ภาควิชาสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการรักษาสมดุลแคลเซียมของร่างกาย ร่างกายของแม่มีการเตรียมพร้อม และทำหน้าที่เพื่อให้ลูกเจริญเติบโตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ไปจนถึงหลังคลอด ทำให้บ่งบอกได้ว่า ฮอร์โมนแห่งการเสียสละของแม่ ยิ่งใหญ่เสมอ โดยเฉพาะช่วงก่อนคลอด
ช่วง 3 เดือนก่อนคลอด คุณแม่จะสูญเสียแคลเซียมผ่านทางรกให้กับลูกในครรภ์ถึงวันละ 200-300 มิลลิกรัม ยิ่งเป็นเวลาหลังคลอด คุณแม่ยิ่งสูญเสียแคลเซียมในปริมาณสูงเพิ่มขึ้น อาจถึงวันละ 1,000 มิลลิกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณ และความถี่ของการให้นม แล้วคุณแม่เอาแคลเซียมมาจากไหน? และร่างกายของแม่รู้ได้อย่างไร? ว่าเมื่อไหร่ต้องส่งแคลเซียมให้กับลูก และในปริมาณเท่าใด
ก่อนอื่นร่างกายของคนเราได้รับแคลเซียมมาจากอาหาร หรือเครื่องดื่ม เช่น นม ผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อสัตว์ หรือผักบางชนิด โดยการดูดซึมแคลเซียมที่ลำไส้ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของฮอร์โมนที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นด้วยวิตามินดี แคลเซียมถูกดูดซึมไปใช้ในเซลล์ต่างๆ ใช้ในการซ่อมแซม และสร้างกระดูก
แคลเซียมที่มากเกินพอดี จะถูกขับทิ้งทางปัสสาวะ หรือเก็บสะสมไว้ในกระดูก ฮอร์โมนที่หลั่งมาจากต่อมใต้สมอง ชื่อว่า โพรแลคติน เป็นฮอร์โมนสำคัญที่มีอิทธิพลต่อสมดุลแคลเซียม ไม่ใช่ฮอร์โมนจากวิตามินดี คนทั่วไปมีฮอร์โมนโพรแลคตินต่ำมาก แต่ระดับฮอร์โมนนี้จะสูงขึ้น 20 เท่า เมื่อผู้หญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมลูกน้อย และจะสูงขึ้นเป็นเท่าตัวในขณะที่กำลังให้นมลูก ถ้ามีระดับฮอร์โมนโพรแลคตินสูกมากขนาดนี้ถือว่าเป็นภาวะผิดปกติ มักพบว่าเกิดจากมีเนื้องอกในต่อมใต้สมอง
อ่านต่อ “ฮอร์โมนแห่งการเสียสละของแม่ พิสูจน์แล้วจากการวิจัย” คลิกหน้า 2
ศาสตราจารย์ ดร.นทีทิพย์ กฤษณามระ หน่วยวิจัยด้านแคลเซียมและกระดูก ตั้งสมมติฐานว่า โพรแลคตินเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมสมดุลแคลเซียมของแม่ หลังจากทำการศึกษาวิจัยกับหนูทดลองมานับ 10 ปี พบว่าฮอร์โมนนี้กระตุ้นการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้เล็ก ตลอดจนกระบวนการที่แคลเซียมดูดซึมจากโพรงลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด
แคลเซียมที่เพิ่มขึ้นจะถูกนำผ่านรกไปสู่ลูกน้อยในครรภ์ ส่วนแม่ที่ให้นมลูกน้อยแคลเซียมจะถูกนำไปใช้สังเคราะห์น้ำนมในเต้านม เพราะทารกแรกเกิดต้องใช้แคลเซียมในปริมาณสูงในการสร้างกระดูก คุณแม่ต้องผลิตน้ำนมที่มีแคลเซียมเพียงพอตลอดเวลา ร่างกายของแม่รับมือกับความกดดันนี้โดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง ถ้าคุณแม่มีแคลเซียมไม่เพียงพอ เช่น รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมต่ำ หรือขาดแคลเซียม ร่างกายของแม่จะดึงแคลเซียมจากกระดูกของแม่เองมาใช้
ไม่ว่าคุณแม่จะมีแคลเซียมมากเพียงพอ หรือขาดแคลเซียม น้ำนมของแม่จะมีแคลเซียมเข้มข้นเสมอ และคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมจะมีมวลกระดูกลดลง ถึงแม้ว่ามวลกระดูกจะเพิ่มกลับมาเท่าเดิมหลังหย่านม แต่ยังสรุปไม่ได้ว่าการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูกมากๆ ในช่วงให้นมจะส่งผลเสียให้ร่างกายคุณแม่หรือไม่
ถึงแม้ว่าคุณแม่จะรับประทานแคลเซียมเสริมในปริมาณสูง ก็ยังไม่เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้กระดูกสูญเสียแคลเซียม กลุ่มวิจัย COCAB จึงศึกษาว่าทำไมคุณแม่ถึงได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ พบว่า อัตราการดูดซึมแคลเซียมที่ลำไส้จะพุ่งสูงขึ้นทวีคูณ เมื่อโพรแลคตินในเลือดพุ่งสูงขณะดูดนม เมื่อตรวจวัดมวลกระดูกของคุณแม่หลังลูกหย่านม และในลูกที่เจริญเติบโต พบว่าคุณแม่ที่รับประทานแคลเซียมเสริมวันละ 4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30-90 นาที ก่อนให้ลูกดูดนม ทำแบบนี้ไปจนหย่านม พบว่ามีผลป้องกันการสูญมวลกระดูก ลูกที่ดูดนมแม่ที่รับแคลเซียมเสริมวันละ 4 ครั้งนี้มีมวลกระดูกสูงกว่า และแข็งแรงกว่าลูกที่แม่รับประทานแคลเซียมเสริมวันละ 1 ครั้ง เพราะแคลเซียมช่วง 30-90 นาทีก่อนลูกดูดนมจะเคลื่อนจากกระเพาะอาหารสู่ลำไส้เล็ก เป็นส่วนที่ดูดซึมแคลเซียมมากที่สุด พอดีกับเวลาที่ลูกดูดนม ทำให้แคลเซียมมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ฮอร์โมนนี้ไม่ว่าจะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายของแม่หรือไม่ แต่ก็เรียกได้ว่า โพรแลคติน คือฮอร์โมนแห่งการเสียสละของแม่โดยแท้จริง
เครดิต: ศาสตราจารย์ ดร.นทีทิพย์ กฤษณามระ หน่วยวิจัยด้านแคลเซียมและกระดูก ภาควิชาสรีรวิทยา
อ่านเพิ่มเติม คลิก!