วัคซีนรวม 6 โรค เป็นหนึ่งทางเลือกให้กับทุกครอบครัวที่มีลูก ซึ่งเด็กๆ ทุกคนจำเป็นจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อเป็นเกราะป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ตั้งแต่แรกเกิด สำหรับวัคซีนรวมที่มีการรวม 6 โรคไว้ในเข็มเดียว จะมีรายละเอียดในการพาลูกๆ ไปรับการฉีดกันอย่างไรนั้น ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูลมาบอกให้ทราบกันค่ะ
วัคซีนรวม 6 โรค มีอะไรบ้าง?
คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กและอยากรู้ว่า วัคซีนรวม 6 โรค มีความจำเป็นหรือมีประโยชน์กับลูกอย่างไรนั้น ครั้งนี้ผู้เขียนเตรียม ข้อมูลมาอย่างละเอียดเลยค่ะ เพราะอยากให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเด็กๆ เองด้วย ที่จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวบ่อยๆ จากการ ต้องฉีดวัคซีน สำหรับวัคซีนรวมทั้ง 6 โรคที่อยู่ในเข็มเดียวนี้จะประกอบไปด้วยวัคซีนป้องกันโรคดังนี้…
- โรคคอตีบ (Diphtheria)
- โรคไอกรน (Pertussia)
- โรคบาดทะยัก (Tetanus)
- โรคตับอักเสบบี (Hepatitis B)
- โรคโปลิโอ (Polio)
- โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ (Hib)
บทความแนะนำ คลิก>> อาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน
จาก 6 โรคนี้เด็กๆ จะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนมากถึง 6 ครั้ง และยังไม่รวมวัคซีนป้องกันโรคอื่นๆ อีกที่ต้องฉีดกันไป จนอายุ 15 ปีโดยประมาณ การรวมวัคซีนไว้ในเข็มเดียวจะช่วยให้ลูกๆ เจ็บตัวน้อยลง แถมยังเป็นการสะดวกกับพ่อแม่ด้วยที่ไม่ต้องเดินทางพาลูกไปรับฉีดวัคซีนบ่อยๆ การฉีดวัคซีนรวม 6 โรคในหนึ่งเข็มจะฉีดให้กับเด็กที่มีอายุ 2-6 เดือน ที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันทั้ง 6 โรคนี้ตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขค่ะ
อ่านต่อ 1 เข็มวัคซีนรวมกับ 6 โรคทารก หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
มาทำความรู้จัก 6 โรคที่ลูกต้องได้รับวัคซีนป้องกัน!!
อย่างที่ทราบกันดีว่าลูกตั้งแต่แรกเกิด หากได้ทานนมแม่ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะในน้ำนมแม่จะมี คอลอสตรัม (Colostrum) ที่เป็นสารภูมิคุ้มกันโรคในปริมาณสูง สามารถต้านเชื้อโรคต่างๆ ทำให้ลดการเจ็บป่วยของลูกได้ตั้งแต่แรกคลอด น้ำนมแม่จึงเป็นเหมือนวัคซีนตามธรรมชาติที่ถูกสร้างมาในน้ำนมแม่
ถึงแม้ในน้ำนมแม่จะมีสารภูมิคุ้มกันโรคอยู่ด้วย แต่ก็ยังจำเป็นที่จะต้องให้ลูกได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคนะคะ เพื่อจะได้ช่วยส่งเสริมลดอันตรายจากการเจ็บป่วยของเด็กๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไปดูกันค่ะว่าโรคทั้งหมดนี้มีความอันตรายต่อสุขภาพของลูกมากแค่ไหน…
1. โรคคอตีบ
เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียแบบเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งสามารถติดต่อได้ง่ายโดยการสัมผัสกับน้ำลาย เช่น การไอ จาม หรือพูดคุยในระยะประชิด หรือบางครั้งการใช้ภาชนะร่วมกัน เช่น ช้อนหรือแก้วน้ำ หรือการเล่น ร่วมกัน ในเด็กเล็กจะทำให้เชื้อเข้าสู่ผู้รับได้ทางปากหรือทางการหายใจ ผู้ติดเชื้ออาจไม่มีอาการ หรือมีอาการรุนแรงซึ่ง อาจทำให้พิการหรือถึงแก่ชีวิตได้[1]
2. โรคไอกรน
เป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ ทำให้มีการอักเสบของเยื่อบุทางเดินหายใจและเกิดอาการไอ ที่มีลักษณะ พิเศษคือ ไอซ้อนๆ ติดๆ กัน 5-10 ครั้งหรือมากกว่านั้นจนเด็กหายใจไม่ทัน จึงหยุดไอ และมีอาการหายใจเข้าลึกๆ เป็นเสียงวู๊ป (Whooping cough) สลับกันไปกับการไอเป็นชุดๆ จึงมีชื่อเรียกว่า “โรคไอกรน” บางครั้งอาการอาจจะเรื้อรัง นานเป็นเวลา 2-3 เดือน[2]
บทความแนะนำ คลิก>> วัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 15 ปี ที่พ่อแม่ต้องรู้
3. โรคบาดทะยัก
เชื้อบาดทะยักเป็นเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในดิน เศษไม้ ตะปู เศษเหล็กที่มีสกปรกมีสนิม ฯลฯ โดยเชื้อบาดทะยักจะเข้า สู่ร่างกายก็จากการเกิดบาดแผลที่มาจากการถูกบาดด้วยของมีคมที่เป็นสนิม สกปรกต่างๆ เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกาย จะมี อาการหดตัวและแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อ หรือมีการติดเชื้ออักเสบของหูชั้นกลาง พิษของเชื้อจะเข้าสู่เส้นประสาท บริเวณใบหน้า และอาจลุกลามเข้าสู่สมองซึ่งมีโอกาสเสียชีวิตมาก
4. โรคตับอักเสบบี
สามารถติดต่อจากแม่ไปสู่ลูกได้ ไวรัสตับอักเสบบีทำให้เกิดการอักเสบของเซลล์ตับและทำให้เซลล์ตับถูกทำลาย หากเป็นเรื้อรังจะเกิดพังผืด ตับแข็ง และมะเร็งตับได้
5. โรคโปลิโอ
เกิดจากติดเชื้อไวรัส Poliovirus อาการแสดงของโรคนี้คือกล้ามเนื้ออ่อนแรง กล้ามเนื้อฝ่อลีบ และเกิดความพิการตรงข้อ ความน่ากลัวของโรคนี้คือไม่มียารักษา จึงจำเป็นต้องได้รับวัคซีนป้องกันโปลิโอเพื่อป้องกันการเกิดโรคในช่วงแรกเกิด
6. โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ
เป็นอีกหนึ่งโรคที่มีความรุนแรงถึงขั้นทำให้เด็กมีความพิการหรือเสียชีวิตได้ โรคฮิบเกิดจากการติดเชื้อฮีโมฟิลุสอินฟลูเอนเซชนิดบี ซึ่งจะพบบ่อยมากในเด็กอายุ 2 เดือนถึง 5 ปี ทำให้เกิดโรคที่สำคัญหลายอย่าง เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคปอดอักเสบ โรคติดเชื้อในกระแสเลือด โรคไซนัสและโรคหูชั้นกลางอักเสบ[3]
เห็นถึงความอันตรายต่อสุขภาพของเด็กๆ จากทั้ง 6 โรคนี้แล้ว ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าวัคซีนนั้นสำคัญมากเพียงใด ฉะนั้นหน้าที่ของพ่อแม่คือการพาลูกไปรับฉีดวัคซีนให้ครบและตรงเวลาตามช่วงวัยของลูก ซึ่งสามารถดูได้จากสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็กเล่มสีชมพูที่จะมีตารางการฉีดวัคซีนของลูกตั้งแต่แรกเกิดว่าต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคใดบ้างค่ะ
อ่านต่อ ประโยชน์ที่ได้จากการการฉีดวัคซีนรวม หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วัคซีนรวม 6 โรคมีประโยชน์อย่างไร ?
