พาลูกเที่ยวสงกรานต์ ปีนี้อย่าชะล่าใจ! ระวัง … ลูกอาจได้ของแถมโดยไม่รู้ตัว
นับย้อนหลังกันได้เลยกับเทศกาลที่ใครหลาย ๆ คนรอคอย ไม่ว่าจะเด็กเล็ก เด็กโต หรือว่าผู้ใหญ่ สำหรับเด็ก ๆ นั้นจะรู้สึกชอบเป็นพิเศษเพราะว่าได้เล่นน้ำอย่างสบายใจ ส่วนผู้ใหญ่วัยทำงานก็รู้สึกดีที่ได้พักผ่อนอีกทั้งยังมีเวลาหยุดยาวได้กลับไปเยี่ยมบ้าน เยี่ยมครอบครัว ฟังแล้วดูไม่มีอะไรใช่ไหมละคะ ดูสบาย ๆ เย็น ๆ แต่หารู้ไม่ว่า อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างแอบแฝงอยู่ในน้ำที่ลูกของเราเล่นก็เป็นได้ ยกตัวอย่างเช่น เชื้อโรค และแบคทีเรียต่าง ๆ เป็นต้น
โดยทีมงาน Amarin Baby and Kids จะมาขอนำเสนอบทความเกี่ยวกับโรคต่าง ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ และลูกหลานอาจจะต้องเจอ จะมีโรคอะไรบ้างนั้น พร้อมแล้วเราไปชมอ่านบทความนี้พร้อม ๆ กันค่ะ
โรคที่พ่อแม่ต้องระวังระหว่าง พาลูกเที่ยวสงกรานต์
คุณพ่อคุณแม่คิดว่าจะ พาลูกเล่นสงกรานต์ ปีนี้ที่ไหนกันดีคะ มั่นใจแล้วหรือยังว่า น้ำที่ลูกเล่นตามสถานที่ต่าง ๆ หรือน้ำที่คนอื่นใช้เล่นนั้นจะสะอาดมากน้อยเพียงใดคะ จากข่าวที่ผ่าน ๆ มาจะเห็นแล้วว่า บางคนที่มีเจตนาไม่ดี เลือกที่จะใช้น้ำสกปรกมาเล่นกับคนอื่นด้วยสะใจ แต่หารู้ไม่ว่า โรคที่มากับน้ำ เหล่านั้น อาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นได้ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น โรคที่มากับน้ำ ที่ทีมงานจะมาพูดถึงดังต่อไปนี้ค่ะ
โรคตาแดง
โรคตาแดง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิด อะดีโนไวรัส (adenovirus) สามารถติดต่อระหว่างบุคคลได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากตาผู้ป่วย หรือปนเปื้อนเชื้อโรคจากที่สาธารณะเข้าตา เช่น โรงเรียน สระว่ายน้ำ ระยะการฟักตัวของโรคประมาณ 7-10 วัน หลังสัมผัสเชื้อ หลังจากได้รับเชื้อตาแดงมาประมาณ 24-48 ชั่วโมง ก็จะมีอาการเบื้องต้นที่แสดงให้สังเกตได้ ดังนี้
- มีอาการระคายเคืองตา
- มีอาการปวดตา
- มีน้ำตาไหล มีขี้ตา
- หนังตาบวม
- ตรงเยื่อบุตาขาวจะมีการอักเสบแดงขึ้นมา
- มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว จะเป็นไข้
พาลูกเที่ยวสงกรานต์ อย่างมีความสุขห่างไกลโรคตาแดง คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันได้โดย การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดอยู่เสมอ อย่าใช้มือที่ยังไม่ได้ล้างไปขยี้ตาโดยเด็ดขาด หากฝุ่นละอองหรือผงเข้าตา ให้ล้างด้วยน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว และหมั่นทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน เสื้อผ้า และผ้าเช็ดตัวด้วยการผึ่งแดดให้อยู่เสมอ
โรคลมแดด
