วิธีแก้ อาการแพ้ท้อง …เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แม่ท้องหลายคนต้องพบเจอ กับ อาการแพ้ท้อง ซึ่งมักจะเกิดกับคุณแม่ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งคุณแม่ท้องจะต้องเผชิญกับอาการคลื่นไส้วิงเวียน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีลดอาการเหล่านี้นะคะ
วิธีแก้ อาการแพ้ท้อง พร้อมเมนูแนะนำแก้อาการแพ้ท้อง
อาการแพ้ท้อง มักเกิดในระยะแรกของการตั้งครรภ์โดยมากจะเกิดในช่วง 2– 8 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ พอเข้าสู่ไตรมาส 2 อาการแพ้ท้องจะหายไป บางท่านอาจจะแพ้กลิ่นหรืออาหารบางประเภท เชื่อว่าอาการแพ้ท้องเกิดจากการที่ร่างกายของหญิงตั้งครรภ์ มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงทำให้กระเพาะอาหารมีการบีบตัวน้อยลง
อาการของอาการแพ้ท้อง
- คลื่นไส้อาเจียนหลังจากดื่มน้ำหรือรับประทานอาหาร
- น้ำหนักลด
- ขาดน้ำ
- ปัสสาวะสีเข้ม
- เกลือแร่ในร่างกายอาจผิดปกติ
- การเปลี่ยนแปลงทางเต้านม
♥ บทความแนะนำคุณแม่ควรอ่าน >> Q&A คลายสงสัย อาการแพ้ท้อง ของคุณแม่ทุกไตรมาส
- ระดับที่ 1
มีอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะเล็กน้อย มักมีอาการในช่วงเช้า รับประทานอาหารได้น้อยลง มีการอาเจียนบ้าง แต่สามารถบรรเทาได้เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น ถ้าคุณแพ้ท้องแบบนี้ก็สบายใจได้ค่ะ ว่าการแพ้ท้องของคุณอยู่ในระดับ Morning Sickness ทั่ว ๆ ไป ไม่น่ากังวลมาก อ้อ…น้ำหนักตัวของคุณแม่ตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก ควรเพิ่มขึ้น 1-2 กิโลกรัม ในช่วงที่แพ้ท้องมากจนรับประทานอาหารไม่ค่อยได้ คุณแม่ตั้งครรภ์อาจมีน้ำหนักลดลงเล็กน้อยค่ะ
- ระดับที่ 2
มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน รับประทานอาหารไม่ได้ พักผ่อนอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น และมีปัสสาวะสีเข้ม ต้องรีบพบแพทย์ กรณีที่อาเจียนมากจนรับประทานอาหารไม่ได้ คุณหมออาจให้น้ำเกลือ หรือฉีดกลูโคส เพื่อบรรเทาอาการอ่อนเพลียก่อน แล้วอาจให้รับประทานยาประเภท Dimenhydrinate ซึ่งเป็นยาระงับอาการคลื่นไส้ ซึ่งต้องรับประทานก่อนที่จะเกิดอาการแพ้ รวมทั้งการแนะนำให้ปรับวิธีรับประทานอาหาร เมื่อพบแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำแล้วอาการแพ้ท้องก็จะบรรเทาลงได้
- ระดับที่ 3
เป็นการแพ้ท้องขั้นรุนแรง ซึ่งทางการแพทย์ เรียกว่า Hyperemesis Gravidarum (HG) พบประมาณ 0.3 ถึง 2% ในหญิงตั้งครรภ์ อาการจะรุนแรงถึงขั้นที่คุณแม่รับประทานอะไรไม่ได้เลย อาเจียนมากจนร่างกายขาดทั้งน้ำและอาหาร บางคนอาเจียนจนหลอดเลือดที่อยู่บริเวณหลอดอาหารมีการฉีกขาดจนมีเลือดปนมากับ อาเจียน บางคนอาเจียนจนมีเลือดออกใต้เยื่อบุตา ผู้ที่แพ้ท้องขั้นรุนแรง จะเริ่มแพ้เร็วกว่าการแพ้ท้องธรรมดาและมักจะแพ้นาน บางรายอาจแพ้ท้องอย่างหนักไปจนถึงคลอด แต่ส่วนใหญ่จะดีขึ้นเมื่อตั้งครรภ์ได้ 20 สัปดาห์
อ่านต่อ >> “20 วิธีแก้ อาการแพ้ท้อง พร้อมเมนูแนะนำแก้อาการแพ้ท้อง” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เครื่องดื่มต้องห้ามขณะคุณแม่ตั้งครรภ์และแพ้ท้อง
1. นม ส่วนใหญ่เวลาแพ้ท้อง คุณแม่ไม่อาจดื่มนมได้จริงไหมคะ เพราะนมมีส่วนทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนหนักขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้ว คุณแม่แพ้ท้องใน 3 เดือนแรกจึงมักไม่ได้แนะนำให้ดื่มนม นอกเสียจากรอให้ผ่านพ้นระยะเวลาแพ้ท้องก่อนเราจึงจะหันมาดื่มนมได้ปกติ
♥ บทความแนะนำ >> ประสบการณ์ตรง! แม่เป็นภูมิแพ้ระหว่างท้อง โด๊ปแต่นม จนลูกเกิดมาแพ้นมทุกชนิด!
