AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ลำไย ผลไม้มากประโยชน์ แม่ท้องกินได้ แม่หลังคลอดกินดี

คุณแม่รู้หรือไม่ว่า ลำไย มีประโยชน์มากแค่ไหน นอกจากจะเป็นผลไม้ที่กินอร่อยแล้ว คุณแม่ควรรู้ด้วยว่าร่างกายแบบไหนเหมาะกับการกินลำไย แบบไหนต้องกินอย่างระมัดระวัง และแบบไหนไม่ควรกินเลย เพื่อให้ได้รับประโยชน์ที่เต็มที่และคุ้มค่ากับผลไม้ชนิดนี้

ลำไย ผลไม้มากประโยชน์ แม่ท้องกินได้ แม่หลังคลอดกินดี

ลำไย จัดเป็นไม้ผลกึ่งเมืองร้อน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dimocarpus longan Lour. มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนตอนใต้และอินเดีย เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 9-12 เมตร และในความเป็นจริงแล้วลำไยมีอยู่หลายสายพันธุ์ด้วยกัน แต่ที่นิยมปลูกในบ้านเราก็แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ คือ

1.ลำไยต้น เป็นพันธุ์ที่ปลูกเพื่อนำผลมาใช้บริโภค และพันธุ์ที่นิยมปลูกกัน คือ พันธุ์อีดอ, เบี้ยวเขียว, สีชมพู, กะโหลกแห้ว, ใบดำ และพันธุ์พื้นเมือง

2.ลำไยเครือ เป็นพันธุ์ที่ปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือนหรือตามสถานที่ต่างๆ

ลำไยเป็นไม้ที่ให้ผลเป็นช่อ  อาจมีขนาดเล็กถึงใหญ่  ส่วนเนื้อในมีสีขาวใสหรือสีชมพูอ่อนๆ มีรสหวานจัด และให้ผลผลิตที่ยาวนาน เริ่มออกช่อ ติดดอก ติดผล และให้ผลผลิต ช่วงประมาณเดือน มีนาคม – กันยายน

อีกทั้งลำไยยังถือเป็นทั้งอาหารและยา ที่กินสด กินแห้งก็ได้ ทำขนมก็ได้ เป็นยาก็ใช้ดี แล้วยังสามารถนำมาแปรรูปได้ด้วย เช่น ลำไยกระป๋อง, ลำไยแช่แข็ง และลำไยอบแห้งเพื่อเก็บไว้กินได้นานๆ ทำเป็นไวน์ลำไย หรือนำมาปรุงเป็นขนมหวาน เช่น ข้าวเหนียวเปียกลำไย ก็มีรสชาติอร่อยเช่นกัน

นอกจากการนำมาเป็นอาหารแล้ว ตามตำราการแพทย์แผนไทยยังมีการนำเอาส่วนประกอบต่างๆ ของลำไยใช้เป็นยารักษาโรคอีกด้วย

เนื่องจาก ลำไย เป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์อุ่นค่อนไปทางร้อน จึงช่วยเสริมม้ามบำรุงหัวใจระงับประสาท จึงเหมาะสำหรับคนที่ครุ่นคิดและกังวลมากเกินไป ขี้หลงขี้ลืม เมื่อกังวลมากจะทำร้ายม้าม ม้ามเป็นอวัยวะที่มีวัตถุดิบในการสร้างเลือด เมื่อม้ามทำงานไม่ดี การสร้างเลือดไม่ดีตามไปด้วย กระทบถึงตับ ตับเป็นอวัยวะเก็บเลือด เลือดตับน้อย ทำให้นอนไม่หลับ

ซึ่งสมัยก่อนมีคำโบราณสอนว่า “กินลำไยช่วยให้จิตวิญญาณแข็งแรง ฉลาดหลักแหลม แก่ช้า หูตาสดใส” แสดงว่า ลำไยนอกจากบำรุงหัวใจ ยังช่วยบำรุงทั้งไต ตับและสมองด้วย จึงเหมาะกับคนที่นอนไม่หลับ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบตื่นตอนตี 1-3 เป็นประจำ

อ่านต่อ >> สารอาหารและประโยชน์ที่มีอยู่ในผลลำไย” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

สารอาหารที่มีอยู่ในผลลำไย

ประกอบด้วย วิตามิน และแร่ธาตุมากมาย แต่ก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น คาร์โบไฮเดรส  โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม โพเทสเซียม ทองแดง ธาตุเหล็ก วิตามินซี วิตามินบี 12 เป็นต้น

