ฝักคูน แทงตา เด็ก 7 ขวบ เพราะเล่นกันไม่ระวัง …พูดถึงการเล่น กับเด็ก ถือเป็นของคู่กันก็จริง จะห้ามไม่ให้เล่นก็อาจผิดวิสัยของธรรมชาติ แต่บ่อยครั้งที่เราอาจเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับอันตรายจากการที่เด็กๆ เล่นด้วยกัน เพียงเพราะไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแล เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้…
เด็ก 7 ขวบ ถูกเด็ก 10 ขวบ ใช้ฝักคูน แทงเข้าเบ้าตา รักษาไม่ได้ต้องควักดวงตาทิ้ง
โดยเรื่องนี้เกิดขึ้น เมื่อเดือนต.ค. 2559 ซึ่งเด็กชายผู้เคราะห์ร้าย ชื่อน้องอิกคิว อายุ 7 ปี ได้ถูก ด.ช. คนหนึ่งซึ่งอายุ 10 ปี มาเล่นที่บ้านด้วยกัน และได้ใช้ฝักคูณแทงเข้าไปที่ดวงตาข้างซ้ายของ ด.ช.อิกคิว จนทำให้ดวงตาแตกยุบเข้าไปในเบ้าตา ทำให้แพทย์ต้องควักดวงตาทิ้ง ซึ่งขณะนี้ ล่าสุด ด.ช.อิกคิว ยังคงใช้ผ้าปิดตาเอาไว้ เนื่องจากว่าแผลยังไม่หายสนิท โดยพ่อและแม่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
โดยผู้เป็นแม่ของน้องอิกคิว เล่าว่า เหตุที่ทำให้น้องอิกคิวพิการตาบอดตลอดชีวิตเกิดขึ้น น้องอิกคิวกำลังเล่นอยู่หน้าบ้าน ปรากฏว่าได้มี ด.ช. อายุ 10 ขวบ ซึ่งติดตามพ่อแม่มาร่วมงานวันเกิดของเพื่อนบ้านคนหนึ่งได้มาขอเล่นด้วย และต่อมาก็ได้ยินเสียงน้องอิกคิวร้องไห้เสียงดังลั่น ตนจึงได้รีบวิ่งออกมาดู พบว่าน้องอิกคิวมีเลือดไหลทะลักออกมาจากดวงตาข้างซ้ายตนจึงได้ถามว่าใครทำแบบนี้น้องอิกคิวได้ชี้ไปที่ ด.ช.วัย 10 ขวบคนนั้น
ซึ่งน้องอิกคิวบอกว่า ด.ช. นั้นได้ใช้ฝักคูณที่น้องอิกคิวเก็บมาเพื่อที่จะเล่นขายของ โดยได้หักฝักคูณเป็น 2 ท่อน จากนั้นได้ใช้ฝักคูณแทงมาที่น้องอิกคิว โดยครั้งแรกน้องอิกคิวหลบทัน แต่พอ ด.ช.อายุ 10 ขวบ ใช้ฝักคูณแทงมาครั้งที่ 2 น้องอิกคิวหลบไม่ทันทำให้โดนฝักคูณทางเข้าที่ดวงตาข้างซ้ายจนทำให้ดวงตายุบเข้าไปในเบ้าตาเลือดไหลทะลักออกมาจำนวนมาก ผู้เป็นแม่จึงได้รีบนำตัวน้องอิกคิวส่งไปที่ รพ.