เมื่อพาลูกเที่ยวสงกรานต์ อีกโรคที่ต้องระวังให้ดีคือ โรคลมแดดค่ะ “โรคลมแดด” หรือทางการแพทย์เรียกว่า “ฮีทสโตรค” (Heat Stroke) นั้นเกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวกับความร้อนที่เกิดขึ้นจนเกิดภาวะวิกฤตในภาวะปกติร่างกายจะมีระบบการปรับสมดุลความร้อน เมื่อความร้อนในร่างกายเพิ่มขึ้นจะมีขบวนการกำจัดความร้อนออกจากร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยต่อมใต้สมองไฮโปทาลามัสส่วนหน้า หากสมดุลนี้เสีย จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยขึ้น ดังนั้น การเล่นน้ำสงกรานต์ทำให้เราต้องตากแดดทั้งวัน อาจจะทำให้เกิดภาวะลมแดดได้ อธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ก็คือ ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้เนื่องจากความร้อนที่มากเกินไปและเกิดการสูญเสียเหงื่อและสารน้ำไปอย่างมาก โดยปกติแล้วร่างกายคนเรามีอุณหภูมิ ประมาณ 36 – 37 องศาเซลเซียส ถ้าอากาศร้อนมากจนร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ไม่ถึง 40 องศาเซลเซียส อาจเกิดอาการเพลียแดดได้ และถ้าสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ร่วมกับเริ่มมีอาการทางสมอง เช่น ซึม สับสน ชักเกร็งหรือหมดสติ เป็นต้น
โรคผิวหนัง
ร้อน ๆ แบบนี้ ใช่ว่าโรคผิวหนังจะไม่มีนะคะ โดยปกติแล้วพบว่า โรคผิวหนังที่พบในฤดูร้อนแบบนี้ ได้แก่ ผดผื่น กลาก เกลื้อน ผิวไหม้แดด ฯลฯ และยิ่งการ พาลูกเที่ยวสงกรานต์ เล่นน้ำแบบนี้ด้วยแล้ว โอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคผิวหนังยิ่งมีมากขึ้น และปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังได้แก่ แสงแดด น้ำที่ไม่สะอาด เสื้อผ้าที่เปียกอับชื้น พร้อมกับเหงื่อที่ไหลออกมา ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคและก่อให้เกิดโรคผิวหนังตามมานั่นเองค่ะ
โรคจากปรสิต
อีกโรคที่ต้องระวังระหว่าง พาลูกเที่ยวสงกรานต์ ก็คือ โรคจากปรสิต (parasite) หมายถึง โรคที่เกิดจากสัตว์ที่เข้ามาอาศัยร่างกายมนุษย์ในการเจริญเติบโต กินอาหารหรือเลือด และแพร่ขยายจำนวน ทำให้ร่างกายมนุษย์อ่อนแอ และเจ็บป่วย สามารถแพร่หลายสู่มนุษย์ได้หลากหลายช่องทาง ยกตัวอย่างเช่น
- ทางปาก ด้วยการกินอาหารที่มีการปนเปื้อนไข่ปรสิตชนิดต่าง ๆ ทั้งพยาธิ แฟลเจลเลต สปอโรซัว ไมโครสปอริเดีย และซิลิเอต โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่มีพฤติกรรมการบริโภคอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ที่ไม่ได้ผ่านความร้อนอย่างเพียงพอ
- ทางผิวหนัง ปรสิตจะเข้าสู่ร่างกายด้วยการซอนไซเข้าทางผิวหนังบริเวณที่มีผิวหนังบาง ๆ หรือบริเวณที่มีบาดแผล พบมากในกลุ่มของโรคพยาธิชนิดต่าง ๆ
- การสัมผัส ที่เกิดจากการสัมผัสสัตว์ที่เป็นโฮสต์ชนิดอื่น ๆ ที่มีปรสิตเกาะอยู่ เช่น สุนัข แมว ไก่ เป็นต้น ซึ่งทำให้ปรสิตบางชนิดสามารถกระโดดเกาะ และกลายเป็นปรสิตที่อาศัยในมนุษย์ได้ เช่น เห็บ เหา เป็นต้น
