ทูน่ากระป๋อง …เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่มีเวลา! เป็นหนึ่งทางเลือกที่นอกจากจะหาซื้อได้ง่ายแล้ว ยังนำไปปรุงเป็นเมนูต่างๆ ได้หลากหลาย และใช้เวลาเตรียมวัตถุดิบไม่นาน เพียงเปิดกระป๋องเนื้อปลาที่อุดมไปด้วยโปรตีน โอเมก้า 3 วิตามิน และเกลือแร่ ก็พร้อมปรุงทันที!!!
ด้วยยุคสมัยที่เร่งรีบ คุณพ่อคุณแม่ต่างต้องทำงานนอกบ้านและมีภาระมากมาย ทำให้เวลาในการประกอบอาหารอาจจะมีไม่มากเหมือนสมัยก่อน ซึ่งตัวช่วยอย่างอาหารสำเร็จรูป หรืออาหารปรุงสำเร็จจากร้านค้าต่างๆ บางครั้งก็ไม่สามารถไว้วางใจได้ถึงความสะอาด วัตถุดิบที่มีคุณภาพ หรือสารอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ครบถ้วน และอาจมีผลระยะยาวต่อการพัฒนาของร่างกายลูกน้อยที่อยู่ในวัยเจริญเติบโต ซึ่งการใช้อาหารกึ่งสำเร็จรูป หรือวัตถุดิบที่เก็บรักษาได้สะดวก มาปรุงอาหารเมนูง่าย ๆ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ทูน่ากระป๋อง เลือกแบบไหน…ให้ลูกได้ประโยชน์สูงสุด!
ปลา นับเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยประโยชน์มากมาย จึงเหมาะที่จะเป็นอาหารที่ประกอบให้ลูกน้อยได้รับประทาน โดยเฉพาะ “ปลาทูน่า” ซึ่งเป็นเนื้อปลาที่อุดมไปด้วย โปรตีน โอเมก้า 3 วิตามิน และเกลือแร่ อีกทั้งยังสามารถหาซื้อ ปรุง และเก็บรักษาได้อย่างง่ายดาย อย่างเช่น ทูน่ากระเป๋อง ที่เหมาะกับพ่อแม่ยุคใหม่เป็นอย่างยิ่ง
ปลาทูน่ากระป๋อง แหล่งโปรตีนที่ดีของลูกน้อย
ด้วยเนื้อปลาทูน่า ที่จัดว่าเป็นปลาทะเลน้ำตื้น มีจำนวนหลายชนิด บ้างก็นิยมนำมารับประทานสด และนำมาประกอบอาหาร แต่การจับโดยส่วนใหญ่จะส่งโรงงานแปรรูปเป็นอาหารกระป๋อง ซึ่งปลาทูน่าที่นิยมจับ ได้แก่ ทูน่าครีบเหลือง ทูน่าครีบยาว ทูน่าสีน้ำเงิน ทูน่าตาโต ปลาโอแถบ และปลาโอดำ
ปลาทูน่า นอกจากมีโปรตีนสูงแล้ว ยังมีไขมันและโคเลสเตอรอลต่ำ มีวิตามิน บี 12 และเกลือแร่ไอโอดีน ฟอสฟอรัส ซิลิเนียม สังกะสีและแคลเซียม ที่สำคัญมีน้ำมันปลา โอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยบำรุงสมอง เสริมความจำและช่วยลดโคเลสเตอรอล ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และอาจป้องกันโรคความจำเสื่อม (โรคอัลไซเมอร์) แต่อย่างไรก็ตามปลาทูน่าอาจมีสารปนเปื้อน เช่น สารปรอท จึงแนะนำให้เด็กและคุณแม่ตั้งครรภ์ ไม่ควรกินปลาทูน่าชนิด “อัลบาคอร์” (ทูน่าซึ่งหายากและดีที่สุด) เกินกว่าสัปดาห์ละ 6 ออนซ์ หรือประมาณ 180 กรัมปลาทูน่ากระป๋อง 1 กระป๋อง โดยทั่วไปมีน้ำหนักรวมน้ำหรือน้ำมัน 180 กรัม มีเนื้อปลาอยู่ 140 กรัม
⇒ Must read : รวม 24 ปลาโอเมก้า 3 สูง ที่แม่ควรซื้อให้ลูกกิน!