แพทย์ได้ทำการตรวจบาดแผล แล้วแจ้งว่าจะต้องควักดวงตาข้างซ้ายของน้องอิกคิวทิ้ง เนื่องจากว่าดวงตากระจกแก้วตาแตกกระจายไม่สามารถที่จะรักษาได้หากไม่ควักตาทิ้งอาจจะทำให้ลุกลามติดเชื้อไปยังดวงตาอีกข้างหนึ่งและจะทำให้ตาบอดทั้ง 2 ข้าง ผู้เป็นแม่จึงได้อนุญาตให้แพทย์ทำการรักษาพยาบาลโดยการควักเอาดวงตาข้างซ้ายของน้องอิกคิวทิ้งไป
อ่านต่อ >> “เด็ก 7 ขวบ ถูกเด็ก 10 ขวบ ใช้ฝักคูนแทงเข้าเบ้าตาจนต้องควักลูกตาทิ้ง” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ปัจจุบัน น้องอิกคิว ยังต้องปิดดวงตาข้างที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ และเรื่องคดีที่ผู้เป็นแม่แจ้งความไว้ แต่แม่ของด.ช. 10 ขวบที่ก่อเหตุได้ปัดความรับผิดชอบ ก็แทบจะไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทางครอบครัวก็หวังว่าจะได้รับความอนุเคราะห์ดวงตาเทียมมาให้กับลูกชาย พร้อมกับเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองให้กรณีของตนเป็นอุทาหรณ์ในการดูแลเลี้ยงดูบุตรหลาน
โดยผู้เป็นแม่ของน้องอิกคิว ได้กล่าวเตือนไว้ว่า… ขอฝากเป็นอุทาหรณ์ไปยังพ่อแม่ทุกคนว่าในการเล่นของลูกหลานไม่ควรที่จะให้เล่นของที่มีคมที่อาจจะเป็นอันตรายจนถึงกับพิการเหมือนกับลูกของตนที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ควรที่จะดูแลลูกหลานของตนเองอย่างใกล้ชิดด้วยเพราะหากว่าเกิดเหตุขึ้นมาแล้ว ไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้จะต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิตเมื่อโตขึ้นไม่สามารถที่จะทำงานรับราชการหรือทำงานดีเหมือนกับคนที่ดวงตาปกติได้
****************************************
♥ เรื่องเกี่ยวข้อง คุณแม่ต้องอ่าน : 10 เรื่องที่ พ่อแม่ต้องเจอ เมื่อมีลูกชาย
♥ เรื่องเกี่ยวข้อง คุณแม่ต้องอ่าน : สอนลูกให้รู้จักเล่นแรงๆ แต่พองาม
ทั้งนี้ในเรื่องของการเล่น ส่วนใหญ่แล้วการเล่นแรงๆ แต่พองามถือเป็นพฤติกรรมปกติของเด็กๆ และเป็นวิธีหนึ่งที่เขาใช้ทดสอบขีดจำกัดว่าทำอะไรได้แค่ไหน และระบายความรู้สึกแย่ๆ (เช่น โกรธ ผิดหวัง อึดอัดใจ) ของตัวเอง
ซึ่งการเล่นที่เสมือนโถมแรงเข้าใส่ เป็นเพียงการพอใจกับการค้นพบเรื่องร่างกายเท่านั้น เด็กยังไม่สมบูรณ์ด้านกระบวนการคิด คือในระหว่างเล่นแบบใช้กำลังนั้นเด็กยังไม่ได้ใช้ความคิดแบบผู้ใหญ่ และถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่เข้าใจลูก การห้าม การดุจะให้น้ำหนักไปที่ให้ลูกรู้จักคิด พัฒนาการด้านความคิด การพูดและการเคลื่อนไหวเด็กยังต้องการเวลาบ่มเพาะกับการเล่นต่อไปจนพ้นวัยเด็กน้อย ซึ่งก็คือวัยชั้นประถมขึ้นไป ซึ่งเด็กจะเข้าใจเรื่องเหตุผล พ่อแม่ต้องชี้นำด้วยการอธิบายเขาก็รับได้ ส่วนอายุขนาดนี้จะเลี้ยงดูแบบไหนจึงจะเข้าใจ พ่อแม่ต้องเน้นการกระทำ ให้ทำตามจนเป็นนิสัย โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ในการสอน ดังนี้
