AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ไส้กรอกอันเดียว เกือบทำให้ลูกน้อยเสียชีวิต

อุทาหรณ์เกือบเสียลูก 1 ขวบเพราะไส้กรอกอันเดียว

เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของคุณแม่ท่านหนึ่ง ที่เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ ไส้กรอกอันเดียว เกือบทำให้ลูกน้อยเสียชีวิต เรื่องเริ่มขึ้นในเช้าวันหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาของการรับประทานอาหารเช้า กับลูกสาววัย 1 ขวบ คุณแม่อุ้มลูกนั่งไว้บนตัก และยื่นไส้กรอกธรรมดาๆ อันเล็กๆ ให้ลูกน้อย 1 อัน

อ่านต่อ “ไส้กรอกอันเดียว เกือบทำให้ลูกน้อยเสียชีวิต” คลิกหน้า 2

โดยปกติเด็กน้อยก็รับประทานไส้กรอกอยู่แล้ว คุณแม่จึงไม่ได้กังวลอะไร ก็นั่งรับประทานอาหารไปอย่างปกติ แต่เมื่อผ่านไปได้ประมาณ 1 นาที ก็รู้สึกว่าลูกงอตัวลงมา คล้ายๆ กับว่ากำลังหลับ คุณแม่ก็ยังไม่ได้เอะใจ ถามคุณพ่อว่าช่วยดูลูกหน่อย ลูกหลับรึเปล่า เมื่อพลิกตัวลูกมา ปรากฏว่าลูกกำมือแน่น เกร็ง ตัวสั่น เหมือนกับหายใจไม่ออก คุณแม่เริ่มใจเสีย และคิดว่าต้องมีอะไรติดคอแน่ๆ เพราะอาการลูกน่ากลัวมาก

เศษอาหารติดหลอดลม ทํายังไง

คุณแม่รีบจับลูกให้ศีรษะต่ำกว่าตัว แล้วตบที่หลังลูก คุณพ่อก็เอาลูกไปทุบหลัง แต่ก็ไม่ออก พยายามดูในปากก็มองไม่เห็น เพราะลูกน้อยเกร็งมาก เปิดปากแทบไม่ได้ สติของคุณแม่แทบไม่อยู่กับตัว คุณแม่รับลูกมาทำ Back Blow ต่อ ตบหลังลูก แล้วบอกให้คุณพ่อไปเตรียมรถ คุณแม่วิ่งขึ้นรถ ไม่ใส่รองเท้า เพราะลืมทุกสิ่ง กลัวลูกน้อยจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้

ระหว่างนั่งในรถ คุณแม่ก็พยายามตบหลังลูกต่อไปตลอดทาง พยายามใช้นิ้วแยงเข้าไปในปาก แต่ลูกน้อยเกร็ง กัดนิ้ว แต่คุณแม่รู้สึกได้ว่ามีอะไรค้างอยู่ที่คอ คุณแม่ยังตบต่อไป

ส่วนคุณพ่อก็ขับรถเร็วมาก ฝ่าทุกไฟแดง อย่างบ้าคลั่ง เพราะกลัวลูกจะเป็นอะไรไป ซึ่งโดยปกติจากบ้านไปโรงพยาบาลประมาณ 10 นาที คราวนี้คุณพ่อขับประมาณ 4 นาที

ก่อนถึงโรงพยาบาล 500 เมตร ก็เริ่มมีการตอบสนองของลูก เด็กน้อยเฮือกขึ้นมา คุณแม่รู้สึกว่าลูกหายใจได้แล้ว แต่ก็ยังตบหลังต่อไป

อ่านต่อ ไส้กรอกอันเดียว เกือบทำให้ลูกน้อยเสียชีวิต คลิกหน้า 3

เมื่อถึงโรงพยาบาล ก็วิ่งไปที่แผนกฉุกเฉิน ทีมแพทย์รีบเข้ามาดูอาการทันที ถามว่าน้องเป็นอะไร อย่างไร คุณแม่ก็ตอบไปว่าน่าจะไส้กรอกติดคอ พยาบาลและคุณหมอก็รับตัวลูกไป

เด็กน้อยกรีดร้อง ด้วยความตกใจ เพราะโดนพยาบาล 5 – 6 คนรุมล้อม คุณแม่ดีใจที่ได้ยินเสียงร้องของลูก เพราะนั่นแสดงว่าลูกน้อยยังหายใจ

คุณหมอ ฟังปอด วัดออกซิเจน เช็คสัญญาณชีพต่างๆ ก็เป็นปกติดี คุณแม่ก็โล่งใจ แต่คุณหมอก็ขอให้ x-ray ปอด เพื่อความแน่ใจ ก็พบว่าปกติ ต้องรอดูอาการอีก 2 -3 วัน ถ้ามีไข้ หรือไอมาก ต้องมาพบคุณหมออีกครั้ง

คุณแม่ฝากเรื่องนี้เอาไว้เป็นอุทาหรณ์ และแนะนำให้ฝึกฝนเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อลูกสำลักอาหาร หรืออาหารติดคอเอาไว้ เพราะจริงๆ แล้ว คุณแม่ได้ไปเรียนเรื่องการปฐมพยาบาลเอาไว้อย่างดี แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์จริงๆ กลับตกใจ ทำอะไรไม่ถูก กลัวไปต่างๆ นาๆ

การปฐมพยาบาลเมื่อสิ่งแปลกปลอมติดคอ

การปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง ต้องตบหลัง (chocking) แล้ว กดที่หน้าอก (chest thrust) แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ กลับตบหลังเพียงอย่างเดียว

สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อเหตุการณ์แบบนี้ คือการตั้งสติ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจริง หัวอกพ่อแม่คงจะสลาย

อ่านต่อ การปฐมพยาบาลเมื่อสิ่งแปลกปลอมติดคอเด็ก คลิกหน้า 4

ชมคลิป การปฐมพยาบาลเมื่อสิ่งแปลกปลอมติดคอเด็กทารก อายุต่ำกว่า 1 ขวบ (กรณียังมีสติ) ตอนที่ 1

ชมคลิป การปฐมพยาบาลเมื่อสิ่งแปลกปลอมติดคอเด็กทารก อายุต่ำกว่า 1 ขวบ (กรณีหมดสติ) ตอนที่ 2

การปฐมพยาบาลเมื่อสิ่งแปลกปลอมติดคอเด็กอายุมากกว่า 1 ขวบ (กรณียังมีสติ) ตอนที่ 1

อ่านเพิ่มเติม คลิก!! ช่วยลูกอาหารติดคอ สำลัก เมื่อไม่หมดสติ (สำหรับเด็กอายุมากกว่า 1 ขวบ)

เครดิต: จิ๊กโก๋ทะเลทราย