7 วันอันตรายปีใหม่ ปี 2563 นี้ มาช่วยกันดูแลชีวิตลูกน้อยให้ปลอดภัยกับ 4 เรื่องที่พ่อแม่ไม่ควรละเลย จะมีเรื่องใดบ้างที่เสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิตของลูกน้อยในช่วง 7 วันอันตรายนี้ไปดูกัน
4 เรื่องพ่อแม่ต้องระวัง 7 วันอันตรายปีใหม่
ลูกต้องปลอดภัย!!
รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวว่า ช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ ปี 2562 ที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. – 3 ม.ค.) ภัยทางถนน ทำให้เด็กอายุ 1 – 17 ปี ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงมากที่สุด รองมาคือเรื่องความรุนแรง และการจมน้ำ
สำหรับภัยทางถนน นอกจากอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ หรือขับรถเร็วเกินกำหนดแล้ว ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดก็คือ รถจักรยานยนตร์ และรองลงมาคือ รถกระบะ ซึ่งปัญหาจากรถจักรยานยนตร์ ที่เกิดขึ้นได้กับเด็ก (อายุไม่ถึง 18 ปี) ที่พบได้ในช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ ล้วนแล้วแต่เป็นความรับผิดชอบที่ครอบครัว ชุมชนและหน่วยงานความปลอดภัย มักร่วมกันละเลย ได้แก่
-
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ขับขี่ก่อนวัย
>> ปัญหาการขับขี่ก่อนวัย คือขับขี่ก่อนอายุ 15 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่ทุกหน่วยงานต่างก็ยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมได้ เพราะพ่อแม่และครอบครัวมีความจำเป็นให้เด็กต้องใช้ (โดยเฉพาะเด็กที่อยู่กับปู่ย่าตายายที่ต่างจังหวัด เนื่องจากต้องหัดขี่ให้เป็นตั้งแต่เด็กเพื่อที่จะได้ช่วยไปซื้อของหรือทำธุระให้)
-
ขับรถจักรยานยนตร์เร็ว / ไม่สวมหมวกนิรภัย
>> ในเรื่องของการขับขี่เร็วมาจากการได้ขับขี่ก่อนวัยและไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากินจนเมาทำให้เกิดความคึกคะนอง ซึ่งก็ไม่ได้ใส่หมวกนิรภัย หรือการเดินทางในระยะใกล้ในชุมชนซึ่งพ่อแม่มักเอาลูกน้อยนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปด้วยโดยไม่ได้ใส่หมวกนิรภัยให้
โดยเส้นทางสายรองในชุมชนมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุด รวมไปถึงมักเกิดเหตุบริเวณที่มีงานรื่นเริงและมีการเมาแล้วขับ ซึ่งแม้ว่าในปี 62 สถิติเมาแล้วขับจะลดลง แต่ปัจจุบันกลับพบกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีที่มีการเตรวจพบแอลกอฮอล์มากขึ้น
อ่านต่อ >> “ภัยอันตรายที่มักเกิดขึ้นกับลูกน้อยช่วงปีใหม่
(พ่อแม่มักละเลย)” >> คลิกหน้า
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ในส่วนของอุบัติเหตุจากรถปิกอัพหรือรถยนต์
-
พบเด็กนั่งในส่วนกระบะขนของบนรถปิกอัพ
>> การนั่งในส่วนกระบะขนของบนรถปิกอัพถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ทุกหน่วยงานก็ยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมได้ เพราะครอบครัวที่ไม่ค่อยมีฐานะและมีลูกน้อยก็จำเป็นต้องใช้
-
เด็กนั่งรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะ ไม่ได้ใช้เข็มขัดนิรภัย ถึงใช้ก็อาจผิดวิธี ไม่สามารถลดการบาดเจ็บได้
> สำหรับเรื่องละเลยข้อสุดท้ายคือภัยทางถนน ที่ทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งมักเกิดในช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ คือ การใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือรถสาธารณะ ที่ทั้งกฎหมายและการสนับสนุนอื่นๆ รองรับสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่สำหรับเด็ก การใช้เข็มขัดและระบบยึดเหนี่ยวในรถยนต์ยังไม่มีใครสนับสนุน
