AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

13 สารอาหารสำคัญ กินเพื่อลูกรักฉลาด ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

13 สารอาหารสำคัญ กินเพื่อลูกรักฉลาด ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

กินอะไรให้ลูกฉลาด …แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนต่างก็อยากให้ลูกของตนเองนั้น เกิดมามีสุขภาพที่แข็งแรง น่ารัก และเฉลียวฉลาด แต่ทราบหรือไม่ว่า คุณแม่สามารถบำรุงสมองของลูกให้ฉลาดได้ตั้งแต่ที่ลูกยังเป็นทารกในครรภ์

 

สมอง อวัยวะสำคัญอีก 1 ส่วนที่แม่อยากสร้างให้ลูกมีสมองที่ดีฉลาดล้ำ ซึ่งการที่จะสร้างให้สมบูรณ์แบบได้ นั้น เรื่อง “อาหาร” ก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ แล้วแม่ท้องต้องกินอะไรเพื่อช่วยเสริมสร้างสมองให้ลูกน้อยได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งเป็นพื้นฐานความฉลาดให้ลูกน้อยได้ตั้งแต่ในครรภ์ Amarin Baby & Kids มีคำตอบมาฝากค่ะ

แม่ท้องต้อง กินอะไรให้ลูกฉลาด

ความฉลาดของลูกมาจากไหน?

เด็กแต่ละคนก็ล้วนแต่มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน ความฉลาดของลูกนั้นนอกจากพ่อแม่จะเป็นผู้เติมเต็มให้กับลูกน้อยซึ่งเมื่อเขาออกมาสู่โลกภายนอกแล้ว พ่อแม่ก็ยังสามารถช่วยให้เขามีพัฒนาการที่ดีได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของคุณแม่ ผ่าน สารอาหารที่จำเป็นบางชนิด ซึ่งภาวะที่ขาดแคลนสารอาหาร หรือได้รับสารอาหารบางชนิดไม่เพียงพอ จะส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านสมองของเด็ก (เมื่อคลอดออกมาแล้ว) อย่างชัดเจน

♥ Must read : ลูกฉลาดตั้งแต่ในครรภ์ ต้องเริ่มที่แม่มี 7 รหัสนี้ครบ
♥ Must read : นักวิจัยพิสูจน์แล้ว! ลูกจะสืบทอดสติปัญญาจากแม่ได้มากกว่าพ่อ

ทั้งนี้นอกจากสารอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การพูดคุย การเล่นกับลูก ก็ส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านสมองของลูกเช่นกัน และยังส่งผลต่อภาวะทางอารมณ์ของลูกอีกด้วย เด็กที่อารมณ์ดีเพราะอยู่ในการดูแลที่ดี ได้รับ อาหารที่มีประโยชน์ เมื่อเติบโตขึ้นจะมีพัฒนาการทางสมอง พัฒนาการทางด้านร่างกาย และมีความฉลาด (ทั้งด้านความคิดและทางอารมณ์) มากกว่าเด็กที่ขาดสารอาหารเมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน

♥ Must read :  เทคนิคกระตุ้นสมองลูกให้ฉลาดอย่างถูกวิธี

สารอาหารคือหัวใจสำคัญของความฉลาดของทารกแรกเกิด

การขาดสารอาหารนั้นนอกจากจะทำให้พัฒนาการทางสมองของเด็กไม่ดีเท่าที่ควรแล้ว ยังทำให้อารมณ์ของลูกเปลี่ยนไปด้วย ลูกของเราบางคนเมื่อเราคลอดเขาออกมาแล้วอาจจะเงียบ ดูหงอยเหงา เซื่อง ซึม เนื่อง จากภาวะการขาดสารอาหารในช่วงที่เราตั้งครรภ์นั้นเอง เราสามารถป้องกันและแก้ไขได้โดยการทานอาหารและแร่ธาตุที่ครบถ้วน (ย้ำว่าครบถ้วน อย่ามากเกินไปนะค่ะ) ทั้งตัวคุณแม่เอง (ถ้ากำลังตั้งครรภ์อยู่) และให้ลูกของ เราทานด้วย (เมื่อเราคลอดลูกของเราออกมาแล้ว)

การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทั้ง 5 หมู่ เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เนื่องจากอาหารที่คุณแม่รับประทานเข้าไปจะส่งผลถึงลูกโดยตรง ซึ่งคุณแม่สามารถกระตุ้นการทำงานของสมองลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในครรภ์ได้ด้วยการรับประทานอาหารเหล่านี้

1. โปรตีน

เพราะโปรตีนมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของสมอง ถ้าลูกได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ จะทำให้สมองมีขนาดเล็ก  โปรตีนพบมากในอาหารประเภทเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ เช่น ปลา นม ไข่ ฯลฯ รวมถึงถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เหมาะสำหรับแม่ท้องทุกช่วงเดือน เนื่องจากโปรตีนเป็นสารอาหารหลักสำหรับร่างกายในการสร้างและเพิ่มขนาดเซลล์ สร้างน้ำนม เพิ่มปริมาตรเลือดสร้างน้ำย่อย สร้างภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ โปรตีนจึงจำเป็นต่อแม่ ท้องและลูกน้อยตั้งแต่แรกปฎิสนธิจนถึงกำหนดคลอดเลยค่ะ

2. คาร์โบไฮเดรต

อาหารประเภทแป้ง จะเปลี่ยนเป็นกลูโคสหรือน้ำตาลที่มีขนาดเล็กที่สุด เพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้แก่ร่างกาย และเป็นอาหารที่จำเป็นของสมองของลูก คาร์โบไฮเดรตพบในข้าว ขนมปัง ธัญพืช น้ำตาล และน้ำผลไม้สด เหมาะสำหรับ : แม่ท้องไตรมาสที่ 1 เพราะหากคุณแม่มีอาการแพ้จากการตั้ง ครรภ์เนื่องจากฮอร์โมนไม่สมดุล คาร์โบไฮเดรตจะเป็นสารอาหารที่กินง่ายย่อยง่าย และช่วยเสริมสร้างพลังให้คุณแม่ได้เป็นอย่างดี

อ่านต่อ >> “สารอาหารสำคัญเพื่อลูกรักฉลาดตั้งแต่อยู่ในครรภ์” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

3. โฟเลต

ช่วยสร้างเซลล์สมอง ระบบประสาท และไขสันหลังให้ลูกในครรภ์ พบมากในตับ บร็อคโคลี่ หน่อไม้ฝรั่ง ผักโขม และแคนตาลูป เหมาะสำหรับ แม่ท้องทุกไตรมาส เพราะโฟเลตเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการ สร้างสารพันธุกรรม และทำให้เม็ดเลือดมีความสมบูรณ์ โดยเฉพาะไตรมาสแรกซึ่งมีการสร้างเซลล์ใหม่เป็นจำนวนมาก หากแม่ท้องได้รับโฟเลตไม่เพียงพอในไตรมาสที่สองและสาม ทารกจะมีความเสี่ยงต่อพัฒนาการของสมองและประสาทไขสันหลัง อาจทำให้ทารกพิการทางสมองและประสาทที่เรียกว่า neural tube defect

4. ธาตุเหล็ก

ธาตุเหล็ก ทำหน้าที่ในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง นำออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง  ถ้าแม่ขาดธาตุเหล็กอย่างรุนแรง และลูกได้รับเหล็กไม่เพียงพอ อาจทำให้เด็กมีสติปัญญาด้อยกว่าปกติได้ค่ะ แหล่งธาตุเหล็ก มีมากในงา ตับสัตว์ เนื้อแดง ไข่แดง ผักสีเขียวเข้ม เหมาะสำหรับแม่ท้องไตรมาสที่ 2 และ 3 เพราะระบบประสาทและระบบโลหิตในทารกจะมีการพัฒนา และเริ่มสมบูรณ์ในช่วงเดือนที่ 3 ในขณะเดียวกันร่างกายของแม่ก็จะเริ่มสร้างและสะสมน้ำนม มีการเพิ่มปริมาณเลือด  อาหารที่มีธาตุเหล็กเพียงพอจะทำให้เม็ดเลือดแดงดี คุณภาพน้ำนมดี