2. เครื่องดื่มชา กาแฟ เพราะในส่วนผสมเหล่านี้มีคาเฟอีนสูงซึ่งหากคุณแม่ดื่มจนร่างกายได้รับคาเฟอี นสูงเกินไป ก็อาจมีผลกระทบร้ายแรงถึงขั้นหยุดยั้งการเจริญเติบโตของทารกอ่อนในครรภ์
3. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลเสียจากเครื่องดื่มเหล่านี้มีมากมาย เห็นโดยตรงได้เลยว่า นอกจากจะทำลายสุขภาพของคุณแม่แล้ว ยังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อทารกในครรภ์โดยตรงได้อีก เพราะถ้าหากไม่เกิดภาวะแท้งบุตรก็อาจเสี่ยงที่คุณแม่จะมีลูกที่พิการตั้งแต่ กำเนิดได้นั่นเองค่ะ
♥ บทความแนะนำคุณแม่ควรอ่าน >> 5 เครื่องดื่มบำรุงครรภ์และเครื่องดื่มต้องห้ามสำหรับคนท้อง
ทั้งนี้หากคุณแม่ท้องต้องกันลดอาการแพ้ท้อง ซึ่งอาจเกิดมากเกิดน้อย แล้วแต่เฉพาะคน บางคนอาจไม่แพ้ท้องอาเจียนก็มีทั้งนี้เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด จึงยังไม่มีวิธีการรักษาที่ได้ผลอย่างแน่นอนว่าหากทำแบบนี้แบบนั้นแล้วอาการแพ้ท้องจะหายไป เพราะวิธีเดียวกันอาจใช้ได้ผลกับบางคน แต่อีกคนกลับใช้ไม่ได้ผลก็ได้
แต่หากรับรู้เอาไว้ว่าโดยส่วนใหญ่อาการแบบใดจะเกิดขึ้นและมีแนวทางการแก้ไขอย่างไร ก็จะช่วยนำไปสู่วิธีจัดการกับอาการเหล่านั้นได้ ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้ววิธีการแก้อาการแพ้ท้องจะเป็นการปรับเรื่องของอาหารการกินและสภาพจิตใจเป็นหลัก ดังนั้นแล้วเพื่อช่วยบบรเทาอาการแพ้ท้องให้คุณแม่ท้องได้อีกทางหนึ่ง Amarin Baby & Kids จึงขอแนะนำ วิธีแก้ อาการแพ้ท้อง ที่มีความเป็นไปได้ ในการทำให้คุณแม่คลื่นไส้อาเจียน มาให้ลองนำไปปรับใช้ จะมีวิธีใดบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
เคล็ดลับป้องกันอาการแพ้ท้อง อาการคลื่นไส้
- การพักผ่อนให้เพียงพอ คุณแม่ท้องต้องพักผ่อนหลับนอนให้เพียงพอในตอนกลางคืน ควรสวมมาสค์ปิดตาเพื่อป้องกันแสงไฟส่องตาให้มากที่สุด และใช้หมอนสำหรับรองตัว (maternity body pillow) ซึ่งจะช่วยประคับประคองหลังและท้องของคุณให้สบายขึ้น รวมไปถึงการงีบหลับระหว่างวันก็สามารถช่วยลดอาการแพ้ท้องได้เช่นกัน
♥ บทความแนะนำ >> ท่านอนที่ดีที่สุดสำหรับแม่ท้อง และเคล็ดลับที่จะช่วยให้แม่ท้องหลับสบายตลอดคืน
♥ บทความแนะนำ >> แม่ท้องงีบหลับ ชาร์ตพลังแม่สู่สมองลูก
- การลุกขึ้นช้าๆ เมื่อตื่นนอนตอนเช้า พยายามลุกจากเตียงช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อนนะคะ เพื่อไม่ให้เกิดการกระตุ้นการอาเจียนจากกระเพาะอาหารที่เคลื่อนที่เร็วภายในร่างกาย
