อาหารการกินเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณแม่หลายคนสนใจและเอาใจใส่ คุณแม่มักจะเริ่มคิดว่าเราควรจะกินอะไรดีที่จะมีประโยชน์ต่อลูกน้อยในครรภ์ กินอะไรที่ลูกออกมาแล้วจะฉลาด แข็งแรง และมีร่างกายสมบูรณ์
และไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่คุณแม่เคยได้ยินมาจากการบอกเล่าว่ากินแล้วจะช่วยบำรุงครรภ์ได้ดี ก็จะเที่ยวไปหามากินจนได้ไม่ว่าจะยากแค่ไหน ราคามากน้อยเท่าไหร่ก็ยอมกัดฟันซื้อมากิน ซึ่งบางทีก็มาจากความเชื่อที่ผิดบ้างถูกบ้าง และบางทีคุณแม่ก็ไม่ได้รู้สึกเอร็ดอร่อยกับอาหารเหล่านั้นเลยสักนิด แต่ก็ต้องฝืนใจกินเพื่อลูก
อาหารที่แม่ได้รับจะส่งผลต่อสุขภาพของลูกอย่างไร
- การพัฒนาของสมองและระบบประสาทหลังจากปฏิสนธิในระยะนี้สมองของลูกน้อยจะเจริญเติบโตเร็วมาก จึงต้องการสารอาหารที่จำเป็นทั้งโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ต่าง ๆ เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสม
- การพัฒนาของร่างกายสารอาหารที่ได้รับจากแม่มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับการเจริญเติบโตของลูกน้อย เช่น กรดโฟลิกช่วยป้องกันความพิการของลูกน้อย โปรตีนช่วยสร้างกล้ามเนื้อ แคลเซียมและวิตามินดีช่วยให้กระดูกแข็งแรง เป็นต้น
- อารมณ์และจิตใจลูกน้อยที่เกิดจากแม่ที่ได้รับอาหารที่มีประโยชน์และสมบูรณ์จะมีอารมณ์แจ่มใส ร่าเริง ยิ้มง่าย ไม่เซื่องซึม เมื่อเทียบกับลูกที่เกิดจากแม่ที่ขาดสารอาหาร
- สุขภาพในระยะยาวอาหารที่คุณแม่ได้รับก่อนการตั้งครรภ์และในระหว่างตั้งครรภ์มีผลต่อการพัฒนาของลูกน้อยในช่วงที่เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ถ้าคุณแม่ได้รับอาหารอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ โอกาสที่ลูกจะเกิดมาแล้วเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง รวมทั้งมะเร็งต่าง ๆ ก็มีน้อยลงตามไปด้วย
ในระหว่างตั้งครรภ์ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญต่างๆ ย่อมมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพทารกและคุณแม่ได้ดีทั้งสิ้น Amarin Baby & Kids จึงนำ 18 สารอาหารที่สำคัญต่อทารกในครรภ์และคุณแม่มาฝาก มีสารอาหารใดบ้าง มาดูกันค่ะ
- โปรตีน
เป็นสารอาหารหลักที่ร่างกายได้รับจากอาหารประเภทเนื้อสัตว์ โปรตีนมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของสมอง ถ้าลูกได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ จะทำให้สมองมีขนาดเล็กกว่าปกติ มีมากในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ทุกชนิดและผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ เช่น ปลา นม ไข่ ฯลฯ
รวมถึงถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ นมถั่วเหลือง เป็นต้น เหมาะสำหรับแม่ท้องทุกไตรมาส เพราะโปรตีนเป็นสารอาหารหลักสำหรับร่างกายในการสร้างและเพิ่มขนาดเซลล์ สร้างน้ำนม เพิ่มปริมาตรเลือด สร้างน้ำย่อย สร้างภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ โปรตีนจึงจำเป็นต่อแม่ท้องและลูกน้อยตั้งแต่แรกปฎิสนธิจนถึงกำหนดคลอด
- คาร์โบไฮเดรต
เมื่อร่างกายย่อยอาหารประเภทแป้งแล้ว จะเปลี่ยนเป็นกลูโคสหรือน้ำตาลที่มีขนาดเล็กที่สุด เพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้แก่ร่างกาย และเป็นอาหารที่จำเป็นของสมองของลูก พบในข้าว ขนมปัง ธัญพืช พาสตา ผลไม้ น้ำตาล และน้ำผลไม้สด
เหมาะสำหรับแม่ท้องไตรมาสที่ 1 เพราะหากแม่ท้องไตรมาสแรกมีอาการแพ้จากการตั้งครรภ์เนื่องจากฮอร์โมนไม่สมดุล คาร์โบไฮเดรตจะเป็นสารอาหารที่กินง่าย ย่อยง่าย เพียงสัมผัสกับ amylase ที่มีในน้ำลาย ก็ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมกลูโคสได้แล้ว เสริมพลังให้แม่ท้องได้ง่ายๆ
- กรดโฟลิค (โฟเลต)
