พบกับ ประโยชน์ของมันม่วง ของดีที่มีมากกว่าแค่สีสวย และความอร่อย!!
กำลังอินกันเลยใช่ไหมละคะกับมันม่วง ที่กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางในหมู่ของคุณแม่ ๆ ที่กำลังลดน้ำหนัก … แต่คุณแม่ขา…เราจะฟินไปคนเดียวทำไมคะ ในเมื่อลูก ๆ ก็สามารถฟิน อร่อย แล้วก็ได้รับประโยชน์ได้เหมือนกันกับเรา
คุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะคิดว่า มันม่วง ทำได้มากสุดก็แค่เผา … แล้วเด็กที่ไหนจะไปยอมกิน …หารู้ไม่ว่า มันม่วงนี่ละค่ะ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่สุดยอดความอร่อย และในวันนี้ทีมงาน Amarin Baby & Kids ก็ได้เตรียมเมนูที่ทำมาจากมันม่วงมาฝากคุณแม่ทุก ๆ คนค่ะ รับรองเลยว่า งานนี้ไม่ใช่แม่คนเดียวเท่านั้นที่จะฟิน ลูกน้อยก็จะร่วมฟิน พร้อมกับขอเบิ้ลแล้วเบิ้ลอีกก็เป็นได้ แต่ก่อนที่เราจะไปดูนั้น เราไปดูประโยชน์ของเจ้ามันม่วงกันก่อนดีกว่าค่ะ
อ่านต่อ >> คุณประโยชน์ของมันม่วง ได้ที่หน้าถัดไป!
10 ประโยชน์ของมันม่วง
เชื่อเถอะค่ะว่า คนส่วนใหญ่จะเข้าใจแค่ว่า มันม่วงมีประโยชน์แค่ช่วยในการลดน้ำหนักเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วมันม่วงเขามีทีเด็ดมากกว่านั้น ได้แก่
- ช่วยในการลดน้ำหนัก เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า มันม่วงเขาขึ้นชื่อสรรพคุณในเรื่องนี้
- ช่วยในการบำรุงสายตา และการมองเห็นได้เป็นอย่างดี เรื่องจากมีวิตามีนเอสูงมาก
- ช่วยให้ผิวพรรณแข็งแรง และสุขภาพฟันที่ดี เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินซี
- มีสารอาหารที่ช่วยให้ตับอ่อนของเราแข็งแรง
- มีสาร Antioxident หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถช่วยชะลอความแก่ได้
- ป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ เนื่องจากมีแร่ธาติสังกะสี โพแทสเซียม แมงกานีส
- ช่วยป้องกันโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งได้
- มีเส้นใยอาหารหรือไฟเบอร์สูงมาก เหมือนแอปเปิ้ล เมื่อรับประทานเข้าไป จะทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว จึงเหมาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- ช่วยบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือนให้กับสตรี เพราะในมันเทศนั้นเป็นแหล่งของวิตามินบี 6 ที่ช่วยให้ร่างกายผลิตพลังงานจากอาหารได้มากขึ้น และส่วนนี้ที่เป็นส่วนที่จำเป็นอย่างยิ่ง ในการช่วยลดน้ำหนัก
- ช่วยลดอัตราความเสี่ยงของเส้นเลือดอุดตัน และโรคหัวใจได้
เห็นไหมละคะว่า เจ้ามันม่วงผลเล็ก ๆ นั้น มีคุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่แฝงอยู่มากมายเลยละค่ะ แต่เอ … จะต้องทำอย่างไรนะลูกถึงจะยอมกิน อยากรู้ไปดู 5 เมนูนี้พร้อม ๆ กันค่ะ
อ่านต่อ>> 5 เมนูมันม่วงสุดฟิน
ฟินไปกับ “5 เมนูมันม่วง”
เมนูแรก: บราวนี่มันม่วง
ส่วนผสม:
• ถั่ววอลนัทดิบสับ 3/4 ถ้วย (สำหรับใส่ในเนื้อบราวนี่)
