กรมการแพทย์พบเด็กป่วยเป็นโรค ขาดวิตามินซี เพิ่มขึ้น เหตุดื่มแต่นมกล่อง UHT ไม่กินผัก-ผลไม้ร่วมด้วย พร้อมเผยว่า โรคขาดวิตามินซี ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กอย่างรุนแรง อาจถึงขั้นเดินไม่ได้ ซึ่งสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง โดยดื่มนมกล่อง UHT เป็นประจำ แต่ไม่รับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีด้วย จึงอยากให้ปรับพฤติกรรมการรับประทานของลูก
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า วิตามินซีเป็นวิตามินละลายน้ำ มีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย ช่วยสังเคราะห์คอลลาเจนในเนื้อเยื่อกระดูก ฟัน เหงือก หลอดเลือด เพราะร่างกายของเราไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีได้เอง จึงต้องอาศัยอาหารที่มีวิตามินซี ซึ่งอยู่ในผัก และผลไม้รสเปรี้ยว ต้องได้รับวิตามินซีอย่างน้อยวันละ 50-100 มิลลิกรัม
เด็กที่เลือกรับประทาน รับประทานยาก รับประทานน้อย ไม่รับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซี ดื่มแต่นมกล่อง UHT เป็นประจำ จะส่งผลต่อพัฒนาการ ทำให้ดูซีด บวม เลือดออกง่าย อาจมีจ้ำที่แขนขา รอบตา มีเลือดออกตามไรฟัน ไม่ค่อยมีแรง หงุดหงิดง่าย ร้องกวน ผิวแห้ง ผมบาง ปวดเข่าและขา ไม่ค่อยขยับ เวลานั่งจะงอข้อสะโพก ข้อเข่า
คุณพ่อ คุณแม่ส่วนใหญ่มักคิดว่า นมเป็นตัวแทนอาหารอื่นๆ ถ้าดื่มนมมากๆ จะสูง บางครอบครัวเลือกนมกล่องเก็บตุนให้ลูกดื่มได้สะดวก จนลืมคิดถึงสารอาหารอื่นๆ ส่งผลให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ ขาดภูมิคุ้มกัน ทำให้เป็นโรคต่างๆ
นพ.สมจิตร ศรีอุดมขจร แพทย์ประจำศูนย์คลินิกสมองและระบบประสาท สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า ข้อมูลผู้ป่วยเด็กที่ขาดวิตามินซีเพิ่มมากขึ้น เด็กส่วนใหญ่มักจะดื่มนมวัวและนมถั่วเหลืองเป็นประจำ โดยไม่รับประทานอาหารอย่างอื่นเสริม ซึ่งในนมกล่องมีวิตามินซีน้อยมาก เมื่อผ่านความร้อนวิตามินซีก็สูญเสียไปอีกมาก ขณะที่นมแม่มีวิตามินซีสูง ถ้าคุณแม่รับประทานผักผลไม้ไม่เพียงพอ ก็จะทำให้ลูกขาดวิตามินซีได้ด้วยเช่นกัน
แม่ที่ให้นมลูกควรรับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น มะเขือเทศ กะหล่ำ พริกหวาน ส้ม มะนาว ฝรั่ง สับปะรด มะม่วง มะละกอ เพื่อให้ลูกได้รับวิตามินซีอย่างเหมาะสม ใน 6 เดือนแรก ลูกน้อยควรได้รับนมแม่อย่างเดียว ไม่ต้องดื่มน้ำ หรืออาหารอื่นๆ หลังจาก 6 เดือนจึงเริ่มฝึกให้รับประทานครบ 5 หมู่ตามวัยคู่กับนมแม่ เด็กที่เป็นโรคขาดวิตามินซีควรได้รับวิตามินซีวันละ 300 มิลลิกรัม จะมีอาการดีขึ้น 1-2 สัปดาห์ และรับประทานวิตามินเสริม 2-3 เดือน
โรคขาดวิตามินซี เป็นโรคที่ป้องกันได้ เพียงคุณพ่อ คุณแม่ ให้ความสำคัญกับอาหารของลูก ปรับพฤติกรรม ให้ลูกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้สด เป็นประจำ ลูกน้อยก็จะแข็งแรง ห่างไกลโรคแล้วค่ะ
อ่านต่อ “รับประทานวิตามินซีตอนไหนดี? และวิตามินซีรับประทานมากไปก็ไม่ดี?” คลิกหน้า 2
รับประทานวิตามินซีตอนไหนดี?