การทานอาหารที่มีกรดโฟลิค ในขณะที่ตั้งครรภ์ จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับทารกในครรภ์ เนื่องจากกรดโฟลิคมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับเด็กทารกตั้งแต่แรกเกิด การทานกรดโฟลิคควรที่จะเริ่มรับประทานตั้งแต่ช่วงการตั้งครรภ์ 2-3 เดือนก่อนคลอด และระหว่างการตั้งครรภ์ช่วง 12 สัปดาห์แรก เนื่องจากเป็นงช่วงที่คุณแม่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับเป็นอย่างมาก
ดังนั้นการทานอาหารให้ครบห้าหมู่ และมีประโยชน์กับร่างกาย พร้อมทั้งรับประทานกรดโฟลิคด้วย ก็จะยิ่งช่วยให้การตั้งครรภ์สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น คุณแม่สามารถทานอาหารที่มีกรดโฟลิคอยู่สูงมากมาทานได้ก็เช่น ผักที่มีสีเขียว เช่น บร็อกโคลี่ กะหล่ำปลี ฝักถั่ว และเมล็ดถั่ว และผลไม้อย่างส้ม เป็นต้น
- โอเมก้า 3
ขณะที่ตั้งครรภ์คุณแม่ควรได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 เพราะมีสารที่ช่วยให้ระบบประสาทของทารกพัฒนาไปได้ด้วยดี และช่วยป้องกันโรคหัวใจในคุณแม่อีกด้วยปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล และปลาแซลมอน ปลาเหล่านี้จะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่สูงมากๆ แต่การทานไม่ควรที่จะทานมากไปกว่า 2 ส่วนต่อสัปดาห์ เพราะในเนื้อปลาจะมีสารปรอทอยู่ด้วย หากทานมากในปริมาณที่มากไป อาจส่งผลกระทบกับทารกในครรภ์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้กรดไขมันโอเมก้า 3 ยังมีในเมล็ดพืชต่างๆ เช่น เมล็ดฟักทอง ถั่วเหลือง การทานก็ให้ทานอยู่ที่ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน เท่านี้ก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้ว
อ่านต่อ >> “สารอาหารเพื่อสุขภาพที่จำเป็นกับแม่ท้องและลูกในครรภ์” คลิกหน้า 2
- แคลเซียม
การทานแคลเซียมในคุณแม่ตั้งครรภ์ มีส่วนที่สำคัญอย่างมาก ในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ควรได้รับแคลเซียมปริมาณ 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน ถึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ยิ่งโดยเฉพาะแคลเซียมจะมีส่วนสำคัญในการสร้างกระดูกและฟัน ป้องกันโรคกระดูกพรุนในคุณแม่อีกด้วย แหล่งของแคลเซียมที่จะได้จากอาหาร เช่น นม โยเกริต์ เนย ไข่แดง ผักใบเขียว และธัญพืชต่างๆ
- ธาตุเหล็ก
ในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ธาตุเหล็กถือเป็นสารอาหารหลักที่ร่างกายต้องการเป็นอย่างมากและก็ต้องการตลอดทั้งช่วงการตั้งครรภ์ ธาตุเหล็กคือสารสำคัญในการช่วยให้ออกซิเจนไหลเวียนไปกับเม็ดเลือดแดง และยังจำเป็นต่อการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์อีกด้วย แหล่งอาหรที่มีธาตุเช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ปลา ผักใบเขียว ฯลฯการธาตุเหล็กหากต้องการให้ร่างกายได้ดูดซึมดีขึ้น ควรที่จะทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงๆ ไปพร้อมกันด้วยคะ
- ไอโอดีน
สารที่มีความสำคัญกับพัฒนาการทางสมอง ระบบประสาทและด้านความจำ หากคุณแม่ตั้งครรภ์ขาดไอโอดีนก็จะส่งผลต่อระดับสติปัญญาทารกในครรภ์ได้ นอกจากนี้ หากคุณกินไอโอดีนอย่างเพียงพอก็จะช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น สำหรับแหล่งที่พบได้แก่ อาหารทะเลและเกลือเสริมไอโอดีน
- สังกะสี
เป็นแร่ธาตุที่จะช่วยด้านการเจริญเติบโตของทารก สร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย บำรุงเส้นผมและผิวหนังให้มีสุขภาพแข็งแรง แหล่งที่พบได้แก่ ไข่แดง เนื้อสัตว์ ข้าวซ้อมมือ งา ถั่ว เมล็ดฟักทอง ผักกาด ลูกเกด กล้วยหอมและอะโวคาโ
- แคลเซียม
มีบทบาทในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยให้การทำงานของระบบกล้ามเนื้อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แหล่งที่พบได้แก่ นม เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากนม กุ้งแห้ง ปลาเล็กปลาน้อยและผักใบเขียวเข้ม