- สังเกตเด็กใกล้อย่างชิด โดยการสังเกตด้วยหัวใจที่เปิดกว้างไม่ใช่จับผิด พ่อแม่ควรบอกในใจตัวเองเสมอ เด็กตัวเล็กตัวน้อยอย่างนี้ จะสอนอะไรต้องทำให้ดู
- ยั้งไว้อย่าเพิ่งห้าม หากไม่เกิดอันตรายกับ 3 อย่างนี้จริงจังก็ขอให้ดูไปก่อน คืออันตรายกับตัวเอง อันตรายกับผู้อื่น อันตรายกับสิ่งของ และยั้งไว้อย่าเพิ่งชม ถ้าเด็กไม่ได้ทำอะไรที่ต้องชมจริงๆ
- มองเด็กอย่างที่เด็กเป็นอย่างให้โอกาส หากเห็นเด็กเล่นแรงๆ แบบนั้น ก็ไปแยกเขาออกมา เบี่ยงเบนความสนใจของเขา ด้วยการชวนมาร้องเพลงที่มีท่วงทำนองสนุก น่ารัก สัมผัส และลูบตัวเขาเบาๆ เหมือนเล่นปูไต่ไปตามลำตัว แขน ขา ตลอดจนนิ้วมือก็ให้ลูบแต่ละนิ้วเบาๆ เด็กยังอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน หาเวลาให้เด็กได้นั่งแอบอิงและเล่านิทานให้เขาฟัง ไม่ต้องรีบร้อนให้วัยเด็กของเขาจบเร็วนัก เด็กที่อยู่ตรงไหนก็เป็นสุข โตขึ้นก็เป็นผู้ใหญ่ที่เป็นสุข
- ลองตั้งกฎง่าย ๆ แม้กระทั่งเด็กวัย 3 ขวบก็ทำตามคำสั่งง่ายๆ เช่น บอกลูกว่าห้ามเล่นยิงปืนในบ้านเด็ดขาด และย้ำกับเขาบ่อยๆ ด้วย หรือพูดให้ชัดว่าเล่นคาราเต้ที่สนามหน้าบ้านได้ แต่ห้ามเข้ามาเล่นในห้องนั่งเล่นนะ เจาะจงไปเลยว่าคุณอนุญาตอะไรบ้าง และอย่าลืมชมเชยเมื่อลูกเชื่อฟังและยอมทำตามกฎของคุณด้วยล่ะปลอดภัยไว้ก่อน
หรือ ยกตัวอย่างให้ลูกเห็นว่าเล่นแบบไหนอันตรายและแบบไหนถึงจะปลอดภัย เช่น ขว้างหรือโยนของเล่นนิ่มๆ ได้ แต่ห้ามเอาของเล่นแข็งๆ หรือมีขอบแหลมคมมาเล่นแบบนี้นะ หรือกระโดดเล่นบนเตียงได้ แต่ห้ามกระโดดใส่คนอื่น และอย่าจงใจทำให้คนอื่นเจ็บตัวด้วย
ทั้งนี้เรื่องของเล่น หรืออุปกรณ์ วัสดุ ต่างๆ ที่เด็กใช้ประกอบในการเล่น ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ต้องคำนึงถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นด้วย เพราะแม้กระทั่งของเล่นเล็กๆ ดูไม่มีพิษภัย หรือของเล่นตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับข่าวข้างต้น ก็ยังสามารถที่จะสร้างอันตรายให้กับเด็กๆได้โดยที่คุณพ่อและคุณแม่เองไม่ทันได้คาดคิดเลย
อ่านต่อ >> “ลักษณะของเล่นที่พ่อแม่ต้องคอยระวัง ก่อนให้ลูกเล่น” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
คุณพ่อคุณแม่จะต้องทราบก่อนว่าของเล่นเด็กแบบไหนบ้างที่จะเกิดอันตรายขึ้นได้
- ของเล่นเด็กที่มีเหลี่ยม มีคม การเล่นของเล่นเด็กที่มีเหลี่ยมมีคมมักจะมีอยู่ในของเล่นแทบทุกชนิด โดยเฉพาะพวกตัวต่อที่เป็นไม้ เป็นพลาสติก ซึ่งเด็กๆมักจะเอาเข้าปากบ้าง ขว้างปาบ้างตามประสาเด็ก เมื่อกระเด็นมากระทบกับตัวเมื่อไหร่อาจเกิดอาการบาดเจ็บได้เลยทันที ดังนั้นของเล่นเด็กพวกนี้ต้องระวังมากเป็นพิเศษหน่อย
