หา!! อะไรนะ?! กลิ่นตัวทารก บอกสุขภาพลูกได้ด้วยอย่างนั้นหรือ!! อยากรู้ที่นี่มีคำตอบ
คุณพ่อคุณแม่เคยได้กลิ่นตัวของคนอื่นไหมคะ? กลิ่นนั้นมันช่างเหม็นเอาเสียจริง ๆ เลยใช่ไหมละคะ และร้อยทั้งร้อยคนส่วนใหญ่ก็มักที่จะคิดว่าคนที่มีกลิ่นตัวจะต้องเป็นคนอ้วน คนงาน หรือแม้แต่คนที่ออกกำลังกาย แต่ทราบกันหรือไม่คะว่า แม้แต่เด็กน้อยตัวเล็ก ๆ ก็มี “กลิ่นตัว” เช่นเดียวกัน และเผลอ ๆ กลิ่นตัวทารก นั้นอาจจะแรงกับผู้ใหญ่เสียด้วย
ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ กลิ่นตัวของทารก ยังสามารถบอกโรคของลูกได้อีกด้วยละค่ะ … ว่าแต่ทารกจะมีทั้งหมดกี่กลิ่น และกลิ่นแบบไหนที่เป็นตัวบ่งชี้ว่าลูกน้อยของคุณแม่ไม่สบาย วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids ได้เตรียมคำตอบไว้ให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านได้ทราบกันแล้วละค่ะ
กลิ่นตัวทารก มีทั้งหมดกี่กลิ่น?
ปกติคุณพ่อคุณแม่ก็มักที่จะได้แต่กลิ่นตัวหอม ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทารกกันแค่เพียงกลิ่นเดียวใช่ไหมละคะ … แต่แท้จริงแล้วเราสามารถแบ่งกลิ่นตัวของทารกออกได้เป็น 2 กลิ่นด้วยกันดังนี้ค่ะกลิ่นนม โดยกลิ่นนมที่ว่านี้อาจจะเป็นกลิ่นนมของคุณแม่ หรือเป็นนมที่ลูกดื่มทุกวัน ซึ่งมี
- กลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ยากจะลอกเลียนแบบ
- กลิ่นเปรี้ยว กลิ่นเปรี้ยวที่ว่านี้มาจากการหมักหมม หรือจุดอับต่าง ๆ ในร่างกายของลูกนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น กลิ่นรักแร้ กลิ่นซอกคอ กลิ่นข้อพับ เป็นต้น
กลิ่นตัวทารก เกิดจากอะไรได้บ้าง?
- ฝุ่น
- การที่ร่างกายลูกได้รับมลพิษหรือความร้อน
- กลิ่นเสื้อผ้า
- กลิ่นอาหารที่ลูกรับประทานเข้าไป
- กลิ่นเหงื่อ
- กลิ่นปัสสาวะ
แล้วกลิ่นตัวแบบไหนกันละ ที่บ่งบอกว่าลูกน้อยไม่สบาย … หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกน้อยของคุณแม่มีกลิ่นตัวที่ผิดแปลกไปจากที่กล่าวมาในข้างต้น ให้คุณพ่อคุณแม่ลองสังเกตดูว่า ลูกน้อยมีกลิ่นตัวดังที่จะกล่าวต่อไปนี้หรือไม่
- มีกลิ่นคาวเหมือนปลา หรือที่ศัพท์ทางการแพทย์เรียกกันว่า Trimethylaminuria
- เป็นกลิ่นที่ผิดปกติอันเกิดจากพันธุกรรมที่ถ่ายทอดผ่านยีนส์ด้อย นั่นหมายถึง หากคุณพ่อคุณแม่เป็น โอกาสที่ลูกจะเป็นก็อยู่ที่ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกลิ่นที่ส่งออกมานั้น มีกลิ่นแรงและติดทนนาน หากคุณพ่อคุณแม่นึกถึงกลิ่นไม่ออกให้นึกถึงกลิ่นปลา หรือกลิ่นอุจจาระหรือไม่ก็ขยะดูค่ะ กลิ่นจะส่งผลรุนแรงขึ้นหลังจากที่ลูกหย่านมแล้ว และเป็นกลิ่นที่ไม่ได้พบเห็นกันบ่อย ๆ ค่ะ จัดได้ว่าเป็นโรคที่หายากโรคหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ หากคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่า มีวิธีการรักษาหรือไม่นั้น คำตอบคือ โรคนี้ยังไม่มีการรักษาแต่อย่างใด หากแต่มีเพียงวิธีการดูแลนั่นคือ การอาบน้ำบ่อย ๆ นั่นเองค่ะ
- กลิ่นเมเปิลไซรับ
- คุณพ่อคุณแม่อาจจะงงว่า อะไรคือกลิ่นเมเปิลไซรับ โรคนี้ทางการแพทย์เรียกว่า โรคปัสสาวะกลิ่นเมเปิลไซรับหรือโรคฉี่หอมนั่นเองค่ะ โรคนี้เริ่มแสดงอาการตั้งแต่อยู่ในวัยทารก โดยเมื่อทารกแรกเกิดได้รับสารอาหารประเภทโปรตีน เช่น น้ำนมจากแม่ โปรตีนส่วนที่เกินความจำเป็นที่ร่างกายจะนำไปใช้จะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อทารก ทำให้มีอาการเบื่ออาหาร ดูดน้ำนมได้น้อย น้ำหนักตัวลดลง ร้องไห้เสียงแหลมสูงเป็นช่วงสั้น และปัสสาวะมีกลิ่นคล้ายเมเปิลไซรับ จากนั้นจะเกิดความผิดปกติที่เรียกว่า Metabolic Crisis โดยทารกจะแสดงอาการง่วงนอน เกียจคร้าน มีอารมณ์แปรปรวน ร่วมกับการอาเจียน หากไม่ได้รับการรักษาอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาอีก เช่น ชัก เกิดภาวะสมองบวม หรือมีภาวะความเป็นกรดในเลือดสูง ซึ่งบางรายอาจมีอาการตาบอด สมองถูกทำลาย และอาการอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
- กลิ่นอับ
- เป็นโรคที่เรียกกันว่า Phenylketonuria ถือเป็นอีกโรคหายากโรคหนึ่งที่เกิดจากพันธุกรรม ที่เกี่ยวข้องมาจากความบกพร่องทางเมแทบอลิซึม สามารถถ่ายทอดได้ผ่านทางโครโมโซมทั่วไป ควบคุมด้วยยีนที่มีลักษณะด้อย ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้สมองอาจได้รับการทำลายจนส่งผลทำให้มีภาวะปัญญาอ่อน
และถึงแม้ว่ากลิ่นผิดปกติที่กล่าวไปแล้วนั้นจะเป็นโรคที่หาได้ยาก แต่การรู้ไว้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายใช่ไหมละคะ หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกมีกลิ่นที่ผิดปกติตามที่กล่าวไปแล้วละก็ แนะนำให้พาลูกน้อยไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาตัวทันที
อ้างอิง: Momjunction
อ่านต่อบทความอื่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่