มีคำถามที่สงสัยกันว่า แม่ท้อง กินวิตามินเสริมความงามได้ไหม เพราะยังอยากกินพวกวิตามิน และคอลลาเจนเสริมความงามต่อเนื่อง เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อลูกน้อย ซึ่งความจริงแล้วเป็นความคิดที่ผิดค่ะ ดังนั้น เรามาดูกันว่าแม่ท้องควรจะกินวิตามินเสริมความงามเหล่านี้หรือไม่ และวิตามินที่ควรกินคืออะไรบ้าง
แม่ท้อง กินวิตามินเสริมความงามได้ไหม
-
วิตามินเสริมความงาม ไม่เหมาะกับแม่ท้อง
ผู้หญิงส่วนใหญ่พอท้องแล้วจะกังวลกลัวว่าความสวยจะลดลง แต่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือสารเสริมความงามทั้งหลายมีที่มาแตกต่างกัน ดังนั้น การรับรองเรื่องความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกตัวที่มีในท้องตลาดจึงทําได้ยากสูติแพทย์จึงไม่ค่อยอยากให้คุณแม่ตั้งครรภ์กินผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เพราะในอดีตเคยมีรายงานที่อ้างถึงการปนเปื้อนของกระบวนการผลิตในผลิตภัณฑ์จำพวกนี้และหากสิ่งปนเปื้อนเป็นพวกสารโลหะหนักหรือสารพิษ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาอวัยวะต่างๆ ของลูกน้อยขณะอยู่ในท้องได้ค่ะ ซึ่งแต่ละวิตามินเสริมก็จะส่งผลร้ายต่อลูกในท้อง ดังนี้
1. วิตามินเอและวิตามินบี ถ้าใช้ในปริมาณมากจะเกิดความพิการของไต ระบบขับถ่ายปัสสาวะ ระบบประสาทแต่กำเนิดได้ จึงไม่ควรได้รับมากกว่าจำนวนที่แพทย์สั่ง
2. วิตามินซี ถ้าได้รับมากเกินไป อาจทำให้เด็กในครรภ์คลอดออกมาเป็นโรคเลือดออกตามไรฟันได้ ในบางรายอาจทำให้เด็กในครรภ์มีโอกาสพิการตั้งแต่กำเนิด
3. วิตามินดี ถ้าคุณแม่ได้รับมากเกินไป จะทำให้เกิดความผิดปกติในระบบหลอดเลือดของทารก และอาจทำให้ทารกปัญญาอ่อนได้
ดังนั้น สรุปว่าในขณะตั้งครรภ์คุณแม่ควรงดกินวิตามินเสริมความงามทุกชนิด เพราะทุกอย่างไม่ได้มีการรับรองความปลอดภัยที่แน่ชัด ตลอดจนสารอาหารเหล่านั้น กลับจะทำอันตรายต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยได้อีกด้วย ส่วนเรื่องความสวยงามขณะตั้งครรภ์คุณแม่ก็ไม่ควรกังวลใจเกินไป เพราะทุกอย่างเกิดจากการฮอร์โมนในร่างกาย เพียงกินอาหารให้ครบถ้วน ดูแลผิวพรรณ ป้องกันแสงแดด พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้แจ่มใส กายใจของคุณแม่ก็สวยงามน่ารักได้ดังเดิมค่ะ
ส่วนคุณแม่ที่ตั้งครรภ์มีความจําเป็นต้องได้รับวิตามินเสริมตัวไหนบ้างนั้น ส่วนใหญ่ที่แนะนำและสําคัญที่สุดมีเพียงกรดโฟลิก แคลเซียม และธาตุเหล็กที่จําเป็นต้องได้รับเพิ่มขึ้นมาเท่านั้น เพราะอาหารที่กินแต่ละวันอาจไม่เพียงพอต่อการชดเชยให้คุณแม่ที่ต้องถูกดึงสารอาหารดังกล่าวไปใช้ในกระบวนการพัฒนาอวัยวะที่สําคัญของลูก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
-
คำแนะนำในการกินวิตามิน
มีคำแนะนำในการกินวิตามินและสารอาหารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มาฝากค่ะ เพื่อที่คุณแม่จะได้สามารถเลือกกินวิตามินที่จําเป็นต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ และหลีกเลี่ยงวิตามินที่เป็นอันตรายได้ถูกต้อง
-
กรดโฟลิก “จำเป็นมาก”
กรดโฟลิกมีความสําคัญในช่วงก่อนการตั้งครรภ์และการตั้งครรภ์ระยะ 3 เดือนแรก เพราะจะช่วยลดการเกิดความพิการที่เกี่ยวกับระบบประสาทและไขสันหลัง การกินกรดโฟลิกเพิ่มเติมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ควรอยู่ในปริมาณตั้งแต่ 0.4-4 มิลลิกรัม และกรดโฟลิกยังเป็นสารอาหารที่พบได้ในธัญพืช ข้าวกล้อง และผักสด แต่หากได้รับมากเกินไปก็ไม่มีการสะสมในร่างกายเพราะร่างกายสามารถขับออกได้ค่ะ
ติดตาม คำแนะนำในการกินวิตามิน คลิกต่อหน้า 2
2. วิตามินซี “ขอแค่พอดี”
มีคําถามเกี่ยวกับวิตามินซีเยอะมากคุณแม่บางท่านเคยกินวิตามินชนิดนี้ก่อนตั้งครรภ์ในขนาด 500-1,000 มิลลิกรัมก็จะถามหมอว่ายังสามารถกินต่อได้ไหมซึ่งที่จริงแล้วคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการวิตามินซีในปริมาณเพิ่มขึ้นจากปกติแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ คือ 80-85 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะการได้รับวิตามินซีในขนาดสูงๆ หรือมากเกินไปจะไปรบกวนสารอาหารที่จําเป็นตัวอื่นๆ เช่น วิตามินบี 12 ทําให้ดูดซึมได้น้อยลงซึ่งวิตามินบี 12 ก็มีความสําคัญต่อการพัฒนาระบบประสาทและไขสันหลังของทารกเหมือนกับกรดโฟลิกเช่นกัน