- วิตามิน A
เป็นวิตามินที่มีส่วนช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน โดยเฉพาะคุณแม่ที่ให้นมบุตร วิตามินเอนับเป็นส่วนประกอบสำคัญต่อการผลิตน้ำนมอย่างมากทีเดียว สำหรับแหล่งที่พบได้แก่ นม ไข่ ตับ ผักผลไม้สีเหลืองส้มและผักสีเขียวเข้ม
- วิตามิน B1
วิตามินที่จะช่วยเติมพลังงานให้กับร่างกาย และยังช่วยควบคุมระบบประสาท แหล่งที่พบได้แก่ ไข่ เครื่องในสัตว์ จมูกข้าวสาลี ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีและถั่วชนิดต่างๆ
อ่านต่อ >> “สารอาหารเพื่อสุขภาพที่จำเป็นกับแม่ท้องและลูกในครรภ์” คลิกหน้า 3
- วิตามิน B2
วิตามินที่ช่วยในด้านการเจริญเติบโตของร่างกายและช่วยพัฒนาสมองไปพร้อมๆ กัน สำหรับแหล่งที่พบ ได้แก่ สัตว์ปีก เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม กล้วย และธัญพืชหลากชนิด
- วิตามิน B6
ช่วยในการเสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยสร้างสารที่มีความข้องเกี่ยวกับการทำงานของระบบประสาทและสมองสำหรับทารก สำหรับตัวคุณแม่นั้น วิตามินบี 6 ยังช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ แหล่งที่พบได้แก่ เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ ตับ แครอท ถั่วเหลือง กะหล่ำปลี กล้วยหอม ถั่วต่างๆ และข้าวกล้อง
- วิตามิน B12
เป็นวิตามินที่จะช่วยให้ระบบประสาทและสมองสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ สำหรับแหล่งที่พบ ได้แก่ กล้วยหอม ไข่ นม ตับและเนื้อสัตว์
- วิตามิน C
จะช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรงได้มากขึ้นด้วย แหล่งอาหารที่พบได้แก่ ผักใบเขียว ผลไม้รสเปรี้ยว พริกหวาน มันฝรั่ง มะละกอ มะเขือเทศ และกะหล่ำดอก เป็นต้น
- วิตามิน D
เป็นวิตามินที่ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมและฟอฟฟอรัสได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้กระดูกและฟันแข็งแรงมากขึ้นด้วย สำหรับแหล่งของวิตามิน D ได้แก่ ไข่ นม ปลาที่มีไขมันมาก โดยเฉพาะปลาทูและปลาแซลมอน นอกจากนี้ ในแสงแดดอ่อนๆ ก็เป็นแหล่งของวิตามิน D ด้วยเช่นเดียวกัน
- วิตามิน E
วิตามินที่จำเป็นกับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และช่วยส่งเสริมพัฒนาการที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อทารก แหล่งอาหารที่พบได้แก่ เมล็ดทานตะวัน ผักใบเขียวชนิดต่างๆ น้ำมันพืช ถั่ว จมูกข้าวสาลีและอะโวคาโด
- น้ำสะอาด
การดื่มน้ำสะอาดบริสุทธิ์ในระหว่างการตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่ดีที่สุด รวมทั้งน้ำผลไม้คั้นสด 100% เพราะเลือดและสารน้ำในร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์จะเพิ่มขึ้นในปริมาณมาก คุณแม่จึงต้องดื่มน้ำให้มากและเพียงพอในทุก ๆ วัน
………………………………………………………….
สารอาหารหลักระหว่างตั้งครรภ์ ของคุณแม่นั้นนอกจากข้อมูลข้างต้นแล้ว ก็ยังมีสารอาหารตัวอื่นๆ อีก ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับทางคุณหมอว่าคุณแม่ควรที่จะทานตัวไหนเพิ่มเป็นพิเศษ แต่การทานอาหารในระหว่างตั้งครรภ์ ประโยชน์ที่ดีที่สุดก็น่าจะเป็นการทานอาหารให้ครบห้าหมู่ และต้องทานในปริมาณที่มากเดิม เนื่องจากจะต้องทานเผื่อลูกน้อยในครรภ์ด้วย นอกจากนี้ควรที่จะพักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจ และร่างกายให้สดชื่นอยู่ตลอดเวลา ก็จะช่วยให้การตั้งครรภ์สมบูรณ์ และประสบความสำเร็จคะ
อยากให้ทารกในครรภ์มีกระบวนการเจริญเติบโตที่ดีขึ้น ทั้งทางสุขภาพและมีพัฒนาการทางสมองที่ดีเยี่ยม แถมยังช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงทั้งแม่และลูก อย่าพลาดรับประทานอาหารที่ดีเหล่านี้กันทุกวันนะคะ
อขอบคุณข้อมูลจาก : women.sanook.com , beautifulstarthere.com