เด็กๆ ชอบวิ่งเล่นเหงื่อเปียกชุ่มเป็นเรื่องปกติ แต่จะไม่ปกติแน่ ถ้าได้กลิ่นตุๆ โชยมาจากเท้าของลูก! คุณแม่ลูกเล็กหลายคนที่มีปัญหาเรื่อง ลูกเท้าเหม็น กันอยู่พอสมควร จดส่งคำถามเข้ามาว่าจะรักษาได้ด้วยวิธีใด และเพราะเหตุใดกลิ่นเท้าเหม็นถึงเกิดขึ้นได้ในเด็ก ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำตอบมาให้แล้วค่ะ
ลูกเท้าเหม็น เกิดจากสาเหตุใด
ลูกเท้าเหม็น เพราะเหงื่อออกบ่อย เท้าน้อยๆ ที่สวมถุงเท้ารองเท้าอยู่เสมอจึงมักเกิดอาการ “หายใจ” ไม่คล่อง บริเวณเท้าของลูกจึงเป็นจุดที่เหงื่อเยอะและส่งกลิ่นแรงที่สุด นอกจากนี้ รองเท้าที่ลูกใส่ประจำอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เชื้อรา แบคทีเรีย สิ่งสกปรกทั้งหลาย และกลิ่นอับ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดกลิ่นเหม็นติดเท้าลูก
มีหลายเรื่องเกี่ยวกับเท้าน้อยๆ ของลูกที่พ่อแม่ควรรู้ ดังนี้
1. เท้าเด็กมีเหงื่อออกเยอะ
เด็กๆ มักอยู่ไม่นิ่ง ชอบขยับเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาเยอะเพื่อระบายความร้อน เด็กมีต่อมเหงื่อที่เท้ากว่า 250,000 ต่อมเหมือนผู้ใหญ่ แต่เท้าเด็กมักชุ่มเหงื่อมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 2-3 เท่า! นี่หมายความว่า ความชื้นซึมเข้าไปในถุงเท้ารองเท้าลูกทั้งวันและทุกวัน! จริงๆ แล้ว ตัวเหงื่อเองนั้นไม่มีกลิ่น แต่เหงื่อและความชื้นนี้เป็นอาหารโปรดของแบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนังและในรองเท้า ซึ่งเป็นตัวการสร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้น
2. รองเท้าเด็กมักผลิตจากวัสดุราคาถูก
พ่อแม่อาจคิดอยากซื้อรองเท้าระบายอากาศดีๆ ให้ลูก แต่ทว่า รองเท้าเด็กส่วนใหญ่มักทำจากยาง โพลียูรีเทน หรือพลาสติกราคาถูก หนังสือพิมพ์ Scranton Times-Tribune ในอเมริกาแนะนำว่า ควรเลือกรองเท้าที่ทำจากวัสดุที่อากาศผ่านได้ดี เช่น หนัง ผ้า ผ้าใบ หรือผ้าใบตาข่าย ไม่ซื้อรองเท้าที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์โดยเฉพาะพลาสติก และควรเลือกพื้นด้านในรองเท้าที่มีคุณสมบัติซับน้ำและระบายเหงื่อได้ดี
3. รองเท้าเด็กต้องเปลี่ยนบ่อยๆ
เพราะเด็ก ๆ ชอบวิ่งเล่นเหงื่อแตกพลั่กขณะใส่รองเท้า พื้นบุรองเท้าจึงมักเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่คุณคิด รองเท้าที่ชำรุดทำให้แห้งช้าและเกิดกลิ่นอับง่าย
4. เด็กๆ สัมผัสกับเชื้อโรคแทบทุกชนิด
สิ่งหนึ่งที่ผู้ปกครองหลายบ้านมักบ่นกัน คือ ลูกไปโรงเรียนแล้วป่วยบ่อย ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะเด็กๆ สัมผัสกับเชื้อโรค เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียนานาชนิดอยู่เสมอ ไม่ว่าจะในโรงเรียนหรือสนามเด็กเล่น อาการติดเชื้อที่เท้า เช่น โรคเชื้อราที่เท้า (ที่เรียกกันว่าฮ่องกงฟุตหรือน้ำกัดเท้า) จึงพบเห็นได้บ่อยในกลุ่มเด็กๆ
อ่านต่อ เคล็ดลับแก้ปัญหากลิ่นเท้าเหม็นให้ลูก คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เคล็ดลับแก้ปัญหาลูกเท้าเหม็น
คุณหมอ Richard N. Goad ผู้เชี่ยวชาญด้านเท้าเด็กจากเท็กซัส ได้ให้คำแนะนำวิธีลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากเท้าลูกน้อยไว้ ดังนี้
อาบน้ำบ่อยๆ
ล้างสิ่งสกปรกและคราบขี้ไคลที่เท้าให้ลูกทุกวัน เพื่อกำจัดซากแบคทีเรียที่ตกค้างอยู่บนผิวหนัง
อย่าให้เท้าอับชื้น
ทาแป้งที่เท้า เพื่อป้องกันการอับชื้น และเมื่อลูกเข้ามาในบ้าน ควรให้ถอดถุงเท้ารองเท้าเพื่อระบายอากาศ จะให้ลูกเดินเท้าเปล่าหรือเปลี่ยนใส่ถุงเท้าคู่ใหม่ก็ได้
Must Read >> ลูกเหงื่อออกเยอะมาก ผิดปกติหรือไม่?
