึ้นมาได้ แม้แต่วิธีการทำหมันก็ด้วยเช่นกันครับ  สำหรับการคุมกำเนิดแบบใช้ยาฝัง ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ ดีมากๆ ครับ แต่ไม่ใช่ทางเลือกเดียวสำหรับคนที่เคยคลอดลูก และก็ไม่มีข้อห้ามใดๆ ในการใช้วิธีนี้ครับ

ยาฝังคุมกำเนิด เป็นแบบเข็มเดียว กับแบบ 2 เข็ม ใช่ไหมคะ?

คุณหมอ –  ใช่ครับ ยาคุมกำเนิดชนิดฝังในปัจจุบันที่ใช้มีสองแบบ คือ 1 หลอด และ 2 หลอด

1 หลอด (Implanon, Nexplanon) จะคุมกำเนิดได้ 3 ปี

2 หลอด (Jadelle) จะคุมกำเนิดได้ 5 ปี

ซึ่งยาฝังคุมกำเนิดแบบ 1 หลอด และ 2 หลอด จะเป็นหลอดซิลิโคน ที่บรรจุฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไว้ภายในตัวหลอดมีขนาดเล็กๆ ครับ

การคุมกำเนิดแบบฝัง มีข้อดีอะไรบ้างคะ?

คุณหมอ – การฝังยาคุมกำเนิดนั้นดีมากๆ มีข้อดีที่น่าจะเรียกความสนใจให้กับแม่ๆ ได้มากอยู่พอสมควร นั่นคือ…

– ไม่ยับยั้งการสร้างน้ำนม ทำให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างต่อเนื่อง

– ฝังทีเดียวจบ ไม่เหมือนกับกินยาคุมที่ต้องกินทุกวัน หรือถ้ายาฉีดก็ต้องฉีดทุกสามเดือน

– ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดสูงถึง 99+% ถ้าฝังถูกต้อง

– ไม่มีผลข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น ถ้าเป็นในยาคุมชนิดรวมอาจทำให้เกิด ฝ้า คลื่นไส้

– ผลข้างเคียงเรื่องน้ำหนักขึ้น เลือดออกผิดปกติ ไม่มากเท่ายาฉีดคุมกำเนิด

– ลดอาการปวดประจำเดือน หรืออาการของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้

– ลดโอกาสเกิดมะเร็งเยื่อยุโพรงมดลูก

 

บทความแนะนำ คลิก>> คุมกำเนิดถาวร อีกทางเลือกที่ดีถ้ามีลูกพอแล้ว

 

แล้วข้อเสียของวิธีฝังยาคุมกำเนิด มีหรือเปล่าคะ?

คุณหมอ – ข้อดีมักมาคู่กับข้อเสียครับ สำหรับการคุมกำเนิดแบบใช้ยาฝัง

– หลังทำแล้วอาจมีผลเรื่องของน้ำหนักตัวบ้างนิดหน่อย รวมถึงหลังจากฝังไปแล้วหนึ่งปี คนไข้ 1 ใน 3 จะไม่มีประจำเดือน

– มีอาการหงุดหงิด ซึมเศร้า ช่องคลอดแห้งได้ เช่น เดียวกับยาฉีด แต่ผลจะน้อยกว่า

– ราคาถ้าฝัง 2 หลอดราวๆ 2,500-3,000 บาท (รพ.รัฐ) ส่วนโรงพยาบาลเอกชนน่าจะประมาณ 7,000-8,000 บาท

– หากมีการเอาหลอดยาที่ฝังออก จะต้องกรีดแขนในตำแหน่งที่ฝังยาลงไปทำให้เกิดแผลเป็นเล็กๆ

– ตอนฝังยาไม่เจ็บมาก เพราะฉีดยาชา แต่หลังฝังยาแล้วอาจมีเจ็บบ้าง และอาจเกิดรอยช้ำอยู่ประมาณหนึ่งสัปดาห์ มีแผลเล็กๆ ขนาดสักไม่เกินครึ่งเซ็นติเมตร

เป็นอย่างไรบ้างคะกับข้อมูลความรู้ของการคุมกำเนิดแบบใช้ยาฝัง คุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูก หรือคลอดมาแล้วสักพักหนึ่งแล้วยากทำหมัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ขอให้ศึกษาข้อมูลรายละเอียดให้มากที่สุด หากไม่มีความรู้หรือเข้าใจมากพอ อย่าลังเลที่จะไปขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการตั้งครรภ์ที่ใกล้บ้าน หรือจะเป็นคุณหมอที่เคยทำคลอดให้ก็ได้นะคะ ส่วนวัยรุ่นสาวๆ ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร แนะนำว่าต้องป้องกันตัวเองกันด้วยนะจ๊ะ

อ่านต่อ วิธีคุมกำเนิดที่ต้องมีหมอทำให้เท่านั้น หน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

วิธีคุมกำเนิด ที่ต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้การช่วยเหลือในการคุมกำเนิด

ข้อทิ้งท้ายไว้กับการคุมกำเนิดอีกสักเล็กน้อย เพื่อคุณแม่ๆ จะได้เก็บไว้เป็นข้อมูลก่อนคุมกำเนิดกันค่ะ… ซึ่งวิธีคุมกำเนิดต่อไปนี้จะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคะ

Credit Photo : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

ยาฉีดคุมกำเนิด

คุณแม่หลังคลอดที่ไม่กลัวเจ็บจากการฉีดยา จะเลือกคุมกำเนิดด้วยการฉีดยาคุมก็ได้นะคะ การฉีดยาคุมจะฉีดเข้ากล้ามเนื้อซึ่งการฉีดยาคุมจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 1-3 เดือน ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของยาฉีดคุมกำเนิดค่ะ วิธีนี้มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง คือมีโอกาสการตั้งครรภ์ 1-9 % สำหรับการยาฉีดคุมกำเนิดจะต้องฉีดซ้ำตามระยะเวลาหรือประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดด้วยนะคะ คือถ้าฉีดยาคุมเข็มแรกไปแล้ว พอระยะเวลาคุมกำเนิดหมด คุณแม่เกิดลืมไปฉีดซ้ำเข็มที่สอง ก็มีโอกาศกลับมาตั้งครรภ์ได้เร็วมากค่ะ

ยาคุมกำเนิดชนิดฝัง ห่วงคุมกำเนิด และการทำหมัน

คุณแม่หลังคลอดที่ไม่อยากวุ่นกับการกินยาเม็ดคุมกำเนิด หรือต้องเจ็บตัวฉีดยาคุมบ่อยๆ ลองคุมกำเนิดด้วยวิธีการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฝัง ห่วงคุมกำเนิด หรือจะเป็นการทำหมันก็ได้ค่ะ ซึ่งวิธีการคุมกำเนิดทั้ง 3 แบบนี้ ถือเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เพราะมีโอกาสที่ตั้งครรภ์ไม่ถึง 1% เลยค่ะ

ไม่ว่าจะก่อนตั้งครรภ์ หรือหลังตั้งครรภ์ การเข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอทางสูตินรีแพทย์ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้นค่ะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

บทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจ

รีวิวการ คุมกำเนิดแบบฝังเข็ม กระทู้ดีจากพันทิป!
แพทย์จุฬาชี้ วิธีใช้ “ยาคุมกำเนิด” ให้ปลอดภัย ช่วยป้องกัน “โรคมะเร็ง” บางชนิดได้


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เพจเรื่องเล่าจากโรงหมอ