5. ไอโอดีน

มีความสำคัญต่อพัฒนาการทางสมอง ระบบประสาท และความจำของลูก  การขาดไอโอดีนเป็นสาเหตุของโรคสมองเสื่อมและสติปัญญาด้อย แหล่งไอโอดีน พบได้ในเกลือเสริมไอโอดีน อาหารทะเล เหมาะสำหรับ แม่ท้องไตรมาสที่ 2 และ 3 เพราะขณะตั้งครรภ์ต่อมไทรอยด์ ทำงานมากขึ้น ร่างกายจึงต้องการไอโอดีนเพิ่มขึ้น

 

6. โอเมก้า 3

เป็นกรดไขมันจำเป็นไม่อิ่มตัวชนิดหนึ่ง ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างเองได้ โอเมก้า3 มีส่วนช่วยในการบำรุงเซลล์สมองเพิ่มประสิทธิภาพความจำ และสายตา โดยโอเมก้า 3 จะพบมากในปลาทะเล เหมาะสำหรับแม่ท้องไตรมาสที่ 2 และ 3 เนื่องจากช่วงเดือนที่สอง ส่วนศีรษะ ของทารกจะพัฒนามากกว่าส่วนอื่น จึงจำเป็นต้องได้รับโอเมกา3 เพื่อการเจริญเติบโตของเซลล์สมองและรอยหยักในสมอง โอเมกา3 ช่วยกระตุ้นเซลล์สมองให้ไวต่อการรับสัญญาณประสาท ในเนื้อปลาทะเลมีกรดอมิโน Thyrosine ซึ่งกระตุ้นสารสื่อนำประสาทสำคัญในสมอง คือ Nerephinephrine และ Dopamine ทำให้สมองไวและมีสมาธิ มีความจำ เมื่อทารกคลอดสมองส่วนนี้จะเจริญต่อเนื่องจนเด็กอายุ 2 ขวบจึงเจริญเต็มที่

♥ Must read : 10 ปลาไทย โอเมก้า 3 สูง! บำรุงสมองสดใส หัวใจแข็งแรง

7. แคลเซียม

แคลเซียมมีความสำคัญต่อการพัฒนากระดูกของลูกน้อย และร่างกายของคุณจะต้องการแคลเซียมเพิ่มขึ้นมากในระหว่างการตั้งครรภ์ การขาดแคลเซียมทำให้ร่างกายแม่เสี่ยงต่อภาวะโรคกระดูกพรุน และกระดูกของลูกในครรภ์ไม่แข็งแรง แคลเซียมมีอยู่มากในผลิตภัณฑ์นม เช่น นมสด เนย โยเกิร์ต ผักขม เต้าหู้ และบร็อคโคลี

♥ Must read : แคลเซียมจำเป็น โซเดียมต้องห้ามที่แม่ต้องรู้

8. สังกะสี

สังกะสี หรือ Zinc นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ในทารกในครรภ์ สังกะสียังช่วยเสริมการผลิตเอ็นไซม์ เช่น อินซูลิน ในหญิงตั้งครรภ์ สังกะสีสามารถพบได้ใน เนื้อสัตว์สีแดง เป็ด ไก่ หอย อาหารทะเล ธัญพืช ถั่ว ข้าว และผลิตภัณฑ์นม

อ่านต่อ >> “สารอาหารสำคัญเพื่อลูกรักฉลาดตั้งแต่อยู่ในครรภ์” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

9. วิตามิน E

วิตามินชนิดนี้ช่วยในการพัฒนาของกล้ามเนื้อและเซลล์เม็ดเลือดของทารก การขาดวิตามินอีมีผลทำให้ทารกคลอดมาน้ำหนักต่ำ ในขณะที่การได้รับวิตามินนี้มากเกินไปก็เกี่ยวข้องกับการแท้งลูก เพราะฉะนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนที่จะรับประทานวิตามิน อี เสริม วิตามิน อี สามารถพบได้ในอาหารหลายชนิดเช่น น้ำมันพืช ถั่ว และธัญพืช

