ช่วงเวลาที่สุขที่สุดอีกช่วงหนึ่งในชีวิตผู้หญิงคือการได้อุ้มท้อง การได้เป็นแม่ของลูก และส่วนใหญ่เมื่อรู้ตัวว่าท้องก็มักจะให้ความสำคัญกับสุขภาพร่างกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำถามจากแฟนๆ ของเว็บไซต์ถามกันเข้ามาว่า กระเจี๊ยบเขียว คนท้อง กินแล้วได้ประโยชน์อะไรกับสุขภาพร่างกายบ้าง?
กระเจี๊ยบเขียว คนท้อง อาหารสมุนไพรดีต่อสุขภาพ
กระเจี๊ยบเขียว คนท้อง กินแล้วได้ประโยชน์อะไร? และก่อนที่เราจะไปหาคำตอบให้คุณแม่ท้อง ก่อนอื่นขอถามว่าบ้านไหนปลูกกระเจี๊ยบเขียวไว้เป็นผักสวนครัวรั้วกินได้บ้างคะ ถ้ามีล่ะก็ขอบอกว่านั่นคืออาหารสมุนไพรชั้นเยี่ยมเลยค่ะ
บ้านที่ต่างจังหวัดผู้เขียนก็ปลูกต้นกระเจี๊ยบเขียวไว้ที่สวนครัวหลังบ้าน และก็จำได้ว่าตอนที่พี่สาวท้อง คุณแม่ชอบไปเก็บกระเจี๊ยบเขียวมาแกงส้ม ใส่แกงเลียง หรือไม่ก็ต้มจิบกินกับน้ำพริกปลาทู ที่ขอบอกว่าช่วยให้พี่สาวที่กำลังท้องได้เจริญอาหารมากด้วยค่ะ คุณแม่บอกว่ากระเจี๊ยบเขียวคนท้องกินแล้วดีกับร่างกาย เพราะเป็นยาธรรมชาติ ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี ท้องไม่ผูก
และมาถึงตอนนี้เพิ่งรู้ว่ากระเจี๊ยบเขียวไม่ได้มีดีแค่ใยอาหารสูงเท่านั้น แต่ยังอุดมด้วยแคลเซียม ธาตุเหล็ก ฯลฯ รวมทั้งยังมีโฟเลตสูงมากด้วย ก็อย่างที่รู้กันว่าโฟเลตนั้นสำคัญกับร่างกายของคนท้องมาก ที่จริงใครเตรียมตัวจะมีลูก ควรกินโฟเลตเตรียมไว้ก่อนเลย ซึ่งนอกจากจะได้จากวิตามินชนิดเม็ด ก็ยังได้จากการทานพืชผักใบเขียวต่างๆ รวมถึงกระเจี๊ยบเขียวด้วยที่ก็มีโฟเลตสูง
อ่านต่อ กระเจี๊ยบเขียว ประโยชน์ที่แม่ท้องควรกิน หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
กระเจี๊ยบเขียว อาหารสมุนไพร ที่คนท้องต้องกิน!
หากจะพูดถึงคุณค่าทางโภชนาการสารอาหารที่มีในกระเจี๊ยบเขียว ต้องบอกว่าเป็นพืชผักอาหารสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพร่างกายของคนท้องมากค่ะ เพราะอุดมไปด้วย คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร โปรตีน โฟเลต แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค และธาตุสังกะสี
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้อธิบายถึงประโยชน์ของกระเจี๊ยบเขียว ไว้ดังนี้ “กระเจี๊ยบเขียวมี กลูตาไทโอน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมสารอนุมูลอิสระในร่างกาย การสร้างสารซ่อมแซมเซลล์ และทำปฏิกิริยาขจัดสารพิษที่เกิดในร่างกาย ช่วยต้านมะเร็งได้
Must Read >> แม่ท้อง ท้องเสีย กินยาอะไรได้บ้าง
สรรพคุณเด่นที่สำคัญในการใช้เป็นยารักษาโรคของกระเจี๊ยบเขียว คือ การใช้เป็นยารักษาโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกและท้องเสีย และยังช่วยรักษาอาการปวดท้องจากแผลในกระเพาะอาหารและแผลจากลำไส้เล็กส่วนต้น ในปี 2547 มีรายงานการศึกษาพบว่าสารประกอบไกลโคซิลเลท (Glycosylated Compounds ซึ่งประกอบด้วย polysaccharides and glycoproteins) ในกระเจี๊ยบเขียว มีฤทธิ์ยับยั้งความสามารถของเชื้อแบคทีเรีย ในการเกาะ เยื่อบุผิวของกระเพาะอาหาร ซึ่งแบคทีเรียตัวนี้เอง เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร”[1]
เห็นแบบนี้จะไม่ดีใจเฮดังๆ ก็คงไม่ได้แล้ว เพราะผักเขียวฝักเรียวยาวอย่างกระเจี๊ยบเขียว บอกได้เลยว่ามีดีจัดเป็นยาวิเศษใน รูปแบบอาหารสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพคนท้อง และรวมถึงคนอื่นทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ใครอยากมีสุขภาพดีลดเสี่ยงป่วยไข้ล่ะก็ อย่าเมิน “กระเจี๊ยบเขียว” กันนะคะ
