ลูกเป็น ปากนกกระจอก แค่ทาน้ำตาลปี๊บก็หายจริงหรือ - Amarin Baby & Kids
ปากนกกระจอก

ลูกเป็น ปากนกกระจอก แค่ทาน้ำตาลปี๊บก็หายจริงหรือ

Alternative Textaccount_circle
event
ปากนกกระจอก
ปากนกกระจอก

สังเกตลูกให้ดี ลูกมีเม็ด ตุ่ม หรือสะเก็ดขึ้นบริเวณขอบปากไหม? ถ้าใช่! ลูกอาจเป็นโรค ปากนกกระจอก ได้!

 

 

“คุณแม่ครับ…คุณแม่ครับ ปากผมเป็นอะไรก็ไม่รู้ อ้าปากกว้าง ๆ ไม่ได้ แถมมีเลือดออกด้วยครับ เจ็บมาก” พอสิ้นคำพูดลูกเท่านั้นแหละ คนเป็นแม่หรือจะอดใจไม่ดูไม่ได้ … รีบลุกขึ้นดูทันที อุ้ย!! ตายแล้ว ไม่ธรรมดาจริง ๆ ด้วย แผลแบบนี้ อาการแบบนี้ นี่มันโรคที่ฉันเองก็เคยเป็นตอนเป็นเด็กนี่นาและนั่นก็คือโรค “ปากนกกระจอก” นั่นเอง

ว่าแล้วก็นึกได้ว่ามีคำโบราณเคยบอกว่า ให้รักษาด้วยการขโมยน้ำตาลปี๊บในตู้เย็นมาแอบทาปาก แต่ครั้นจะไปหยิบมาให้ลูกทาเลยก็กลัวว่าคำโบราณจะไม่ขลัง เดี๋ยวไม่หาย … ทำไงดีละทีนี้ … เอาเป็นว่าขอหาข้อมูลก่อนแล้วกันว่า โรคนี้เกิดจากอะไร อาการเป็นแบบไหน แล้วจะมีวิธีการรักษาแบบอื่นหรือไม่ โดยสรุปแล้วมีรายละเอียดดังนี้

ปากนกกระจอก เกิดจากอะไร?

ปากนกกระจอกนั้นเขามีชื่อเรียกภาษาอังกฤษกันว่า Angular Cheilitis เป็นภาวะอักเสบที่เกิดขึ้นบริเวณมุมปาก อาการเบื้องต้นที่เห็นก็คือ ปากแห้ง ปากแตก ปากเป็นแผล มีรอยแดง บวม หรือตึงบริเวณมุมข้างในข้างหนึ่งหรืออาจจะทั้งสองข้างเลยก็ได้ค่ะ ซึ่งอาการดังกล่าวนั้นจะเป็นอยู่ประมาณ 3 – 5 วันแล้วแต่ บางคนเป็นนาน 7 วันเลยก็มี

สาเหตุของการเกิด

คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะอยากรู้กันแล้วใช่ไหมละคะว่า ปากนกกระจอก นั้นเกิดจากอะไร แน่นอนค่ะว่า เกิดจากการที่ร่างกายของลูกนั้นขาดวิตามินบี แต่นอกจากการขาดวิตามินแล้ว ยังเกิดจากสาเหตุอื่นได้อีกด้วยนะคะ ดังนี้

  • โรคผิวหนัง ยกตัวอย่างเช่น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก โรคผิวหนังอักเสบเซบเดิร์ม ซึ่งเป็นสาเหตุของโรค ปากนกกระจอก ที่พบได่บ่อยที่สุด
  • การขาดสารอาหาร อันเกิดจากการที่ร่างกายขาดวิตามินบี 2 หรือไรโบฟลาวิน การขาดธาตุเหล็ก วิตามินซี และโปรตีน เป็นต้น
  • การติดเชื้อโรคบางชนิด เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัส เช่นเชื้อเริมที่ริมฝีปาก เป็นต้น
  • ภาวะน้ำลายออกมากกว่าปกติ ยกตัวอย่างเช่น การนอนหลับน้ำลายไหลเป็นประจำ หรือเด็กบางคนที่เวลาพูดแล้วชอบมีน้ำลายเอ่อ หรือน้ำลายไหลตลอด ซึ่งอาการดังกล่าวส่งผลทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังบริเวณมุมปากจนเกิดเป็นแผลได้ง่ายกว่าปกติ เป็นต้น
  • การแพ้หรือระคายเคือง เช่น แพ้อาหาร หรือแพ้ยาสีฟัน
  • ริมฝีปากแห้งมากเกินไป ทั้งนี้มาจากการที่ชอบเลียปากหรือเกิดจากการที่อาการหนาวเย็น ซึ่งภาวะนี้จะพบได้บ่อยในช่วงฤดูหนาว
  • สาเหตุอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง ความเครียด หรือแม้แต่การถ่ายทอดทางพันธุกรรม เป็นต้น

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up