⇒ Must read : 10 ปลาไทย โอเมก้า 3 สูง! บำรุงสมองสดใส หัวใจแข็งแรง
⇒ Must read : ปลาที่แม่ไม่ควรกิน (และทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า)
หากคุณพ่อคุณแม่อยากจะทำเมนูอาหารที่มีส่วนผสมเป็นปลาทูน่ากระป๋องให้ลูกน้อยรับประทาน ก็สามารถหาซื้อได้ไม่ยากที่ตามซูเปอร์มาเก็ตทั่วไป แต่ก็อาจต้องยืนนิ่ง ๆ สักพัก เพราะคงเลือกไม่ถูก เนื่องจากทูน่ากระป๋องที่วางอยู่บนชั้นนั้นดันมีแช่ในหลายน้ำ หลายแบบให้เลือก แล้วอย่างนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าทูน่ากระป๋องไหนเหมาะกับอาหารจานเด็ดที่จะทำให้ลูกน้อยทาน
…ดังนั้นแล้วเพื่อเป็นตัวช่วยให้คุณแม่ในการเลือกซื้อทูน่ากระป๋อง มาปรุงอาหารให้ลูกน้อยได้ง่ายขึ้น แม่น้องฮันน่าห์ขารีวิวจึงขอนำข้อมูลของปลาทูน่าแต่ละกระป๋องมาให้คุณแม่ๆ ได้เลือกดูตามความเหมาะสมกับเมนูอาหารจานโปรดของลูกที่คุณต้องการทำ ตามไปดูกันเลยค่ะ
อ่านต่อ >> “วิธีเลือกทูน่ากระป๋องสำหรับปรุงอาหารให้ลูกน้อย” คลิกหน้า 2
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- เปิดสูตรเด็ด! เมนูบำรุงสมอง ลูกน้อย ซูชิข้าวผัดแซลมอนทำง่ายได้ประโยชน์เต็มคำ (มีคลิป)
- เผยสูตรเด็ด! เครปไข่พระอาทิตย์ เมนูมื้อว่างวันหยุดเพื่อลูกน้อยโดยเฉพาะ
- เปิดสูตร เมนูไข่เพิ่มพลัง มื้อเช้าแสนง่าย ช่วยลูกน้อยสมองดี มีกำลัง! (ขนมปังหน้าไข่อบชีส)
- ข้าวต้มหลากสี อาหารต้านหวัดให้ลูก สูตรดี แสนอร่อย…ช่วยเพิ่มพลัง!