• ถั่ววอลนัทดิบสับ 1/4 ถ้วย (สำหรับตกแต่ง)
• แป้งอัลมอนด์ 3/4 ถ้วย
• ผงโกโก้ 1/4 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ
• อินทาผาลัมสับ 350 กรัม
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• อัลมอนด์ดิบสับ 1/8 ถ้วย
• โกโก้นิบส์ (Cacao Nib)
• เกลือป่น
ส่วนผสมสำหรับช็อกโกแลตฟรอสติ้ง:
• เนยขาว 1/2 ถ้วย
• ผงโกโก้ 4-5 ช้อนโต๊ะ
• เมเปิลไซรัป 4 ช้อนโต๊ะ
• กะทิ 1 ช้อนชา
ส่วนผสม มันม่วงฟรอสติ้ง:
• มันม่วง 5-6 หัว
• กะทิ 2 ช้อนโต๊ะ
• เนยขาว 2 ช้อนโต๊ะ
• เมเปิลไซรัป 2-3 ช้อนโต๊ะ
• กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
วิธีทำช็อกโกแลตฟรอสติ้ง:
1. เนยขาว 1/2 ถ้วย
2. ตีผสมเนยขาวกับกะทิจนเข้ากัน
3. ใส่ผงโกโก้กับเมเปิลไซรัปลงไป ตีจนตั้งยอดแข็ง
วิธีทำมันม่วงฟรอสติ้ง:
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียม และปูฟอยล์ลงบนถาดอบ
2. วางมันม่วงลงไปในถาดอบ อบประมาณ 45 นาทีหรือจนสุกนิ่ม พักไว้จนเย็น
3. พอมันม่วงเย็นลง ปอกเปลือกออก ใช้ที่บดมันฝรั่งบดจนละเอียด ใส่กะทิ เนยขาว เมเปิลไซรัป และกลิ่นวานิลลาลงไป ตีด้วยความเร็วปานกลางจนเนื้อเนียน เตรียมไว้
วิธีทำบราวนี่มันม่วง:
1. ให้คุณแม่ปูกระดาษรองอบที่ถาดอบขนาด 8*8 นิ้ว และปั่นถั่ววอลนัทจนละเอียด
2. หลังจากนั้นใส่แป้งอัลมอนด์ ผงโกโก้ และเกลือลงในเครื่องปั่น ปั่นจนละเอียด ใส่อินทผาลัมลงไปปั่นจนเข้ากัน เทใส่ลงในถาดรองอบที่เตรียมไว้
3. แบ่งวอลนัทบด ประมาณ 1/8 ถ้วย เตรียมไว้ ใส่ถั่ววอลนัทที่เหลือกับอัลมอนด์ลงไป คนผสมจนเข้ากัน นำไปแช่เย็นประมาณ 1-2 ชั่วโมง
4. ใส่ช็อกโกแลตฟรอสติ้งลงไปเกลี่ยให้ทั่ว ตามด้วยมันม่วงฟรอสติ้ง แต่งด้วยวอลนัทที่แบ่งไว้ โรยโกโก้นิบส์กับเกลือป่น นำไปแช่เย็นจนเซตตัว เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ
อ่านต่อ>> เมนูมันม่วงเพิ่มเติม คลิก!
เมนูที่สอง: ไอศกรีมมันม่วง
ส่วนผสม:
• กะทิ 1+1/2 ถ้วย
• แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
• เมเปิลไซรัป 1/4 ถ้วย
• มันม่วงบดละเอียด 1/2 ถ้วย หรือมันม่วงสับ 3/4 ถ้วย
• กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
วิธีทำ:
1. ให้คุณแม่ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงไปปั่น ยกเว้นกลิ่นวานิลลา ปั่นผสมจนเนื้อเนียน
2. หลังจากนั้นเทลงในกระทะตั้งไฟรอจนเดือด ปิดไฟ คนผสมจนเนื้อเนียนและข้น ใส่กลิ่นวานิลลาลงไป คนผสมจนเข้ากัน เทใส่ภาชนะ แช่ตู้เย็นข้ามคืน
3. เทส่วนผสมไอศกรีมลงในเครื่องทำไอศกรีม ปั่นจนเนียนละเอียด นำไปแช่เย็นประมาณ 6 ชั่วโมง หรือข้ามคืน
4. ถ้าไม่มีเครื่องทำไอศกรีมใช้เครื่องตีมือถือปั่นจนส่วนผสมเนียนแล้วเทใส่ลงในภาชนะ นำเข้าแช่แข็งจนเซ็ตตัว แล้วนำออกมาปั่นประมาณ 2-3 รอบจนเนื้อเนียนแล้วนำไปแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ
อ่านต่อ>> เมนูมันม่วงเพิ่มเติม คลิก!