10. วิตามิน B 1

วิตามินชนิดนี้ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพัฒนาการของระบบประสาทส่วนกลางของลูกน้อย การได้รับวิตามิน B 1 ไม่เพียงพออาจทำให้ลูกของคุณเสี่ยงต่อการเป็นโรคเหน็บชา ซึ่งสามารถเป็นอันตรายต่อหัวใจและปอดของลูกได้ อาหารที่มีวิตามิน บี 1 เช่น อาหารจากข้าวและแป้ง จมูกข้าวสาลี และไข่

11. วิตามิน B 2

ช่วยในการเจริญเติบโตและการพัฒนาสมองลูก ถ้าได้รับในปริมาณที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้สมองของทารกมีขนาดเล็ก มีมากในนม ไข่แดง เนื้อสัตว์ ตับ และโยเกิร์ต เหมาะสำหรับ แม่ท้องทุกไตรมาส เพราะวิตามิน B 2 เป็นโคเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมัน ทำให้ร่างกายเจริญเติบโตผิวหนังไม่แห้งเป็นขุย ช่วยให้เม็ดเลือดแดงคงสภาพ รักษาสุขภาพของระบบประสาทค่ะ

12. วิตามิน B 6

วิตามินนี้ช่วยในการพัฒนาสมองและระบบประสาทของลูกน้อย ในบางกรณีมันยังช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ด้วย วิตามิน B 6 หาได้จากกล้วย แตงโม ถั่วเขียว และหน้าอกไก่

13. วิตามิน B 12

ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม ความจำเสื่อม และช่วยให้การ ทำงานของสมองและประสาทให้เป็นปกติ พบมากใน ตับ เนื้อสัตว์ ไข่ นม และหอยนางรม เหมาะสำหรับแม่ท้องทุกไตรมาส เพราะวิตามิน B 12 ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้เม็ดเลือดแดงมีขนาดปกติ ไม่ขาดธาตุเหล็ก ช่วยให้การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์เป็นไปตามปกติ เซลล์สมองได้เลือดหล่อเลี้ยง ได้รับสารอาหารและออกซิเจนอย่างเพียงพอ

หากถามว่าแม่ท้องต้อง กินอะไร ให้ลูกฉลาด ในเรื่องของโภชนาการอาหารแล้ว สารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ ที่กล่าวมาทั้ง 13 อย่างนั้น เป็นส่วนสำคัญสำหรับแม่ท้องทุกคน

สารอาหารอะไรบ้างที่คุณแม่มักจะขาด เมื่อเข้าสู่ภาวะตั้งครรภ์

กรดโฟลิก แคลเซียม และธาตุเหล็ก และวิตามินต่างๆ ซึ่งโดยปกติหากเราอยู่ในการดูแลของคุณหมอที่ดี คุณหมอก็จะให้เราทานวิตามินเสริมอยู่แล้ว ดังนั้นคุณแม่ก็ควรจะทานให้ครบถ้วน เพราะสารอาหารและแร่ธาตุ เหล่านี้นอกจากจะส่งผลต่อทารกในครรภ์แล้วยังส่งผลต่อตัวคุณแม่เองอีกด้วย เช่น กรดโฟลิกนั้นจะช่วยป้องกันความผิดปกติหรือภาวะต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการคลอดลูกได้ เป็นต้น

นอกจากนั้นมลภาวะและสารเสพติดต่างๆ ก็มีผลด้วยเช่นเดียวกัน เช่น ควันบุหรี่, ยาเสพติดอื่นๆ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ล้วนส่งผลทำลายการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ทั้งสิ้น ดังนั้นรู้อย่างนี้แล้ว ตลอดระยะเวลาช่วง 9 เดือน ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายก็ควรจะใส่ใจกับอาหารให้มากนะคะ เพราะอาหารไม่ได้มีผลแค่ตัวคุณแม่เองคนเดียวเท่านั้น แต่มันจะส่งผลต่อเนื่องให้กับลูกในท้องของเราในระยะยาวอีกด้วย เพื่อคุณภาพครรภ์และพัฒนาการที่ดีของลูกน้อยในครรภ์ค่ะ

อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.ahlulbait.org , www.momlovelybaby.com

Save

Save