ใส่ถุงเท้าซับเหงื่อ
เลือกใช้ถุงเท้าที่ซับเหงื่อและระบายอากาศได้ดี ควรเลือกถุงเท้าสีขาว และเปลี่ยนวันละ 2 ครั้ง
หลีกเลี่ยงการสัมผัสเชื้อโรค
ให้ลูกใส่รองเท้าแตะเวลาเดินบนพื้นเปียก เช่น ริมสระว่ายน้ำหรือในสวนน้ำ และไม่ให้เดินย่ำน้ำสกปรก
ใส่รองเท้าสะอาด
หมั่นทำความสะอาดรองเท้า โดยเฉพาะตรงพื้นด้านในรองเท้าส่วนที่สัมผัสกับเท้าและถุงเท้า เพื่อกำจัดแบคทีเรียและลดกลิ่นเหม็นอับ อาจโรยแป้งเข้าไปในรองเท้าด้วยก็ได้ เพื่อจัดการกลิ่นอับที่ยังอาจหลงเหลืออยู่
คุณยังแนะอีกว่าหากแก้ไขเรื่องกลิ่นเท้าเบื้องต้นตามวิธีข้างต้นแล้ว หากอาการของกลิ่นยังมีอยู่ ควรพาลูกไปหาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญกันอีกครั้งค่ะ
อ่านต่อ เทคนิคเลือกรองเท้าให้ดีต่อสุขภาพเท้าลูก คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เลือกรองเท้าให้ลูก ต้องดูที่ขนาดนะแม่!!
อยากให้ลูกได้ใส่รองเท้าที่ใช่สบายเท้า ใส่แล้วพอดี ไม่หลวม ไม่แน่นเกินไป ที่สำคัญรองเท้าต้องดีต่อสุขภาพเท้าของลูกด้วย แนะนำว่าให้คุณแม่ทดสอบรองเท้าที่เหมาะกับเท้าลูก ดังนี้ค่ะ
- ความกว้าง ทดสอบโดยจับด้านข้างรองเท้าตรงส่วนกว้างที่สุด ลองบีบ ถ้าตัวรองเท้าถูกบีบได้เล็กน้อยแสดงว่ากว้างพอดี ถ้าบีบแล้วพับเข้ามาเลย แสดงว่ากว้างเกินไป และถ้าบีบเข้าหากันไม่ได้เลย แปลว่าคู่นั้นคับไป
- ความยาว ใช้นิ้วโป้งของคุณกดไปบนรองเท้าตรงนิ้วที่ยาวที่สุดของลูก (เด็ก / ผู้ใหญ่บางคนนิ้วชี้ /นิ้วกลาง ยาวกว่านิ้วโป้ง) ตามแนวขวางให้มีที่เหลือราว 1/2 นิ้ว หรือ เท่ากับความกว้างของนิ้วโป้งคุณที่กดลงไป จะ เป็นความยาวที่พอดี จากนั้นดูนิ้วอื่นๆ ให้แน่ใจว่าในรองเท้ามีพื้นที่ให้นิ้วเท้าของลูกขยับหรือกระดิกได้สบายๆ
- ส้นรองเท้า ใช้นิ้วก้อยของคุณแทรกไประหว่างส้นเท้าและหลังรองเท้า ขนาดที่พอดีคือ คุณควรแทรกนิ้วได้พอดีๆ ถ้าแทรกนิ้วก้อยไม่ได้เลยหรือแน่นไป ถือว่าคู่นั้นเล็กไป จะเสียดสีกับส้นเท้าของลูก ถ้านิ้วก้อยคุณเลื่อนไปได้รอบคู่ แปลว่าคู่นั้นใหญ่ไป
สุขภาพลูกเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกลิ่นเท้าถ้ามีกลิ่นต้องรีบแก้ไขกันตั้งแต่เบื้องต้น เพื่อสุขอนามัยที่ดีของลูกค่ะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
“เท้าแบนในเด็ก” กับเรื่องจริงที่พ่อแม่ควรรู้ (Flat Foot)
วิธีซักรองเท้าผ้าใบ ไม่ซื้อใหม่ ก็ขาววิ๊งได้ (สำหรับเปิดเทอม)
ระวังเลือกรองเท้าคุณภาพไม่ดีอาจเป็นอันตรายกับลูกน้อย
อ้างอิงข้อมูลที่มาจาก
www.babycenter.com
www.sterishoe.com