- การป้องกันแสงกระพริบจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพราะแสงกระพริบจากหน้าจอคอมพิวเตอร์จะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้คุณเกิดอาการแพ้ท้องอย่างรวดเร็วโดยที่คุณไม่รู้ตัว ถ้าคุณแพ้ท้องจากการใช้คอมพิวเตอร์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ควรปรับฟร้อนให้หนาและใหญ่ขึ้น แล้วเปลี่ยนพื้นหลังให้เป็นสีแทนหรือสีชมพู ก็จะช่วยลดความตึงเครียดของสายตาคุณได้ค่ะ
♥ บทความแนะนำ >> ใช้เทคโนโลยีอย่างไรให้ปลอดภัยกับแม่และลูกในท้อง
- การออกกำลังกาย หญิงตั้งครรภ์บางคนอาจรู้สึกลำบากในการเคลื่อนไหวร่างกาย จากการศึกษาพบว่าคนที่ออกกำลังกายอาการแพ้ท้องจะลดลง
- พยายามทำให้อากาศในห้องนอนถ่ายเทได้สะดวก หมั่นรับอากาศบริสุทธิ์อย่างสม่ำเสมอ
- สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย จากการศึกษาในหญิงตั้งครรภ์กลุ่มหนึ่งพบว่า หญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการคลื่นไส้ที่เปลี่ยนจากการใส่เสื้อผ้าที่รัดตัวมาเป็นเสื้อผ้าที่หลวมมีหญิงตั้งครรภ์บางคนที่มีอาการคลื่นไส้ลดลงแต่บางคนอาการเหมือนเดิม
- ดมกลิ่นที่สดชื่นอาการแพ้ท้องจะเกี่ยวข้องกับกลิ่น หญิงตั้งครรภ์จะไวต่อกลิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่นเหม็น กลิ่นน้ำหอมก็ทำให้หญิงตั้งครรภ์เกิดอาการคลื่นไส้ได้ กลิ่นที่ดมแล้วสดชื่นสำหรับหญิงมีครรภ์คือกลิ่นที่สกัดจากมะนาวหรือโรสแมรี่
เรื่องอาหารสำหรับแม่ท้อง ที่มีอาการแพ้ท้องถือเป็นเรื่องสำคัญอีกหนึ่งเรื่อง ซึ่งคุณแม่ท้องสามารถควบคุมและเลือกทานอาหาร เพื่อช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ ดังนี้
อ่านต่อ >> “20 วิธีแก้ อาการแพ้ท้อง พร้อมเมนูแนะนำแก้อาการแพ้ท้อง” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เคล็ดลับป้องกันอาการแพ้ท้อง อาการคลื่นไส้ กับการดูแลเรื่องอาหาร
1. ดูเรื่องขนาดของอาหารที่รับประทาน ซึ่งคุณแม่ท้องจะต้องมีอาหารรองท้อง และอาหารที่รับประทานจะต้องไม่ก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ ซึ่งจะทำให้อาการแพ้ท้องของคุณลดลง ถ้าคุณปล่อยให้ท้องว่างกรดในกระเพาะอาหารก็จะไม่มีอะไรย่อยก็จะกัดกระเพาะอาหาร นี่เป็นผลทำให้คุณมีอาการคลื่นไส้
2. ในตอนกลางคืนพยายามทานอาหารที่มีโปรตีนสูงก่อนที่คุณจะเข้านอน อาหารเหล่านี้จะช่วยในการปรับระดับน้ำตาลในเลือดได้ ทำให้ไม่เกิดอาการแพ้ท้องขึ้นระหว่างการนอน
3. การดื่มน้ำการดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญของหญิงตั้งครรภ์ ควรดื่มน้ำอย่างน้อย8แก้ว/วัน ถ้าดื่มน้ำน้อยจะทำให้เกิดอาการแพ้ท้องได้ง่ายกว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ดื่มน้ำเพียงพอ อย่าลืมนะคะถ้าคุณดื่มน้ำน้อยเท่าไหร่คุณจะมีอาการคลื่นไส้เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
