มีคลิปวิดีโอหนึ่งที่ถูกแชร์กันในโลกโซเชี่ยล เป็นคลิปวิดีโอรายการในต่างประเทศ ในรายการมีผู้ใหญ่ 4 คน เด็ก 1 คน และสิงโตอีก 1 ตัว ในขณะที่พิธีกรสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่ที่ดูแลสัตว์อยู่นั้น สิงโตก็นั่งจ้องมองหนูน้อยที่นั่งอยู่บนตักของแม่ แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น สิงโตเกือบกัดเด็ก
อ่านต่อ “ทำไมสัตว์ชอบกัดเด็ก” คลิกหน้า 2
ทำไมสัตว์ชอบกัดเด็ก
1.เด็กตัวเล็กเหมือนเหยื่อที่อ่อนแอ โดยเฉพาะเด็กที่ตัวเล็กกว่าระดับสายตาของสัตว์ที่มีสัญชาตญาณการไล่ล่าสูง จะจู่โจมเข้าหาทันที เพราะคิดว่าเป็นเหยื่อ เช่น สุนัขตัวใหญ่ เสือ สิงโต
2.เด็กวิ่งวุ่นวาย กระตุ้นสัญชาตญาณนักล่า การที่เด็กวิ่งไปมา อาจจะทำให้สัตว์แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น ร้องขู่ หรือกัดได้
4.เด็กเสียงแหลมเล็ก โวยวาย กระตุ้นให้สัตว์ตื่นตัว และอาจโต้ตอบด้วยการขู่ หรือกระโจนใส่ต้นตอของเสียง
5.เด็กชอบแกล้งสัตว์ กระตุ้นให้สัตว์ก้าวร้าวโดยไม่รู้ตัว เช่น แย่งอาหารขณะที่สัตว์กำลังกิน ดึงหางเล่น
6.เด็กไม่เข้าใจอารมณ์ และพฤติกรรมของสัตว์ เช่น เห็นสัตว์แยกเขี้ยว คิดว่ายิ้มให้ พยายามจะเข้าไปจับ ทำให้โดนสัตว์ทำร้าย
อ่านต่อ “การฝึกให้เด็กและสัตว์เลี้ยงอยู่ร่วมกันอย่างสงบ” คลิกหน้า 3
การฝึกให้เด็กและสัตว์เลี้ยงอยู่ร่วมกันอย่างสงบ
2.ห้ามให้ลูกหันหลังวิ่งหนี เพราะนั่นจะทำให้ลูกกลายเป็นเหยื่อ และสัตว์จะเข้าสู่โหมดไล่ล่าทันที
3.เมื่อสัตว์จะเข้าใกล้เด็ก ให้คุณพ่อ คุณแม่ก้าวเข้ามาอยู่ด้านหน้าของเด็ก อยู่ระหว่างกลางเด็กกับสัตว์ ต้อนไม่ให้สัตว์เข้าใกล้เด็กประมาณ 1 เมตร สัตว์อาจจะพยายามวน ดักหน้าดักหลัง เพื่อหาช่องทาง คุณพ่อ คุณแม่ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ ดักเอาไว้ และให้ลูกน้อยยืนนิ่งๆ ไม่ต้องพูดอะไร จนกว่าสัตว์จะเลิกพยายาม และนั่ง หรือหมอบเฉยๆ หรือเดินจากไป นั่นแสดงว่ามันยอมแพ้ ยอมให้เด็กอยู่เหนือกว่า
5.ถ้ามั่นใจในความปลอดภัย ให้ลูกลองยื่นขนมให้สัตว์กินเอง โดยยืนดูอยู่ข้างๆ เพื่อให้สัตว์ไว้ใจในตัวเด็ก
เคล็ดลับ!!
- ก่อนฝึกควรให้สัตว์ระบายพลังงานออกให้หมด เพื่อให้สัตว์สงบ ควบคุมได้ง่าย
- ใส่สายจูงเอาไว้ เพื่อการควบคุมเฉพาะหน้า จะได้จับสะดวก หรือกระตุกสายจูงเตือน
- สอนลูกน้อยในช่วงที่ลูกอารมณ์สงบ อารมณ์ดี ไม่งอแง ไม่ก้าวร้าว หรือคึกเกินไป
อ่านต่อ “ถ้าลูกถูกกัดจะทำอย่างไรดี?” คลิกหน้า 4
ถ้าลูกถูกกัดจะทำอย่างไรดี?
ในประเทศไทยสุนัขมักกัดเด็กตั้งแต่ 2-15 ปีในช่วงฤดูร้อน และกัดเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง เพราะชอบเล่นนอกบ้าน อาจถูกสุนัขจรจัดกัด แผลเมื่อถูกกัดมี 3 แบบคือ แผลถลอก แผลรอยลึก และแผลฉีกขาด
1.ล้างทำความสะอาดแผลเบาๆ ด้วยน้ำเกลือ และสบู่ทันที เช็ดแผลด้วยแอลกอฮอล์ 70% และน้ำยาโพวิดีน
2.ถ้าแผลยังมีเลือดออก ให้ใช้ผ้าสะอาดกดแผล และพันแผลเอาไว้ช่วยหยุดเลือด
3.รีบพาไปพบแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และพยาบาล
การป้องกันไม่ให้ลูกถูกกัด
1.คุณพ่อ คุณแม่ระมัดระวัง ไม่ให้สุนัข หรือสัตว์อื่นๆ กัดจนลูกน้อยได้รับอันตรายถึงชีวิตได้
2.ดูแลลูกน้อยให้อยู่ในสายตา ไม่คลุกคลีกับสัตว์แม่ลูกอ่อน หรือใกล้ชิดกับสัตว์มากเกินไป
3.สอนลูกน้อยให้รู้จักระวังสุนัข หรือสัตว์ที่อาจจะกัดได้