- ของเล่นเด็กที่มีขนาดเล็ก พวกลูกแก้ว ลูกบอลจิ๋ว ลูกปัด ซึ่งเด็กจะสามารถจับได้อย่างเต็มมือ และที่สำคัญเลยคือสามารถจับเข้าปากได้ง่าย กลืนลงคอได้ง่าย ติดคอได้ง่ายทำให้ไปอุดตันทางเดินหายใจ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นมาและเป็นข่าวใหญ่มาแล้วบ่อยครั้งสำหรับพ่อและแม่ที่ชอบซื้อของเล่นขนาดเล็กๆ ต้องระวังให้มากที่สุด
- ของเล่นเด็กแบบยาง แม้จะดูเป็นของเล่นเด็กที่ปลอดภัยมากที่สุด แต่วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตนั้นก็อาจจะเกิดอันตรายกับเด็กได้ ซึ่งอาจจะมาจากการอม การหยิบจับเข้าปาก ล้วนแต่เป็นสารเคมีทั้งนั้น จึงต้องหมั่นทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอด้วย
- ของเล่นเด็กที่มีลักษณะเป็นสาย กระบวนการเล่นของเด็กๆทั่วไป นอกจากจะเล่นเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ส่วนมากก็จะเล่นเพื่อที่จะสร้างจินตนาการใหม่ๆให้ตัวเอง ด้วยการเอามาพันสิ่งของรอบตัวของเล่นเด็กที่มีลักษณะเป็นเส้นสายจะดูอันตรายมากเมื่อเด็กเอามาพันรอบตัวเอง นั่นหมายความว่าเขาสามารถเอาพาพันที่คอ พันที่นิ้วซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ถึงชีวิต
- ของเล่นที่มีล้อ เช่น สกู๊ตเตอร์ รองเท้าสเก็ต รถจักรยานยนต์เพราะเด็กมีการทรงตัวและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไม่ดีนักหากเด็กนำไปเล่นบริเวณพื้นลาด หรือริมข้างถนนจะก่อให้เกิดอันตรายที่รุนแรงมากขึ้นได้
- ของเล่นที่มีลักษณะเป็นรู ซึ่งเด็กสามารถสอดนิ้วเข้าไปได้ เพราะเด็กอาจนำนิ้วไปแหย่บริเวณข้อต่อของเล่น ทำให้เกิดอันตรายได้
♥ เรื่องเกี่ยวข้อง คุณแม่ต้องอ่าน : เผยรายชื่อ 10 ของเล่นอันตราย ประจำปี 2016
♥ เรื่องเกี่ยวข้อง คุณแม่ต้องอ่าน : การเลือกของเล่นเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
ไม่ว่าจะเป็นการเล่นธรรมดา หรือเล่นของเล่นเด็กทุกชนิด ต่างก็สร้างการเรียนรู้ เสริมพัฒนาการ และความสนุกสนานได้ แต่ก็เกิดอันตรายได้ด้วย เพราะในกระบวนการเล่นของเด็กเราไม่สามารถเฝ้าดูได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว การเรียนรู้เกิดขึ้นได้เสมอ แต่ต้องรู้จักที่จะสร้างเการะป้องกันเพื่อความปลอดภัยให้ลูกน้อยด้วย ทั้งอุปกรณ์ทุกอย่างในบ้านและของเล่นเด็กก็ต้องดูแลเพื่อความปลอดภัยเช่นเดียวกัน
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- อย่าให้ “สนามเด็กเล่น” ทำร้ายลูก
- ของเล่นอัตโนมัติทำลายสมองลูกจริงหรือ!?
- ศาลเยาวชน ลงโทษผู้ปกครอง เด็กตีกัน เป็นคดีแรก กระตุ้นให้พ่อแม่เอาใจใส่ในการเลี้ยงดูลูก
ขอบคุณภาพและข่าวจาก : www.manager.co.th
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.familyweekend.co.th , www.ducatoys.com