- สัตว์พาหะ ที่ชอบดูดกินเลือด ได้แก่ ยุง เห็บ เป็นต้น ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ปรสิตขนาดเล็กสามารถแพร่เข้าสู่ระบบเลือด และทำให้เกิดโรคได้ เช่น โรคมาลาเรียจากเชื้ออะมีบาที่เกิดจากยุงกัด
เจ้าปรสิตที่ว่าเหล่านี้ จะอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำต่าง ๆ และเป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคหลากหลายชนิด เช่น โรคอุจจาระร่วง ท้องเสีย โรคสมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฯลฯ ดังนั้น พาลุกเที่ยวสงกรานต์ ปีนี้ ให้ลูกระวังอย่าให้น้ำเข้าปาก เข้าจมูก เข้าดวงตา เพราะเราไม่รู้ว่า น้ำที่คนอื่นมาเล่นกับเรานั้น เป็นน้ำที่สะอาดหรือไม่ จึงมีโอกาสเสี่ยงที่ปรสิตจะเข้าสู่ร่างกายของลูกหลานได้
โรคปอดอักเสบหรือโรคบอดบวม
รับรองว่า พาลูกเที่ยวสงกรานต์ ปีนี้ ลูกไม่มีทางเล่นน้ำแค่ชั่วโมงเดียวแน่ ๆ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จะต้องระวังให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระวังเรื่องของ โรคปอดอักเสบ หรือโรคปอดบวม หากทราบว่าลูกไม่ค่อยแข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันต่ำ ไม่สบายหรือเจ็บป่วยง่าย อย่าปล่อยให้ลูกเล่นน้ำสงกรานต์จะดีกว่าค่ะ เพราะโอกาสที่จะทำให้ลูกไม่สบายยิ่งมีมากขึ้นกว่าเดิม
โรคปอดบวมในเด็ก เป็นโรคที่อยู่ในกลุ่มอาการไข้หวัด และปอดบวม แลสำหรับโรคปอดบวมมักจะเกิดขึ้นตามหลังอาการไข้หวัด ที่เรียกว่าหวัดลงปอด สามารถพบได้บ่อยกับเด็กในช่วงอายุ 3 เดือน – 2 ขวบ เกิดจากการอักเสบของเนื้อปอด สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และพยาธิ โดยเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปอดบวมที่พบบ่อยในเด็ก ได้แก่ เชื้อนิวโมคอคคัส เชื้อฮีโมฟิลุส เชื้อไมโคร พลาสม่า ส่วนเชื้อไวรัสที่พบบ่อย ได้แก่ เชื้ออาร์เอสวี เชื้อไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
พาลูกเที่ยวสงกรานต์ อย่างปลอดภัย ภายหลังจากที่ลูกเล่นเสร็จแล้ว อย่าลืมให้ลูกอาบน้ำชะรำร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาด ถ้าหากพบว่ามีน้ำไม่สะอาดเข้าตาลูก แนะนำให้ล้างด้วยน้ำที่สะอาดหลาย ๆ ครั้ง หากลูกมีบาดแผล ก็ต้องล้างน้ำด้วยสะบู่หลาย ๆ ครั้งเช่นกัน เพื่อเป็นการลดปริมาณเชื้อโรคออกให้ได้มากที่สุดนั่นเองค่ะ และอยากฝากเตือนไปถึงใครหลาย ๆ คนที่คิดจะ พาลูกเที่ยวสงกรานต์ หรือคิดจะไปเล่นเองละก็ อย่าลืมใช้น้ำสะอาด และเล่นกันอย่างถูกต้องนะคะ ใจเขาใจเรา เท่านี้สงกรานต์ปีนี้หรือปีไหน ๆ ก็สนุกและปลอดภัยได้ไม่ยากแล้วละค่ะ
ขอขอบคุณที่มา: MThai, กระทรวงวัฒนธรรม ฝ่ายประชาสัมพันธ์กรมการแพทย์ สสส และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่