ขอบคุณข้อมูลจาก : baby.haijai.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เนื้อทูน่ากระป๋องกับประเภทอาหาร
เนื้อทูน่ากระป๋องจะมีอยู่ 2 ลักษณะ คือทูน่าแบบก้อน และทูน่าแบบชิ้นเล็ก ซึ่งแต่ละแบบ ก็เหมาะกับประเภทอาหารที่ไม่เหมือนกัน ให้ความอร่อยไม่เหมือนกัน ลองไปทำความเข้าใจกันค่ะ
วิธีเลือกทูน่ากระป๋อง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับจานเด็ด
- ทูน่าแบบก้อน หรือทูน่าสเต็ก เหมาะสำหรับอาหารที่ต้องการเนื้อทูน่าเป็นชิ้นชัดเจน เช่น ผัด แกง ทอด เป็นต้น
- ทูน่าแบบชิ้นเล็ก หรือทูน่าแซนด์วิช เป็นทูน่าชนิดก้อนที่นำมายีเป็นชิ้นเล็ก ๆ เหมาะสำหรับอาหารที่ต้องการเนื้อทูน่าเล็ก ๆ เช่น ลาบ สลัด แซนด์วิช น้ำพริก หลน น้ำยา เป็นต้น
Good mom know : สำหรับเด็กอายุ 5-6 เดือน สามารถเริ่มรับประทาน อาหารเสริมได้ 1 มื้อ ถ้าอายุครบ 7-8 เดือน จนถึง 10 เดือน จึงให้ รับประทานอาหารเสริมได้ 2 มื้อ ทั้งนี้เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน ยังไม่แนะนำให้รับประทานอาหารทะเลใดๆ เนื่องจากมีโอกาสแพ้อาหารทะเลได้ง่าย ควรให้รับประทานอาหารทะเลเมื่อเด็กอายุได้อย่างน้อยครบ 9 เดือนเป็นต้นไป ดังนั้นควรให้ลูกน้อยรับประทานแต่ปลาน้ำจืดไปก่อนจะเหมาะสมมากกว่า
เนื้อทูน่าในน้ำแต่ละชนิดกับประเภทอาหาร
- ทูน่าในน้ำมัน มีทั้งในน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน เป็นต้น มีส่วนผสมของน้ำมัน เกลือ และเนื้อปลาทูน่า รสชาติจะออกเค็ม และมัน เนื้อทูน่าจะนุ่ม เหมาะกับการปรุงอาหารที่ต้องการน้ำมันผสมอยู่ด้วย เช่น สลัด แซนด์วิช แกง ผัด เป็นต้น
- ทูน่าในน้ำเกลือ มีส่วนผสมของน้ำ เกลือ และเนื้อปลาทูน่า รสชาติจะออกเค็ม เหมาะกับการปรุงอาหารที่ไม่ต้องการความมัน เช่น ยำ ลาบ พล่า น้ำพริก ขนมจีนน้ำยา ซุป เป็นต้น และเมนูอาหารที่ควบคุมน้ำหนัก และไม่เหมาะกับอาหารทอด เพราะน้ำเกลือจะทำให้น้ำมันกระเด็นในขณะทอด
- ทูน่าในน้ำแร่ มีส่วนผสมของ น้ำแร่ เกลือเล็กน้อย และเนื้อปลาทูน่า มีรสชาติจืด มีปริมาณไขมัน และเกลือต่ำ เหมาะกับการปรุงอาหารจำพวกยำ ต้ม และเมนูที่ต้องการรักษาสุขภาพเป็นพิเศษ เช่น เพื่อควบคุมน้ำหนัก สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ และเบาหวาน เป็นต้น และไม่เหมาะกับอาหารทอด เพราะน้ำแร่จะทำให้น้ำมันกระเด็นในขณะทอดนั่นเองค่ะ
Good mom know : สำหรับปลาทูน่ากระป๋อง จะแช่ไว้ในน้ำมันหรือในน้ำเกลือจะให้คุณค่าของปลาทูน่าเหมือนกัน แต่เมื่อรับประทานปลาทูน่าใน น้ำมันจะทำให้ได้รับพลังงานจากน้ำมันร่วมด้วย แต่ปลาประป่องในน้ำเกลืออาจได้รับเกลือแกงด้วย ดังนั้นควรรินน้ำเกลือทิ้งเสียก่อนเทลงภาชนะทำการอุ่นด้วยความร้อน
อย่างไรก็ตามแม้ว่าปลากระป๋องจะสะดวกหาง่าย ซื้อมาเก็บตุนไว้ได้ แต่อาหารเด็กจำพวกโปรตีนควรให้กินสลับกับเนื้อสัตว์หลากหลายชนิดสลับกันไป หากกินซ้ำๆอาจมีการสะสมสารที่ปนเปื้อนเกิดเป็นพิษได้ ถ้าเปิดกระป๋องแล้วรับประทานไม่หมดในครั้งเดียวสามารถเก็บรักษาไว้มื้อต่อไปได้โดยถ่ายเนื้อปลาจากกระป๋องใส่ภาชนะที่มีฝาปิด แล้วนำไปเก็บในตู้เย็นในช่องปกติ และนำไปอุ่นเมื่อปรุงอาหารในมื้อต่อไปได้ แต่ห้ามอุ่นอาหารในกระป๋อง
อ่านต่อ >> “รีวิว “ทูน่ากระป๋อง” ในน้ำเกลือ น้ำแร่ และน้ำมัน
เลือกแบบไหน? ให้ลูกได้ประโยชน์สูงสุด!” คลิกหน้า 3
ขอบคุณข้อมูลจาก : cooking.kapook.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
รีวิว “ทูน่ากระป๋อง” ในน้ำเกลือ น้ำแร่ และน้ำมัน
เลือกแบบไหน? ให้ลูกได้ประโยชน์สูงสุด!