คุณค่าทางโภชนาการของลำไย ประกอบด้วย

พลังงาน 71 แคลอรี

ไขมัน 1.4 กรัม

คาร์โบไฮเดรต 15.6 กรัม

เส้นใยอาหาร 0.3 กรัม

โปรตีน 1 กรัม

แคลเซียม 23 มิลลิกัรม

ฟอสฟอรัส 36 มิลลิกรัม

เหล็ก 0.4 มิลลิกรัม

ไนอะซิน 0.3 มิลลิกรัม

วิตามินบี 1 0.03 มิลลิกรัม

วิตามินบี 2 0.14 มิลลิกรัม

วิตามินซี 56 มิลลิกรัม

ลำไยมีประโยชน์มากขนาดนี้กินมากเท่าไรจึงพอเหมาะ?

สำหรับ ลำไย การกินมีค่าเท่ากับ 1 ส่วน ซึ่งถ้าเป็นผลใหญ่ก็จะได้ประมาณ 6 ผล ผลเล็ก 10 ผล กล่าวคือ ถ้าจะกินแต่ลำไยเพียงอย่างเดียวตามสัดส่วนที่กำหนดในหนึ่งวัน ก็ไม่ควรเกิน  30 ลูกใหญ่ 50 ลูกเล็ก แต่ในความเป็นจริงถ้ากินมากขนาดนี้จะร้อนมาก และในทางการแพทย์แผนไทยเราไม่แนะนำให้กินอย่างเดียว  ควรกินผลไม้อย่างอื่นด้วย  สมมุติว่าเรามีชมพู่  เงาะ สับปะรด  ลำไย ในตู้เย็นก็ควรกินทุกอย่างดังนี้คือ ชมพู่ 2 ลูก เงาะ 1 ลูก สับปะรด 6 ชิ้น และลำไย 12 ลูก (2 ส่วน) เป็นต้น

จะได้ผลไม้ทั้งหมดนี้ เท่ากับ 5 ส่วนของอาหาร ถ้าต้องการลดความอ้วน วันนั้นก็ควรกินข้าวสวยให้น้อยลง  เช่น  ควรกินไม่เกิน 4 ทัพพี เป็นต้น นี่คือคนปกติกิน คนเป็นเบาหวานก็ให้ลดปริมาณลง หันมากินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวแทน ถ้าต้องการกินลำไยก็ไม่ควรเกิน 6 ลูก ถ้าอยากกินก็ต้องลดข้าวลง

สรุปคือ ลำไยสด กินได้ประมาณ 5-10 เม็ด ส่วนลำไยแห้ง 2-3 เม็ด แต่ทั้งนี้ยังต้องขึ้นกับร่างกายของแต่ละคน บางคนกินลำไยสดเป็นกิโลยังไม่เป็นไร บางคนกินเม็ดสองเม็ดก็ร้อนในแล้ว จึงต้องแล้วแต่ร่างกายของแต่ละคน

ผู้ที่ไม่ควรกินลำไย คือ

1.เป็นขี้คนร้อน แสดงอาการที่กลัวร้อน ชอบกินของเย็นๆ กระหายน้ำ หน้าแดง หงุดหงิดง่าย ปัสสาวะเข้มน้อย

2.มีธาตุหยินพร่องไฟมาก แสดงอาการที่โมโหง่าย คอแห้ง ถ่ายแข็ง นอนไม่หลับ เหงื่อออกกลางคืน มือเท้าร้อน ปัสสาวะเข้มน้อย ปวดหลังเมื่อยเข่า แก้มแดง

3.คนที่มีอาการ ชไอ หอบ หลอดลมอักเสบ และสตรีตั้งครรภ์

อ่านต่อ >> “ประโยชน์ของลำไย ต่อแม่ท้องและแม่หลังคลอด” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

√ 30 ประโยชน์ของ “ลำไย” ที่คุณแม่ห้ามพลาด!