ดังนั้น แค่กินผักและผลไม้เพิ่มขึ้นก็ได้รับวิตามินซีเพิ่มเพียงพอแน่นอน ไม่จําเป็นต้องกินวิตามินซีเสริมถึง 500-1,000 มิลลิกรัมให้เสี่ยงต่อผลกระทบของวิตามินบี 12 แถมการกินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจะช่วยลดอาการแพ้ท้องให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ได้อีกด้วยค่ะ
3. แคลเซียม “มีประโยชน์”
เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างกระดูกและฟันของลูกน้อย คุณแม่จึงควรได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอในขณะตั้งครรภ์ โดยบางครั้งคุณหมอที่ฝากครรภ์อาจจะให้แคลเซียมเสริมแก่คุณแม่ได้ แต่คุณแม่ก็สามารถเลือกทานอาหารที่มีแคลเซียมในแต่ละวันให้เพียงพอ จาก นม ผักใบเขียว ผลิตภัณฑ์จากถั่ว ปลาเล็กปลาน้อย ได้เหมือนกันค่ะ
4. ธาตุเหล็ก “ขาดไม่ได้”
ธาตุเหล็กจำเป็นต่อการสร้างฮีโมโกลบิน ซึ่งช่วยนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย คุณแม่จึงควรได้รับอย่างเพียงพอจากอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ตับ ไข่แดง ตำลึง ถั่ว งา และอื่นๆ ซึ่งในขณะตั้งครรภ์ร่างกายคุณแม่จะต้องการธาตุเหล็กสูงมาก ทำให้บางครั้งเมื่อคุณหมอเจาะเลือดหรือตรวจสุขภาพแล้วพบว่าคุณแม่มีภาวะซีดก็อาจจะให้คุณแม่กินวิตามินที่เป็นธาตุเหล็กเสริมได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ติดตาม สิ่งสําคัญที่สุดของคุณแม่ตั้งครรภ์เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์แข็งแรงปลอดภัย คลิกต่อหน้า 3
5. วิตามินเอ “หยุดเมื่อตั้งครรภ์”
เป็นวิตามินอีกชนิดหนึ่งที่มีปริมาณค่อนข้างสูงในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งมีรายงานวิจัยที่รับรองแล้วว่าในกลุ่มประชากรหญิงไทยที่มีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์สมส่วนไม่มีการขาดวิตามินเอจนต้องมีการให้วิตามินเสริมแต่อย่างใด
ถ้าหากคุณแม่ที่กินวิตามินเออยู่พอตั้งครรภ์ขอแนะนําให้หยุดทันที เพราะการกินวิตามินเอขนาดสูงถึง 10,000-50,000IU ต่อวันจะทําให้ทารกเกิดความพิการได้เช่นเดียวกับคุณแม่ที่กินยารักษาสิวกลุ่มโรแอคคิวเทน (Roaccutane) หรือไอโสเตรติโนอิน (Isotretinoin)
สิ่งสําคัญที่สุดของคุณแม่ตั้งครรภ์เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์แข็งแรงปลอดภัยนั่นคือ
- กินกรดโฟลิกในช่วงก่อนตั้งครรภ์จนถึงช่วง 3 เดือนแรก
- จากนั้นกินวิตามินที่มีธาตุเหล็กและกรดโฟลิกร่วมกันต่อเนื่องไปจนครบ 9 เดือนของการตั้งครรภ์
- กินอาหารให้ครบ5หมู่ เน้นกินผัก และผลไม้
- ดื่มนมที่มีปริมาณแคลเซียมให้พอเหมาะ
- ปรุงอาหารด้วยเกลือที่มีธาตุไอโอดีนให้มีรสชาติพอดี
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้เพิ่มอย่างเหมาะสมประมาณ12-15 กิโลกรัม
เพียงเท่านี้ก็ทําให้ลูกน้อยของคุณแม่ได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอแน่นอนแล้วค่ะ เพราะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มีเพียงกรดโฟลิก แคลเซียม และธาตุเหล็กที่จําเป็นต้องได้รับเพิ่มขึ้นมาเท่านั้น เนื่องจากสารอาหารเหล่านี้คุณแม่อาจได้รับไม่เพียงพอจากอาหารที่กินแต่ละวันเนื่องจากสารอาหารดังกล่าวจะถูกดึงไปใช้เพื่อการพัฒนาอวัยวะสําคัญของลูกน้อยนั่นเอง
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
- 9 เรื่อง การเสริมสวยที่แม่ท้องควรรู้
- อะโวคาโด ผลไม้มากคุณค่า เพื่อสุขภาพคุณแม่ท้องและสมองของลูกน้อย
- ท่านอนที่ดีที่สุดสำหรับแม่ท้อง และเคล็ดลับที่จะช่วยให้แม่ท้องหลับสบายตลอดคืน
ข้อมูลโดย: นาวาตรี พญ.ณัฐยา รัชตะวรรณ สูตินรีแพทย์ประจําศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่