อ่านต่อ กระเจี๊ยบเขียว ยาจากอาหารช่วยสุขภาพแม่ท้องดี หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อาหารเป็นยาที่ได้จากการกิน กระเจี๊ยบเขียว
กีฬา กีฬาเป็นยาวิเศษ แต่อันนี้ต้องบอกว่า อาหาร อาหารสมุนไพรเป็นยาวิเศษ ก็แหมคนท้องเวลาเจ็บป่วยถ้าเลี่ยงการกินยา แผนปัจจุบันได้เป็นดีค่ะ แต่ถ้าป่วยแล้วเลี่ยงกินยาไม่ได้ ก็ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำ และการดูแลจากคุณหมอเท่านั้น ห้ามซื้อยามาทานกันเองเด็ดขาด
แต่จะดีกว่าไหมหากคุณแม่ท้องเริ่มต้นสุขภาพด้วยการไม่เจ็บป่วย และไม่ต้องกินยา แน่นอนว่าต้องดีกว่าอยู่แล้ว ซึ่งการมี สุขภาพดีตลอดอายุครรภ์ทั้ง 9 เดือน ง่ายมากค่ะเพียงแค่รู้จักกินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นกลุ่มอาหารที่เป็นสมุนไพรไปด้วย ในตัว อย่างใบกะเพรา ขิง ข่า ตะไคร้ มะนาว ช่วยแก้หวัดได้ ผักคะน้า หน่อไม้ฝรั่ง บร็อกโคลี ใบตำลึง กระเจี๊ยบเขียว กลุ่ม ผักเขียวนี้ช่วยเรื่องท้องผูกได้ดีมาก ส้ม ฝรั่ง น้ำผึ้ง แก้เจ็บคอ ไอ คันคอ เป็นต้น จริงๆ มีอีกเยอะค่ะ แต่ครั้งนี้ขอเน้นไปที่ นางเอกของเราคือ “กระเจี๊ยบเขียว”
เพราะสรรพคุณของเขาไม่เป็นสองรองใครเลยค่ะ และเพื่อไม่ให้คุณแม่ท้องต้องรอนาน เราไปดูพร้อมกันค่ะว่า กระเจี๊ยบเขียว ดีกับสุขภาพอะไรบ้าง
1. ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี
เมือกจากกระเจี๊ยบเขียวจะมีสารในกลุ่ม polysaccharide ช่วยในการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ และดูดน้ำเข้ามา ในลำไส้ ทำให้อุจจาระนุ่ม และคุณแม่ก็จะขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
2. ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร
เมือกจากกระเจี๊ยบเขียว จะช่วยทำให้เชื้อ H.Pylori ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคกระเพาะอาหาร ไม่สามารถเกาะติดกับกระเพาะอาหาร ก็จะให้ไม่เกิดโรคกระเพาะขึ้นมาได้
ตำรับยาสำหรับรักษาโรคกระเพาะ ให้ใช้ฝักอ่อนกระเจี๊ยบเขียวหั่นตากแดด บดให้ละเอียด กินครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ โดยนำมาละลายในน้ำ นม น้ำผลไม้ หรืออาหารอ่อนๆ กินวันละ 3-4 ครั้ง หลังอาหาร[2]
3. ช่วยต้านมะเร็ง
กระเจี๊ยบเขียวมีสารกลูตาไทโอน ช่วยในการควบคุมสารอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยซ่อมแซมเซลล์ และขจัดสารพิษที่เกิดในร่างกาย ทำให้ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งลงได้
4. เป็นยาแก้พยาธิตัวจี๊ด
ตามตำรับยาให้ นำผลกระเจี๊ยบเขียวที่ยังอ่อนมาปรุงเป็นอาหาร เช่น ต้มหรือย่างไฟให้สุก จิ้มกับน้ำพริก หรือทำแกงส้ม แกงเลียง กินวันละ 3 เวลาทุกวัน อย่างน้อยวันละ 4-5 ผล ติดต่อกัน 15 วัน แล้วอาการจากพยาธิตัวจี๊ดจะค่อยๆ หายไป[3]
หวังว่าคุณแม่ท้อง และทุกคนจะเหลือพื้นที่ไว้ต้อนรับกระเจี๊ยบเขียวให้ช่วยดูแลสุขภาพให้ดีกันถ้วนหน้านะคะ ว่าแต่อาหารมื้อต่อไปอย่าลืมเตรียมเมนูจากกระเจี๊ยบเขียวไว้ทานกัน ไม่ว่าจะเป็น กระเจี๊ยบเขียวผัดน้ำมันหอย แกงส้ม แกงเลียงกระเจี๊ยบเขียว น้ำพริกปลาทูกินกับกระเจี๊ยบเขียวต้ม ฯลฯ เห็นแล้วน่าอร่อยช่วยให้เจริญอาหารจริงๆ ค่ะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
ฟันผุขณะตั้งครรภ์ กระทบสุขภาพลูกในท้อง!!
ภัยร้าย ไข้เลือดออก ขณะตั้งครรภ์
5 อาการเตือนสุขภาพผู้หญิง ที่ไม่ควรมองข้าม!!
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
[1]www.komchadluek.net
[2],[3]มูลนิธิหมอชาวบ้าน
ความรู้สนุกๆ แบบหมอแมว
Drama-Addict
medthai.com