1. น้ำลำไยช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย มีธาตุเหล็ก ซึ่งช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลียของร่างกาย

2. ใช้ทำเป็นอาหารก็ได้ เช่น ข้าวเหนียวเปียกลำไย ลำไยลอยแก้ว วุ้นลำไย เป็นต้น และสามารถนำมาแปรรูปได้หลากหลาย เช่น การบรรจุกระป๋อง ลำไยอบแห้ง น้ำลำไย เป็นต้น

3. ลำไยเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูงมาก เนื่องจากมีน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตในปริมาณมาก

4. ลำไยมีวิตามินซี ที่มีส่วนช่วยการบำรุงผิว และเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับ ลำไยอบแห้ง ซึ่งมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง

5. ลำไยมีวิตามินบี12 ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง

6.ลำไยมีธาตุแคลเซียมสูง มีส่วนช่วยในเรื่องของกระดูกและฟันให้แข็งแรง

7. ลำไยมีธาตุฟอสฟอรัส ที่มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดจากข้ออักเสบได้

8. ลำไยมีธาตุโซเดียม ช่วยให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้อย่างเป็นปกติ

9. ลำไยมีธาตุโพแทสเซียม ที่มีช่วยให้มีสติปัญญา จิตใจร่าเริงแจ่มใสได้ โดยการส่งออกซิเจนไปเลี้ยงที่สมอง

10. ลำไยมีแร่ธาตุทองแดง ที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายมีพลังงาน โดยการช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ

11. ช่วยให้หลับสบายและช่วยในการเจริญอาหาร

12. ช่วยรักษาอาการหวัด ด้วยการนำใบมาชงกับน้ำร้อนดื่ม

13. ช่วยรักษาโรคมาลาเลีย ด้วยนำใบสดประมาณ 20 กรัม น้ำ 2 แก้วผสมเหล้าอีก 1 แก้ว นำมาต้มรวมกันให้เดือดจนเหลือน้ำ 1 แก้วแล้วนำมากิน

14. ช่วยรักษาแผลเน่าเปื่อย บรรเทาอาการคัน ด้วยนำเมล็ดไปเผาให้เป็นเถ้าแล้วนำมาทา รวมไปถึงแผลหกล้ม โดนมีดบาก ด้วยการใช้เมล็ดบดเป็นผงแล้วนำมาพอกห้ามเลือด จะช่วยแก้ปวดได้ด้วย แต่ต้องเอาเปลือกสีดำออกก่อน

15. ช่วยรักษาอาการท้องร่วง ด้วยการนำเปลือกของต้นที่มีสีน้ำตาลอ่อนใช้ต้มเป็นยา

16. ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการนำใบลำไยมาชงกับน้ำร้อนดื่ม

17. แก้ปัญหาอาการตกขาว ด้วยการนำรากมาต้มน้ำหรือเคี้ยวให้ค้นผสมกิน

18.ช่วยขับพยาธิเส้นด้าย ด้วยการนำรากมาต้มน้ำหรือเคี้ยวให้ค้นผสมกิน

19. ช่วยรักษาปัสสาวะขัด ด้วยการนำเมล็ดมาทุบให้แตกแล้วต้มน้ำกิน แต่ต้องลอกเปลือกสีดำออกก่อน

20. ดอกลำไยใช้เป็นยาขับปัสสาวะ สลายก้อนนิ่วในไตได้

21. แก้อาการวิงเวียนศีรษะอ่อนเพลียสำหรับคุณแม่ท้อง เพิ่มความสดชื่น ด้วยนำเปลือกผลที่แห้งแล้วมาต้มน้ำกิน

22. ช่วยแก้โรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับหนอง ด้วยการนำใบสดประมาณ 20 กรัมไปต้มกับน้ำดื่ม

23. ช่วยรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการนำเปลือกผลที่แห้งแล้วมาเผาเป็นเถ้าหรือบดให้เป็นผงแล้วนำมาโรยที่บาดแผล

24. ช่วยรักษากลากเกลื้อน ด้วยการใช้เมล็ดชุบน้ำส้มสายชูที่หมักด้วยข้าวแล้วนำมาถู แต่ทั้งนี้ต้องลอกเปลือกสีดำออกก่อน

25. เป็นยาบำรุงม้ามเลือดลมหัวใจ บำรุงร่างกาย นอนไม่หลับ อาการอ่อนเพลีย ด้วยนำเนื้อหุ้มเมล็ดมาต้มน้ำกินหรือนำมาแช่กับเหล้า

26. ช่วยลดอนุมูลอิสระในเม็ดเลือดขาว

27. ลำไยมีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ได้

28. มีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตอาจนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง เพราะไม่มีผลข้างเคียง จะทำให้ลดขนาดการใช้ยาหรือเคมีบำบัดลงได้มาก

29. เนื้อไม้สีแดงของต้นลำไย มักนิยมนำมาใช้เป็นเครื่องประดับได้

30. หลังคลอดกินลำไยดี เพราะหลังคลอดเสียเลือดมาก ร่างกายอ่อนแอ กลัวหนาวกินลำไยจึงเหมาะมาก นำลำไยแห้ง 10 เม็ด ข้าวสาลี 10 กรัม น้ำตาลแดง 2 ช้อนชา ต้มน้ำดื่ม ส่วนข้าวสาลีกินได้