4. น้ำขิง/น้ำผึ้ง/น้ำแอปเปิ้ล ใส่น้ำแข็ง หรือ ไดเอทโคลาก็จะทำให้คุณดื่มง่ายขึ้น น้ำขิงจะช่วยลดอาการคลื่นไส้โดยช่วยให้กระเพาะอาหารมีสภาพที่เหมาะในการลดอาการคลื่นไส้
5. รับประทานอาหารจำพวกแป้ง ที่ขบเคี้ยวง่ายและไม่หวานมาก ทันทีที่คุณตื่นนอน เช่น บิสกิตหรือขนมปังกรอบ ทานช้า ๆ จากนั้นให้นอนพักอีก 15-30 นาที ก่อนลุกออกจากเตียง
6. ทานอาหารเช้าจำพวก “โปรตีน” สูงๆ เช่น โยเกิร์ต ไข่ เนยแข็ง
7. สำหรับอาหารเช้า ควรรับประทานผลไม้ร่วมด้วยเช่น กล้วย ลูกพรุน ลูกเกด ส้ม เพราะจะมีโปรแตสเซี่ยมช่วยป้องกันการแพ้ท้อง
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
8. รับประทานผลไม้ คุกกี้ นม เป็นอาหารว่าง
9. หลีกเลี่ยงอาหารมันที่ย่อยยากหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเครื่องเทส เช่น แกงกะหรี่ อาหารทอด หรือ อาหารที่มีความเป็นกรดสูง เพราะอาหารเหล่านี้ย่อยยาก รวมทั้งเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
♥ บทความแนะนำ >> คุณแม่ท้องห้ามกินอะไรบ้าง?
10. พยายามรับประทานครั้งละน้อยๆ แต่รับประทานบ่อยๆ
11. เลือกกินอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี ซึ่งพบมากในอาหารประเภทผลิตภัณฑ์นม เนื้อสัตว์ ตับ ไข่ ปลา สัตว์น้ำประเภทมีเปลือก ถั่ว พืชประเภทถั่ว ข้าโพด หรือในรูปอาหารเสริมก็ได้ มีงานวิจัยชี้ว่าผู้หญิงที่กินอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี มีแนวโน้มที่จะแพ้ท้องน้อยกว่า
12. รับประทานยาเม็ดธาตุเหล็กหรือวิตามินที่มีธาตุเหล็ก หญิงตั้งครรภ์บางคนมีอาการคลื่นไส้อาเจียนจากยาเม็ดธาตุเหล็กที่ได้รับหลังจากฝากครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนขนาดของยา/ชนิดของยา/วิธีการกินยา
♥ บทความแนะนำ >> แม่ท้อง กินวิตามินเสริมความงามได้ไหม
13. ห้ามรับประทานยาแก้คลื่นไส้เองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
ทั้งนี้การทำจิตใจให้สบาย การทำจิตใจของคุณไม่ให้หมกมุ่นอยู่กับอาการคลื่นไส้อาเจียนเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ ควรทำกิจกรรมอื่นๆเช่นอ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ หรือเดินเล่นในระยะทางสั้นๆ จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของคุณไปยังสิ่งอื่น จะทำให้จิตใจของคุณแจ่มใสและผ่อนคลาย แต่ก็ต้องดูความพร้อมของร่างกายคุณด้วย ถ้าเหนื่อยก็ต้องพักนะคะ
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!
- ทำไมแม่ท้องอ่อนต้องแพ้ท้อง?
- สามีแพ้ท้องแทนภรรยา สาเหตุเกิดจากอะไร?
- จริงหรือไม่? แม่แพ้ท้องหนักมากจะทำให้ลูกฉลาด IQ สูง
อ่านต่อ >> “6 เมนูแนะนำสำหรับ วิธีแก้ อาการแพ้ท้อง” คลิกหน้า 4
รวมเมนูแนะนำสำหรับ วิธีแก้ อาการแพ้ท้อง
ขอบคุ๊ข้อมูลจาก : www.vitamin24hr.com , www.lovelymomshop.com