และเมื่อทราบกันดีแล้วว่า ทูน่ากระป๋อง แต่ละแบบเป็นอย่างไร คุณแม่ก็คงไม่ต้องยืนงงกันอีกแล้วนะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อให้ลูกน้อยได้ประโยชน์สูงสุด แม่น้องฮันน่าห์ขารีวิว จึงไปเสาะแสวงหาทูน่ากระป๋อง ซึ่งแช่ในน้ำต่าง ๆ แบบชนิดก้อน มาเพื่อให้คุณแม่ได้พิจารณาเลือกดูว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดีให้ลูกได้ประโยชน์สูงสุด ตามไปดูกันเลยค่ะ
โดยในการรีวิวครั้งนี้ แม่น้องฮันน่าห์ได้แจกแจงรายละเอียดต่าง ๆ พร้อมสรุปให้คุณแม่ได้เห็นถึง ทูน่ากระป๋อง ที่คุณแม่สามารถไว้วางใจซื้อมาให้ลูกน้อยทานให้ได้ประโยชน์เต็มที่ ดังนี้
-
รายละเอียดของส่วนประกอบทั้ง 13 กระป๋อง
-
แยก “ทูน่ากระป๋อง” ยี่ห้อใด อยู่ในน้ำเกลือ น้ำแร่ และน้ำมัน
-
ตารางเทียบราคาต่อกรัม ยี่ห้อไหนถูกที่สุด
-
ยี่ห้อไหนไม่ใส่ผงชูรสและวัตถุกันเสีย
-
ยี่ห้อไหนมีเนื้อปลาเยอะสูงสุดถึง 75%
-
ยี่ห้อไหนมีโคเลสเตอรอลต่ำกว่า 10%
-
ยี่ห้อไหนมีปริมาณโซเดียมตำกว่า 5%
-
ตารางเทียบข้อมูลโภชนาการของทูน่าแบบเน้นๆ ทั้ง 13 กระป๋อง
♥ ซึ่งคุณแม่สามารถทราบรายละเอียดทั้งหมดได้จากข้อมูลด้านล่างนี้เลยค่ะ ⇓
อ่านต่อ “ทูน่ายี่ห้อไหนถูกกว่ากัน?