สำหรับคนที่เป็นหวัดบ่อยๆ เลือดออกตามไรฟัน คุณหมอจะให้รับประทานวิตามินเสริม โดยเฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เตรียมตัวคลอด ควรได้รับวิตามินซีที่มากขึ้น ภญ.วริยา สารรัตนะ กล่าวไว้ในเว็บไซต์หน่วยคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ว่าสามารถรับประทานวิตามินซีเวลาไหนก็ได้ แต่แนะนำว่าอย่ารับประทานขณะท้องว่าง ให้รับประทานพร้อมอาหาร หรือหลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เพราะอาหารจะเป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีไปใช้ ป้องกันการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร เพราะวิตามินซีมีฤทธิ์เป็นกรด
ควรแบ่งรับประทานวิตามินซีตามมื้ออาหาร เช่น วันละ 2 เวลาหลังอาหาร หรือวันละ 3 เวลาหลังอาหาร เพื่อให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีได้ดีกว่าการรับประทานทั้งหมดในครั้งเดียว
วิตามินซีรับประทานมากไปก็ไม่ดี?
อาหารทุกอย่างรับประทานน้อยไปก็ไม่ได้ มากไปก็ไม่ดี รวมถึงวิตามินซี เพราะถ้าได้รับน้อยเกินไปก็จะส่งผลต่อภูมิคุ้มกัน ทำให้เป็นหวัดได้ง่าย เลือดออกตามไรฟัน ผิวพรรณไม่ผ่องใส เพราะวิตามินซีมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยชะลอวัย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
แต่ถ้ารับประทานมากเกินไป เช่น รับประทานเกินวันละ 1,000-2,000 มิลลิกรัม ติดต่อกันนานๆ ก็อาจส่งผลข้างเคียง เช่น ไม่สบายท้อง ปวดมวนท้อง ท้องเสีย เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ป่วยเป็นโรคโลหิตจาง เสี่ยงต่อการเป็นนิ่วในไต อาการข้างเคียงเหล่านี้อาจพบได้น้อย เพราะวิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำได้ จึงขับออกทางปัสสาวะได้ ดังนั้นถ้ามีความจำเป็นต้องรับประทานวิตามินซีในปริมาณมาก ก็ควรรับประทานพร้อม หรือหลังอาหาร แล้วดื่มน้ำตามมากๆ
การรับประทานวิตามินซีเสริมเป็นเพียงตัวช่วยหนึ่ง ซึ่งมีประโยชน์ไม่มากเท่าผักผลไม้สดๆ เช่น ฝรั่ง ส้ม มะละกอ มะนาว มะม่วง มะเขือเทศ มันฝรั่ง กีวี สตรอเบอร์รี่ ผักใบเขียว ซึ่งเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยวิตามินซีช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายปลอดภัย และหายจากโรค
อ่านต่อ “ประโยชน์ของวิตามินซี และวิตามินซีแบบเม็ดอมกับเด็กๆ” คลิกหน้า 3
ประโยชน์ของวิตามินซี
1.ช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบของกระดูก กล้ามเนื้อ หลอดเลือด
2.ช่วยรักษาหลอดเลือดฝอย กระดูก และฟันให้แข็งแรง
3.ช่วยในกระบวนการสมานแผลให้หายได้เร็ว
4.ช่วยสร้างสารสำคัญในร่างกาย และช่วยให้การดูดซึมของธาตุเหล็กจากทางเดินอาหารได้ดียิ่งขึ้น
วิตามินซีแบบเม็ดอมกับเด็กๆ
มีคุณพ่อ คุณแม่ที่ให้ลูกน้อยอมวิตามินซีจำนวนมาก เพราะราคาไม่แพง วิตามินซีสามารถละลายน้ำ และไม่มีการสะสม จึงค่อนข้างปลอดภัย ถ้าให้อมเป็นครั้งคราว และให้หลังรับประทานอาหารทันที พร้อมการดูแลเรื่องเหงือกและฟันของลูกน้อยด้วย การที่ให้เด็กๆ อมวิตามินซีมากเกินไปเป็นเวลานานๆ อาจส่งผลเสียได้ เพราะวิตามินซีมีรสเปรี้ยวจากการแต่งรส ซึ่งเป็นกรดกัดกร่อนทำลายเคลือบฟัน ทำให้ส่งผลเสียต่อเหงือกและฟัน ถ้าลูกน้อยได้รับวิตามินซีที่เพียงพอจากการรับประทานผักผลไม้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องให้วิตามินซีเสริม
เครดิต: www.hfocus.org/content/2016/08/12536, http://health.kapook.com/view110140.html, www.doctor.or.th/article/detail/2199, www.pharmacy.mahidol.ac.th/dic/qa_full.php?id=3493