น้ำใบบัวบก พระเอกพื้นบ้านมีพลังพิเศษป้องกัน “โรคอัลไซเมอร์”! พร้อมวิธีรับประทานที่ถูกต้องปลอดภัย!
“อัลไซเมอร์” โรคที่ไม่มีใครอยากเป็น เพราะคนเป็นก็น่าสงสาร คนรอบข้างก็น่าเห็นใจ แต่จะมีวิธีการป้องกันแบบไหน วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids มีข้อมูลดี ๆ มาฝากกันค่ะ แต่ก่อนที่เราจะไปดูนั้น เรามาทำความรู้จักกับโรคที่ว่านี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ
โรคอัลไซเมอร์ คืออะไร?
เราสามารถเรียกโรคนี้อีกอย่างหนึ่งได้ว่า โรคสมองเสื่อม เกิดจากการตายของเซลล์ในสมอง จึงมีผลทำให้การทำงานของสมองแย่ลง ถ้าหากสมองมีการเสื่อมตัวมากขึ้น จะมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หากไม่ได้รับการรักษาในช่วงระยะเวลา 8 – 10 ปี จะทำให้เกิดการเสื่อมของสมองอย่างรวดเร็วและรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนทำให้มีปัญหาต่อการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้
อาการของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้
- หงุดหงิด อารมณ์เสียง่ายกว่าปกติ เพราะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้
- การทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องยาก เช่น การลืมผูกเน็คไท ลืมผูกเชือกรองเท้า
- วางของผิดที่ผิดทาง เช่น เอากระเป๋าตังค์ไปใส่ไว้ในตู้เย็น เอาช้อนซ้อมไปใส่ไว้ในตู้ลิ้นชักเสื้อผ้า เป็นต้น
- สับสนเรื่องเวลา เช่น นั่งรอแค่ 5 นาทีก็คิดว่านั่งรอมา 5 ชั่วโมงแล้ว
- มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร โดยเฉพาะการใช้คำพูด โดยคิดไม่ออกว่าจะใช้คำอะไร จะพูดว่าอะไร
- แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกมา พูดหรือทำในสิ่งที่ปกติจะไม่พูดหรือไม่ทำ ขาดความคิดยั้งใจ หรือตัดสินใจถูก ตัดสินใจผิด เป็นต้น
วิธีการรักษา
โรคดังกล่าวเป็นอีกโรคหนึ่งที่ยังไม่มียาหรือเทคโนโลยีรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถรักษาอาการของผู้ป่วยให้สามารถช่วยเหลือตัวเอง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการใช้ยาเพื่อยับยั่งสารอะเซตีลโคลีนเอสเทอเรส ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เพราะช่วยลดการทำลายสารอะเซติลโคลีน ซึ่งเป็นสารความจำที่อยู่ในสมอง ดีต่อผู้ป่วยในระยะเริ่มต้น และระยะกลาง
อ่านต่อ >> ใบบัวบกป้องกันโรคความจำเสื่อม!
เครดิต: Honest Docs
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในปัจจุบันภาวะสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยสูงอายุและมีแนวโน้มสูงขึ้น
คุณหมอจึงได้แนะนำสมุนไพรไทยพื้นบ้านของเราอย่าง “ใบบัวบก” ที่จัดได้ว่าเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อที่มีอยู่ทั่วไปเรียกได้ว่า หาใช้ก็ง่ายและยังปลอดภัยอีกด้วย คุณสมบัติของ ใบบัวบก นั้นนอกจากจะมีฤทธิ์รักษาแผลที่ผิวหนัง รักษาแผลในทางเดินอาหาร รักษาความผิดปกติของหลอดเลือดดำ รักษาแผลในปากแล้ว ยังช่วยบำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์ และช่วยฟื้นฟูความจำ และมีผลกับการความจำและเรียนรู้ในผู้สูงอายุอีกด้วยนะคะ
สาเหตุที่ใบบัวบกสามารถป้องกันโรคดังกล่าวได้นั้น เนื่องจากในบัวบกมีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาทและสมอง ช่วยทำให้เพิ่มความจำดีขึ้นและทำให้มีปฏิภาณไหวพริบ เพิ่มมากขึ้น ใบบัวบกยังช่วยเสริมการทำงานของกาบา ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ ลดความกระวนกระวาย ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลายลงได้ ทำให้สามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น โดยแค่เพียงรับประทานเป็นประจำก่อนนอน ก็จะช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น
อ่านต่อวิธีทำน้ำใบบัวบก คลิก!
วิธีทำน้ำใบบัวบก
สำหรับวิธีรับประทานนั้น ให้ดื่มครั้งละ 120-200 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร และไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานนะคะ และนอกจากใบบัวบกแล้วนั้น ยังมีอาการอีก 5 อย่างที่จะมาช่วยลดความเสี่ยงของโรคนี้ ได้แก่
- ปลาแซลมอน เป็นปลาที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 โดยสามารถช่วยลดระดับของบีตา-แอมีลอยด์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นโปรตีนที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ มีเป็นโปรตีนที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หากไม่ชอบทานปลาแซลมอน ก็อาจลองหันไปทานปลาที่อุดมไปด้วยไขมันอย่างปลาแมคเคอเรลหรือปลาซาร์ดีนแทน ซึ่งล้วนแต่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เยอะไม่แพ้กัน
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ล้วนแต่อุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นหนึ่งในสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยหยุดการอักเสบและทำให้เซลล์สมองทำงานได้ดีกว่าเดิม โดยจะช่วยให้สมองประมวลข้อมูลได้เร็วขึ้น
- ผักที่มีใบเขียว อันอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์ มีผลการศึกษาหนึ่งพบว่า เมื่อให้หญิงสาวที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ทานผักใบเขียวเป็นประจำในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ผลปรากฏว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีความจำและทักษะการพูดที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้เข้าการทดสอบดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีผลการศึกษาใหม่พบว่า ด้วยความที่ผักโขมเป็นผักที่มีวิตามินซีสูง จึงสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคสมองเสื่อมได้
- ขมิ้น มีสารเคอร์คูมิน ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคดังกล่าวได้ โดยมีผลการศึกษาพบว่า เมื่อบริโภคอาหารที่มีวิตามินดี 3 และเคอร์คูมิน จะสามารถช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายกำจัดกรดอะมิโน ที่เกาะตัวกันในสมองซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการเกิดโรค นั่นเอง
- กาแฟ เคยมีผลการศึกษาหนึ่งพบว่า ผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปีขึ้นไปและดื่มกาแฟวันละ 3 แก้วต่อวัน จะส่งผลให้มีระดับคาเฟอีนในเลือดสูงและมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ช้าถึง 2-4 ปี เมื่อเทียบกับผู้ที่มีระดับคาเฟอีนในเลือดต่ำได้
ไม่อยากเป็นโรคนี้ ไม่อยากให้คนข้างหลังต้องเดือดร้อน อย่าลืมป้องกันโรคดังกล่าวกันเสียแต่เนิ่น ๆ ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตามที่กล่าวมา แต่อย่ารับประทานเยอะเกินไปนะคะ ทานแต่พอดี ๆ เพราะหากทานมากจนเกินขีดจำกัด จากข้อดีอาจจะเปลี่ยนเป็นข้อเสียได้โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยละค่ะ
เครดิต: Hfocus
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่