กับตารางเทียบราคาต่อกรัมของทูน่าทั้ง 13 กระป๋อง” คลิกหน้า 4
อ่านต่อ >> “ตารางเทียบข้อมูลโภชนาการแบบเน้นๆ กับทูน่าทั้ง 13 กระป๋อง” คลิกหน้า 5
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เทคนิคการเปิดกระป๋องไม่ให้น้ำไหลออกมา
หลายครั้งที่เวลาเปิดกระป๋องอาหารแล้วชอบมีน้ำหกไหลออกมานอกกระป๋องเลอะเทอะไปหมด วิธีแก้คือ ให้นำกระป๋องด้านตรงข้ามกับที่เปิดกระแทกแรง ๆ กับพื้นประมาณ 2-3 ครั้ง ก็จะหมดปัญหาน้ำไหลออกมานอกกระป๋องแล้วค่ะ
หลักในการเลือกซื้ออาหารกระป๋อง
อย่างไรก็ดีปัจจุบันอาหารกระป๋องเป็นที่แพร่หลายในท้องตลาด และซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ซึ่งมีหลายคนและหลายครอบครัวให้ความนิยมในการบริโภค แต่คุณทราบหรือไม่ว่าอาหารที่คุณบริโภคอยู่นั้นมีความปลอดภัยแค่ไหน ฉะนั้นการเลือกซื้ออาหารกระป๋องในแต่ละครั้งจึงมีความจำเป็นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเลือกซื้ออาหารอื่น ๆ หลักการเลือกซื้ออาหารกระป๋อง มีดังนี้
- ดูลักษณะกระป๋อง โลหะของกระป๋องต้องสุกใสเป็นเงางาม ต้องไม่บุบบี้หรือโป่งพอง ตะเข็บหรือรอยต่อต้องเรียบร้อยและแน่นหนา ขอบกระป๋องต้องอยู่ในรูปเดิม ไม่นูนหรือโป่งออกมา และกระป๋องต้องไม่เป็นสนิม
- เมื่อกดนิ้วลงไปบนฝากระป๋องถ้าฝากระป๋องบุบหรือยุบลงไป หรือส่วนอื่นของฝากระป๋อง หรือตัวกระป๋องโป่งหรือพองออก ไม่ควรเลือกอาหารกระป๋องนั้น
- เมื่อเขย่ากระป๋อง ถ้ามีเสียงกระฉอกของน้ำกับอากาศ ไม่ควรซื้อหรือกินอาหารในกระป๋องนั้น หรือแม้จะเป็นกระป๋องอื่นชนิดเดียวกัน ถ้าไม่มีเสียงเช่นนั้นก็ไม่ควรกินเช่นกัน
- เมื่อเปิดกระป๋อง ถ้ามีอากาศ (ลม) พุ่งออกมาจากภายในกระป๋อง ห้ามกินอาหารในกระป๋องนั้น
- เมื่อเปิดกระป๋องแล้วได้กลิ่นบูดเน่า หรือกลิ่นผิดแปลกไปจากที่เคยใช้หรือเคยกิน ห้ามชิม และห้ามกินอาหารในกระป๋องนั้นเป็นอันขาด
- เมื่อเทอาหารออกจากกระป๋องแล้ว ถ้าภายในกระป๋องมีสนิม หรือมีรอยถลอก หรือรอยด่างของโลหะ ไม่ควรกินอาหารในกระป๋องนั้น
- ควรดูที่ฉลาก ศึกษาวันเดือนปีที่ผลิตอาหารกระป๋องนั้น ไม่ควรซื้อหรือกินอาหารกระป๋องที่เก็บไว้นาน เพราะการเก็บไว้นานจะทำให้คุณค่าทางอาหารลดลงไปเรื่อย ๆ
ซึ่งทั้ง 7 ข้อที่กล่าวมานี้ คงพอเป็นแนวในการให้คุณแม่เลือกซื้ออาหารกระป๋องในครั้งต่อไปได้อย่างถูกต้อง เพียงคุณแม่หมั่นสังเกตอีกสักนิด อาหารที่ซื้อมาบริโภคก็จะมีคุณค่าทางโภชนาการตามที่คุณต้องการ
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- รีวิว ชีสสำหรับเด็ก ให้ลูกกินยี่ห้อไหนดี? มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยเพิ่มน้ำหนักได้!
- รีวิวน้ำมะพร้าว ยี่ห้อไหนดี “น้ำตาลน้อย โพแทสเซียมสูง เพื่อแม่ท้องโดยเฉพาะ!
- เลือกซื้อ แยมสตรอเบอร์รี่ ยี่ห้อไหนดี ไม่ทำลายสุขสภาพลูกน้อย
- ขนมปังโฮลวีต แหล่งคาร์โบไฮเดตรเพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อย เลือกแบบไหน อย่างไรให้ลูกดี
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.healthcarethai.com