อะโวคาโด (Avocado) หรือ ลูกเนย เป็นผลไม้ที่ดูภายนอกอาจมีรูปร่างแปลกๆ ผลที่สุกจัดจะมีสีดำ มีผิวขรุขระ เนื้อภายในถ้าสุกแล้วจะมีสีเขียว เนื้ออ่อนนุ่ม มีรสชาติคล้ายเนยที่มีจากนมวัว มีโปรตีนชนิดย่อยง่าย และไขมันดี (HDL) ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์อย่างมากต่อการเจริญเติบโตของทารก นับเป็นผลไม้อีกหนึ่งที่คุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์ควรซื้อติดบ้านไว้
ซึ่งก็หลายคนอาจจะไม่เชื่อ เพราะมันเป็นผลไม้ที่น่าจะมีไขมันสูงมาก และน่าจะต้องงดเว้นหนีห่าง เพราะคุณแม่ในช่วงนี้ต้องระวังในเรื่องน้ำหนักไม่ให้มากเกินไปซึ่งส่งผลต่อโรคอื่นๆ ที่จะตามมา ดังนั้นจึงไม่อยากทานอะไรมันๆ แบบผลไม้ชนิดนี้ แต่จริงๆ แล้วจากงานวิจัยของนักโภชนาการและนักวิทยาศาสตร์การอาหารหลายสำนัก ระบุตรงกันว่า อะโวคาโด ไม่ทำให้อ้วน เพราะในเนื้อผลอะโวคาโดประกอบด้วยไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ประมาณ 4-20% แล้วแต่พันธุ์ โดยกรดไขมันในอะโวคาโด ร้อยละ 70 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว ชนิด monounsaturater fatty acid ซึ่งกรดไขมันชนิดนี้ เป็นไขมันดี หรือเรียกว่า เป็นไขมันอิ่มตัวที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังช่วยในการขจัดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีให้ออกไปจากร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
อะโวคาโด มีประโยชน์กับคนท้องและลูกน้อยอย่างไร?
เมื่อเทียบกับผลไม้อื่น จากงานวิจัยของนักโภชนาการและนักวิทยาศาสตร์การอาหารหลายสำนัก ระบุว่า อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าผลไม้ชนิดอื่นอยู่หลายชนิด จึงถือว่าเป็น “ผลไม้เพื่อสุขภาพ” ซึ่งนี้ เป็นที่นิยมในแถบอเมริกาและยุโรป
- อะโวคาโด มีสารกลูตาไธโอน ที่มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง มีหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อของอวัยวะทุกส่วนโดยการต่อต้านอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- วิตามินสูง ประกอบด้วย วิตามินเอ (เบต้าแคโรทีน) ช่วยบำรุงสายตา วิตามินบีช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ปากนกกระจอก วิตามินซีช่วยป้องกันหวัด เลือดออกตามไรฟัน และโดยเฉพาะวิตามินอี ซึ่งเป็นสาร antioxidant ที่มีคุณค่าในการปกป้องเซลล์ร่างกายจากมลพิษทางอากาศ น้ำ และอาหาร ป้องกันร่างกายจากโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ และโรคหัวใจ
- อะโวคาโดอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโซเดียม โพแทสเซียม และยังมีโฟเลตสูง ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ เป็นสารอาหารที่ช่วยป้องกันการเกิดการพิการตั้งแต่เริ่มสร้างร่างของตัวอ่อน ซึ่ง อะโวคาโดถ้วยเดียวมีสารอาหารเกือบเท่ากับสารอาหารโฟเลตที่ร่างกายของเราทุกคนต้องการต่อวัน โดยสารโฟเลตสามารถลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจและหัวใจวายได้ ถ้าหากว่าร่างกายของคุณแม่ได้รับสารโฟเลตอย่างเต็มที่ หากสมาชิกในครอบครัวของคุณเคยมีประวัติเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ อย่างไรก็ตาม อะโวคาโดสามารถช่วยลดความเสี่ยงเหล่านั้นและรักษาหัวใจของคุณให้แข็งแรงได้
- อะโวคาโดอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว เป็นไขมันที่ย่อยง่ายมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถทานผลไม้ชนิดนี้ได้ อีกทั้งยังช่วยในการควบคุมน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ อาจมีอาการเบาหวานขณะตั้งครรภ์ อันเป็นหนึ่งในอาการที่น่ากังวลในกลุ่มครรภ์เป็นพิษ
- มีกากใยสูงช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ที่กำลังท้องผูกอยู่ ช่วยขับถ่ายดีขึ้น