ข้อควรระวัง! กับการกินลำไย ของแม่ท้อง

ทั้งนี้คุณแม่ท้อง ต้องระมัดระวังเรื่องการกินผลไม้จำพวกที่มีรสหวานอย่างลำไยนี้เป็นพิเศษ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ได้  โดยเฉพาะผลไม้อย่างทุเรียนและลำไยนั้น สร้างความอยากรับประทานให้แก้หญิงมีครรภ์ แต่ก็มักมีคำถามว่าหญิงมีครรภ์สามารถทานทุเรียนและลำไยได้หรือไม่ จะส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์หรือไม่อย่างไรนั้น  อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ นักโภชนาการแถวหน้าของเมืองไทยให้ความรู้ในเรื่องนี้ว่า ปกติผลไม้จะมีอยู่ 3 ประเภทคือ 1. หวานน้อย 2. หวานปานกลาง 3. หวานจัด

ซึ่งทุเรียนและลำไยเป็นผลไม้ที่มีรสหวานจัด ในระหว่างตั้งครรภ์หากทานทุเรียนและลำไยในปริมาณที่สูง โอกาสที่แม่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีผลต่อการสะสมไขมันในร่างกายสูง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อลูกได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นคุณแม่ท้องสามารถทานทุเรียนกับลำไยได้ แต่ให้ทานสลับกับผลไม้ที่มีรสหวานน้อยและหวานปานกลาง เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล ชมพู่ แก้วมังกร ส้มโอ ส้ม กล้วยน้ำว้า ควรนผลไม้ให้หลากหลาย ประโยชน์จะตกถึงลูกในครรภ์  โดยสามารถรับประทานโดยเป็นอาหารว่าง หรือหลังทานอาหารมื้อหลักแล้วก็ได้

⇒ Must read : แม่ท้องกินทุเรียน ช่วยให้ลูกฉลาดได้จริงหรือ!?
⇒ Must read : เด็กกินทุเรียนได้ไหม ?

รวมไปถึงผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ก็ไม่ควรทานผลไม้ที่มีรสชาติหวานจัด หรืออาจรับประทานได้ในปริมาณน้อยๆ เช่น ทุเรียน, น้อยหน่า โดยเฉพาะลำไยสดนั้นควรทานแต่พอประมาณ  หากทานมากเกินไปจะทำให้เกิดอาหารเจ็บคอหรือร้อนในได้ เนื่องจากเนื้อลำไยมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง

หากใครที่ทานลำไยแล้วมีอาการเช่นนี้ก็ให้ดื่มน้ำเกลือตามลงไปก็จะช่วยบรรเทาอาการนี้ได้ (สูตรน้ำเกลือประกอบด้วย น้ำเปล่า 1 แก้ว เกลือ 1/2 ช้อนชา ละลายให้เข้ากัน) หรือบางคนอาจแก้ด้วยการทานมังคุดตามลงไป เนื่องจากมีความเชื่อมังคุดเป็นผลไม้ที่เย็นก็จะช่วยดับร้อน แก้อาการกันได้

เพื่อสุขภาพที่ดีคุณแม่ท้องควรทานผลไม้ทุกๆ วันเช่นเดียวกับผัก ร่างกายจึงจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน และทั้งหมดนี้คือ ประโยชน์ของลำไย ผลไม้ที่นอกจากจะใช้กินเป็นอาหารแล้ว ยังมากด้วยคุณประโยชน์สามารถใช้ป้องกันและรักษาโรคได้มากมายหลายชนิด เมื่อเห็นคุณประโยชน์ของลำไยเช่นนี้แล้ว ก็อย่าลืมหาซื้อมารับประทานกันบ้างนะจ๊ะ แต่คำแนะนำว่าไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะการรับประทานลำไยที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการร้อนใน เกิดแผลในช่องปาก ตาแฉะได้ ดังนั้นควรรับประทานแต่พอดี และผู้ที่มีอาการเจ็บคือ ไอมีเสมหะ มีหนองเป็นแผลอักเสบ ก็ไม่ควรรับประทานลำไย และต้องระวังเป็นพิเศษ สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน

อ่านต่อ “บทความดีๆ น่าสนใจ” คลิก!


ที่มาจาก : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ , oknation.nationtv.tv , www.komchadluek.net