นอกจากนี้ปัญหา 7 วันอันตรายปีใหม่ ที่รองลงมา คือ เรื่องความรุนแรง และการจมน้ำ โดยปัญหาความรุนแรงของเด็ก มาจากครอบครัวที่อ่อนแอ และถูกกระตุ้นจากสื้อที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระบบเครือข่ายออนไลน์ และการใช้สารเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาการตายใหม่ที่สังคมไทยต้องตระหนัก
ในส่วนของปัญหาการจมน้ำ มักเกิดขึ้นที่สวนน้ำ แหล่งน้ำชุมชน โดยขาดการจัดพื้นที่เล่นที่มีความปลอดภัย ซึ่งแม้ว่าจะมีกฎหมายควบคุมการจัดพื้นที่สวนน้ำและเครื่องเล่นแล้ว แต่ก็ยังขาดการดำเนินการอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับการที่เด็กต้องเดินทางทางน้ำก็ขาดอุปกรณ์ชูชีพที่เหมาะสมอีกด้วย
7 วันอันตราย ปีใหม่ 2563 เริ่มวันไหน
สำหรับช่วง 7 วันอันตราย ปี 2563 นี้ อยู่ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 62 ถึงวันที่ 2 ม.ค 63 โดยรศ.นพ.อดิศักดิ์ ได้ขอความร่วมมือให้คุณพ่อคุณแม่และชุมชน รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความปลอดภัยของเด็ก ให้ตระหนักและจริงจังกันมากขึ้นเพื่อลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับลูกน้อย
แต่อย่างไรก็ดีทางสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล ได้จัดกิจกรรม The Safety Hunter ภารกิจพิชิตจุดเสี่ยงฝึก “10 ทักษะความปลอดภัยก่อน 10 ปีต้องมี 10 อย่าง” สำหรับเด็กวัย 6-10 ปี เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีทักษะในการอยู่รอดปลอดภัยด้วยตนเอง โดย 10 ทักษะ อาทิ ทักษะความปลอดภัยในการเดินทาง และเดินเท้า ทักษะการช่วยเหลือคนตกน้ำด้วยวิธีการ “ตะโกนโยนยื่น” วิธีการสวมเสื้อชูชีพที่ถูกต้อง ทักษะความปลอดภัยภายในบ้านและการอยู่บ้านคนเดียว ทักษะความปลอดภัยสนามเด็กเล่น ทักษะการปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้น รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ด้านการใช้สื่อที่ปลอดภัย เป็นต้น
โดยโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการนี้มีทั้งในวันทำการ และวันเสาร์-อาทิตย์ วันละ 2 รอบ รอบละ 3 ชั่วโมง รอบเช้า 09.00-12.00 น. รอบบ่าย 13.00-16.00 น. ฝึกเป็นหมู่คณะ รอบละอย่างน้อย 36 คน ไม่เกิน 45 คน จัดกิจกรรม ณ ชั้น 5 อาคารปัญญาวัฒนา สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
ค่าลงทะเบียน 350 บาท/คน/รอบ (รวมอาหารว่าง 1 มื้อ) โดยวันธรรมดา จะมีผู้สนับสนุนเหมารอบให้สถาบันฯ ไปรับนักเรียนจากโรงเรียนมาทำกิจกรรม ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ จะเป็นรอบของผู้ปกครอง
หากหน่วยงานโรงเรียนครู อาจารย์ หรือพ่อแม่ผู้ปกครองและผู้สนใจ อยากส่งลูกหลาน เข้ามาเรียนรู้ทักษะการเอาตัวรอดเพื่อความปลอดภัยของเด็กในระดับอนุบาล 3-ประถมศึกษาปีที่ 3 สามารถติดต่อจองได้ที่ โทร. 0-2441-0601-10 ต่อ คุณศุภรดา 1417, 1422 เบอร์มือถือ 092-4145296 (วันและเวลาราชการ) FB: สถาบันเด็กมหิดล บริการวิชาการสู่สังคม หรือ FB: NICFD Mahidol
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก :
- 7 วันอันตรายช่วงปีใหม่ที่ทุกครอบครัวต้องระวัง
- ระวัง! 5 ของเล่นเด็กอันตราย เด็กทุกวัยควรหลีกเลี่ยง
- 15 สาเหตุการเสียชีวิตในเด็กอายุ 0-14 ปีทั่วโลก
- 4 อุบัติเหตุไม่คาดฝันในบ้าน พ่อแม่ห้ามประมาท
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่