การวัคซีนช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันจากการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ยิ่งโดยเฉพาะในเด็กตั้งแต่แรกเกิดมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างมาก และปัจจุบันได้มีการคิดค้นให้การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเด็กเล็กๆ มากยิ่งขึ้น ด้วยการรวมเอาวัคซีนของ 6 โรคไว้ในเข็มเดียว ผู้เขียนมีประโยชน์จากวัคซีนรวมมาให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบกันค่ะ
1. มีประสิทธิภาพดี
แน่นอนว่าเมื่อมีการรวมเอาวัคซีนของ 6 โรคมาไว้ในเข็มเดียว ประสิทธิภาพในการสร้างภูมิต้านทานต่อ 6 ย่อมมีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น
2. ลูกเจ็บตัวน้อยลง
เวลาพาลูกไปฉีดวัคซีนในหลายๆ ครอบครัว โดยเฉพาะคนเป็นแม่แทบอยากจะเจ็บแทนลูก ในเด็กทารก 1-6 เดือนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน 5-8 เข็มสำหรับวัคซีนแยกชนิด แต่หากเป็นวัคซีนรวมจะเป็นการฉีดเพียงแค่ 3 เข็มเท่านั้น
3. มีความปลอดภัยสูง
เพราะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่ำ เนื่องจากใช้วัคซีนไอกรนชนิดพิเศษที่เป็นชนิดไม่มีตัวเชื้อ (ไร้เซลล์-acellular) ซึ่งทำให้โอกาสเกิดไข้สูงหรือการร้องกวน หลังฉีดวัคซีนน้อยลงกว่าเดิม และวัคซีนโปลิโอเป็นชนิดฉีดซึ่งทำให้ไม่เกิดผลแทรกซ้อนทางระบบประสาทอย่างที่อาจจะพบได้ในวัคซีนโปลิโอชนิดรับประทาน[4]
4. มีความสะดวกและประหยัดกว่า
อย่างบอกไปค่ะว่าเป็นวัคซีนรวม 6 โรค ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย เพราะการฉีดวัคซีนชนิดแยกเดี่ยวๆ ทั้ง 6 ชนิดจะมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่สูงกว่าการใช้วัคซีนรวม 6 โรคเข็มเดียว ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเสียเวลาทำงานเพื่อพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อฉีดวัคซีนบ่อยๆ ด้วยค่ะ
ตารางการให้วัคซีน
แรกเกิด ฉีดวัคซีน ป้องกันวัณโรค และวัคซีนตับอักเสบบี เข็มที่ 1 (โดยเฉพาะในรายที่แม่เป็นพาหะตับอักเสบบี)
อายุ 1 เดือน ตรวจสุขภาพทั่วไป
อายุ 2 เดือน ตรวจสุขภาพทั่วไป และรับวัคซีนรวม 6 โรค เข็มที่ 1
อายุ 4 เดือน ตรวจสุขภาพทั่วไปและรับวัคซีนรวม 6 โรค เข็มที่ 2
อายุ 6 เดือน ตรวจสุขภาพทั่วไปและรับวัคซีนรวม 6 โรค เข็มที่ 3[5]
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากทราบราคาวัคซีนเพิ่มเพิ่มสามารถ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ >> แพ็คเกจวัคซีน โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ปี 2560
ราคาในการฉีดวัคซีนอาจมีความแตกต่าง และเปลี่ยนแปลงทั้งโรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งโดยปกติแล้วคุณหมอเด็กที่พาลูกไปฉีดวัคซีนประจำจะให้คำแนะนำในเรื่องราคาที่ชัดเจนให้อีกครั้งค่ะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ปี 2560
Update! ตารางวัคซีน ประจำปี 2560 สำหรับเด็กไทย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
baby.haijai.com
1อาจารย์ ดร. ภญ. ปิยทิพย์ ขันตยาภรณ์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. www.pharmacy.mahidol.ac.th
2สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
3www.clinicdek.com
4,5นพ.ประสงค์ พฤกษานานนท์.คลินิกเด็ก.คอม