เมนูที่สาม: เฟรนช์ฟรายส์มันม่วง
ส่วนผสม:
• มันม่วง (หั่นเป็นแท่งหนาประมาณ 1/4 นิ้ว) 500 กรัม
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ขาว 1 ฟอง
• พาร์สลีย์สับ 1 ช้อนชา
• เกลือป่น
• พริกไทยป่น
วิธีทำ:
1. ให้คุณแม่เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์ และปูกระดาษรองอบที่ถาดอบ เตรียมไว้
2. เสร็จแล้วใส่แท่งมันม่วงลงในอ่างผสม ใส่น้ำมันลงไปคลุกเคล้าจนทั่ว
3. ตีผสมไข่ขาวจนตั้งยอดอ่อน เทลงในอ่างผสมแท่งมันม่วง คลุกผสมจนเข้ากัน
4. เทแท่งมันม่วงลงในถาดอบที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้กระจาย นำไปอบประมาณ 25-30 นาทีหรือจนสุกเหลืองกรอบ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
อ่านต่อ>> เมนูมันม่วงเพิ่มเติม คลิก!
เมนูที่สี่: ขนมไข่นกกระทามันม่วง
ส่วนผสม:
• มันเทศญี่ปุ่นนึ่ง 2 ถ้วย
• แป้งมันสำปะหลัง 3/4 ถ้วย
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• เกลือเล็กน้อย
• น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
• กะทิ 2 ช้อนโต๊ะ
• ไข่แดง 1 ฟอง
วิธีทำ:
1. ก่อนอื่นเลยให้คุณแม่ปอกเปลือกมันเทศญี่ปุ่นออกก่อน เสร็จแล้วล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จัดเรียงใส่ภาชนะเพื่อนำไปนึ่ง
2. นำไปนึ่งในหม้อหุงข้าว ใช้เวลานึ่งประมาณ 30 นาที ใช้ส้อมบดมันเทศญี่ปุ่นให้ละเอียด ตามด้วยใช้กระชอนบดให้เนียน
3. ร่อนแป้งและผงฟูลงในอ่างผสม ใส่เกลือและน้ำตาลทรายลงไป ใส่มันเทศญี่ปุ่นลงไปนวดให้เข้ากัน
4. ผสมกะทิและไข่แดงให้เข้ากัน เทลงไปในส่วนผสมมันเทศญี่ปุ่นแล้วนวดต่อให้เข้ากันดี ปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลม
5. ตั้งกระทะใช้ไฟกลางใส่น้ำมันลงไปพอท่วม รอจนน้ำมันร้อนนำขนมไข่นกกระทามันเทศญี่ปุ่นลงไปทอด หมั่นคนเรื่อย ๆ จนสุก จัดใส่จา้นให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จค่ะ
อ่านต่อ>> เมนูมันม่วงเพิ่มเติม คลิก!
ส่วนผสม:
• มันม่วง (หัวเล็ก) 2 หัว
• แป้งข้าวเหนียว
• นมสด 250 กรัม
• วิปปิ้งครีม 100 กรัม
• น้ำตาลทราย 100 กรัม
• เกลือเล็กน้อย
วิธีทำ:
1. ให้คุณแม่ปอกเปลือกมันม่วง นำไปล้างแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปนึ่งประมาณ 20-25 นาที พอมันม่วงสุกก็นำมาบดให้ละเอียด
2. แบ่งแป้งข้าวเหนียวเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำจะได้แป้งสีขาว ส่วนที่สองนวดแป้งข้าวเหนียวกับมันม่วงจะได้แป้งสีม่วง หากนวดแล้วแป้งแห้งเกินไปก็เติมน้ำแล้วนวดต่อจนเข้ากันดี จากนี้ไปก็ไปตามเด็ก ๆ มาช่วยปั้นบัวลอยก้อนกลม ๆ นี้ได้เลย
3. ตั้งน้ำให้เดือด เทแป้งกลม ๆ ลงไปต้มให้สุก เมื่อแป้งสุกจะลอยขึ้นมา ตักขึ้นมาพักไว้ในน้ำเย็น
4. เทนมสดใส่หม้อตามด้วยวิปปิ้งครีม น้ำตาลทราย และเกลือ คนให้เข้ากัน ใส่บัวลอยลงไป คนเบา ๆ ให้เข้ากันดี ปิดไฟตักใส่ถ้วย
น่ากินไหมละคะ 5 เมนูที่ทีมงานเอามาฝากในวันนี้มาก ๆ เลยใช่ไหมละ เรียกได้ว่า เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดี แต่ถ้าทานเพลินน้ำหนักอาจขึ้นได้นะเออ!
อ้างอิง: Kapook
อ่านต่อเนื้อหาอื่นเพิ่มเติม:
- “ซุปใสปลา” สุดยอดเมนูปลา อาหารอ่อนเพิ่มพลังหลังลูกป่วย
- สูตรดี “ไก่ม้วนทรงเครื่อง” เมนูเพิ่มพลัง ช่วยให้ ลูกแข็งแรง (มีคลิป)
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่