- ในอะโวคะโดมีทั้ง โอเมก้า 3 และโอเมก้า6 ที่มีส่วนช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทได้ดีไม่แพ้ปลาทะเลน้ำลึก
- มีงานวิจัยชี้ชัดว่า การรับประทานอาโวคาโดเป็นประจำช่วยป้องกันการเสื่อมของสมองและระบบเส้นประสาท
อ่านต่อ >> “วิธีการกินอะโวคาโดและประโยชน์ในอะโวคาโดเพื่อความงามของคุณแม่” คลิกหน้า 2
วิธีการรับประทานอะโวคาโด
อะโวคาโดก็เหมือนกับอาหารอื่นๆที่มีพลังงาน จึงควรรับประทานแต่พอดี และควรทานควบคู่กับอาหารอื่นๆ ให้หลากหลาย โดยวิธีการรับประทานนั้นจะทานผลที่สุก เพราะผลดิบที่มีสีเขียวจะมีรสขมและรสขมนั้นอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ แนะนำให้ทานปริมาณครั้งละไม่เกิน ครึ่งผล หรืออย่างมากที่สุดไม่เกิน 1 ผลต่อวัน เพราะถึงจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ให้พลังงานสูงเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยระบุว่า รสชาติจืดๆ เนื้อเนียนๆ และคุณค่าสารอาหารที่อัดแน่น ทำให้อะโวคาโดเหมาะที่จะเป็นอาหารเสริมชนิดแรกของทารก ซึ่งผลวิจัยชี้ว่า อะโวคาโดดีต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของทารก โดยในครั้งแรกที่ป้อนอะโวคาโดให้ลูกน้อย ยังไม่ควรบดรวมกับผลไม้อื่นๆ เพื่อดูว่าจะเกิดอาการแพ้อะโวคาโดหรือไม่ หากไม่มีอาการแพ้สามารถบดหรือปั่นรวมกับกล้วย แอปเปิ้ล ไข่แดง ฟักทอง มะม่วงสุก หรืออื่นๆ ได้ตามต้องการค่ะ
> คลิกดูสูตรเมนู ดิปโยเกิร์ตอะโวคาโด (2 ขวบ+) > คลิกดูสูตรเมนู ไข่ไดโนเสาร์ (2 ขวบ++) > คลิกดูสูตรเมนู สามสหายเพิ่มพลัง (8 เดือน+)
สารพัดประโยชน์เพื่อความงามด้วยอะโวคาโด
อะโวคาโดนอกจากดีในฐานะเป็นอาหารรับประทานแล้ว ยังสามารถนำมาทำเครื่องพอกเครื่องทาประทินผิวเพื่อบำรุงความสวยความงามให้คุณแม่ได้อีกด้วย ดังนี้
บำรุงเส้นผม สามารถใช้อะโวคาโดหมักผมเพื่อให้ผมนุ่มสลวย เงางามได้ โดยใช้เนื้ออะโวคาโดครึ่งผลผสมกับไข่แดง 1 ฟองและน้ำมันมะกอกครึ่งช้อนชา ปั่นให้ละเอียดนำมาชะโลมให้ทั่วศรีษะ นวดเบาๆ และหมักทิ้งไว้ ประมาณ 25 นาที จากนั้นทำความสะอาดล้างออกด้วยแชมพูตามปรกติ เพียงเท่านี้ก็ได้ทรีดเม้นผมแบบธรรมชาติ พร้อมผมสวยเงางามมีน้ำหนักโดยไม่ต้องไปร้านแพงๆแล้ว
สร้างความชุ่มชื่นให้ผิวหน้าและรอบดวงตา ปัญหารอบดวงตาหมองคล้ำ ใช้อะโวคาโดฝานเป็นแผนบางๆแปะทิ้งไว้ 10-15 นาที หรือใครจะทำเป็นสูตรมาร์กหน้าก็ได้ ด้วยการนำเนื้ออะโวคาโดครึ่งผลบดให้ละเอียด มาพอกหน้าและบริเวณรอบตัวตาไว้ ทิ้งไว้ในเวลาเท่ากัน(15-20นาที)ก็จะช่วยบรรเทาอาการดวงตาและผิวหน้าหมองคล้ำและช่วยทำให้ผิวสดชื่นขึ้นได้
ขัดผิวกายด้วยอะโวคาโด นอกจากอะโวคาโดจะเป็นประโยชน์กับผิวหน้าแล้วเรายังสามารถดัดแปลงอะโวคาโดมาใช้กับผิวกายได้อีกด้วย โดยการใช้เนื้ออะโวคาโดครึ่งผลปั่นรวมกับข้าวโอ๊ต ไข่ขาว 1 ฟอง และ น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ให้มีลักษณะเหมือนกับครีมสครับ ใช้ขัดเบาๆทั่วร่างกาย ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก คุณแม่ก็จะได้สัมผัสผิวนุ่มเนียนกระจ่างใสแบบธรรมชาติแล้ว ทั้งนี้สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็ยังสามารถนำเปลือกด้านในของผลอาโวคาโด มาทาผิวป้องกันการเกิดรอยแตกลายได้อีกด้วย
จากประโยชน์ของอะโวคาโด ผลไม้รสเนย ที่มีหน้าตาแปลกประหลาด ก็ทำให้รู้เลยว่าแม้เพียงรูปร่างภายนอกที่ดูไม่มีอะไร แต่คุณค่าและประโยชน์ภายในนั้นมีมากมายจริงๆ ทั้งต่อสุขภาพร่างกายภายในและภายนอก ถ้าอะโวคาโดจะดีขนาดนี้ต้องบอกว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ ควรรีบไปหาซื้ออะโวคาโดมาติดบ้านไว้เป็นประจำ นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.lovefitt.com , mumpillow.lnwshop.com , women.kapook.com