อาหาร ขยะ ภัยร้ายทำลายสมองลูกไอคิวต่ำ !!

อาหาร ขยะ หรือที่เรียกกันว่าจั๊งค์ฟู๊ด (Junk Food) รู้ไหมคะว่าให้เด็กทานกันมากๆ ไม่ใช่แค่โรคอ้วน เบาหวานถามหาค่ะ เพราะอาหารขยะยังมีผลต่อระดับไอคิวของเด็กๆ ด้วยนะคะ และเพื่อให้เห็นถึงโทษของอาหารประเภทจั๊งค์ฟู๊ด ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับทุกครอบครัวก่อนที่จะให้ลูกกินอาหารจั๊งค์ฟู๊ดกันค่ะ

 

อาหาร ขยะ รู้จักกันมากแค่ไหน?

เชื่อว่าหลายๆ ครอบครัวต้องเคยตามใจให้ลูกกิน อาหาร ขยะ กันมาบ้าง ไม่ว่าจะหลักเลิกเรียน หรือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ งานปาร์ตี้วันเกิด ฯลฯ จะต้องมีเมนูจากอาหารจั๊งค์ฟู๊ดไม่ 1 ก็ 2 เมนูเป็นอย่างน้อย อาหารประเภทนี้เด็กๆ ชอบค่ะ เพราะกินง่ายและอร่อยลิ้นดีซะเหลือเกิน แถมเด็กบางคนยกให้เป็นอาหารโปรดเพราะไม่มีผักมากวนใจ

แล้วในชีวิตประจำวันเราได้เจอกับ อาหาร ขยะ อะไรบ้าง คุณพ่อคุณแม่พอจะทราบกันไหมคะ กระซิบให้ว่าอาหารประเภทจั๊งค์ฟู๊ดมีอยู่ด้วยถึง 3 ประเภทเลยค่ะ เราลองไปแยกดูกันหน่อยค่ะว่าพอจะคุ้นๆ ผ่านตา ผ่านปากกันบ้างไหม…

1. ประเภททอด

เด็กๆ คุ้นไหมคะกับ ไก่ทอดแป้งกรอบ มันฝรั่งแผ่นทอด เฟรนช์ฟรายส์รสชาติเค็มๆ จิ้มกินกับซอสมะเขือเทศ ที่จานเดียวไม่เคยพอเป็นต้องขอคุณแม่เพิ่ม อาหารจั๊งค์ฟู๊ดประเภทนี้ต้องทอดด้วยน้ำมันจำนวนมาก ชนิดที่ว่าทอดน้ำมันท่วมเลยค่ะ หากให้เด็กๆ ทานมาก และบ่อยๆ สามารถทำให้มีปัญหาสุขภาพตามมาได้ เช่น โรคไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน เป็นต้น

2. ประเภทน้ำตาลสูง

พอจะนึกออกกันไหมคะว่ามีอะไรบ้าง ถ้าที่คุ้นเคยกันกับเด็กๆ ก็เช่น ไอศกรีมช็อกโกแลต โดนัท น้ำอัดลม คุกกี้ คัพเค้ก ฯลฯ ขนมพวกนี้มีไขมันทรานส์สูงด้วย แล้วรสชาติก็หวานถูกใจเด็กๆ กินหวานมากๆ ผลเสียต่อสุขภาพก็มากด้วยเหมือนกันค่ะ เพราะไหนจะน้ำตาลในเลือดสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วนถามหาแน่นอนค่ะ

3. ประเภทคาร์โบไฮเดรต

ซื้อง่ายได้กินเร็ว อร่อยลิ้น ถูกปาก ถูกใจเด็กๆ ก็ต้องนี่เลยค่ะ พิซซ่าแป้งหนา มีชีส มีไส้กรอกแล้วผักอยู่ไหนละเนี่ย!? หรือวันหยุดขี้เกียจทำกับข้าว เที่ยงๆ ชวนกันไปพ่อแม่ลูกนั่งร้านกินเบอร์เกอร์ห้างแถวบ้านกันดีกว่า ซึ่งเจ้าเบอร์เกอร์เนี่ยก็มีแต่แป้งกับเนื้อสัตว์ ผักที่มีก็น้อยนิด แถมลูกยังเขี่ยออกไม่กินกันอีก คาร์โบไฮเดรตทานเข้าไปมากๆ ร่างกายเผาผลาญใช้ไม่หมด ก็สะสมอยู่ร่างกายกลายเป็นน้ำตาล สุขภาพแย่เพราะโรคอ้วนถามหาได้นะคะ

บทความแนะนำ คลิก>> เติมอาหารสมองให้ลูกในตอนเช้า สร้างจิตสำนึกที่ดีให้ลูก

พอจะเห็นภาพและพิษสงของอาหารขยะกันบ้างแล้วใช่ไหมคะ ให้ลูกกินมากไป ไม่ออกกำลังกาย ไม่แปรงฟัน ฟันผุ โรคถามหาหลายโรคเลยนะเนี่ย

อ่านต่อ อาหารจั๊งค์ฟู๊ด ทำลูกไอคิวต่ำ หน้า 2

 

อาหาร ขยะ ภัยร้ายทำไอคิวลูกต่ำ !!

ครอบครัวไหนที่ยังให้ลูกทานอาหารจั๊งค์ฟู๊ดกันอยู่บ่อยๆ ล่ะก็ รู้ไหมคะว่านอกจากจะมีผลต่อสุขภาพในระยะยาวแล้ว  อาหารประเภทนี้ยังส่งผลร้ายต่อสมองของลูกอีกด้วย โดยเฉพาะเด็กที่อายุตั้งแต่ 1-3 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงวัยทองของสมองที่จะเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Bristol ระบุว่า เด็กที่อายุยังไม่ถึง 3 ขวบ หากทานอาหารที่มีน้ำตาล และไขมันมากๆ จะส่งผลต่อกระบวนการพัฒนาของ เซลล์สมองทำให้มีประสิทธิภาพลดลง รวมถึงทำให้มีไอคิวต่ำกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน

ซึ่งในงานวิจัยชิ้นนี้ได้ทำการทดสอบกับเด็ก 2 กลุ่มที่อายุน้อยกว่า 3 ขวบ โดยที่ให้

• เด็กกลุ่มแรกได้ทานอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน และมีการปรับอาหารให้ดีขึ้นในภายหลัง
• เด็กกลุ่มที่สองได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารที่คุณแม่ทำเองจากที่บ้าน

ซึ่งพบว่าเด็กกลุ่มแรกมีไอคิวต่ำกว่าเด็กกลุ่มที่สองอยู่ 5 แต้ม จากการทดสอบนี้ทำให้พบว่าถึงจะมีการปรับอาหารให้มีคุณภาพมากขึ้นกับเด็กกลุ่มแรก แต่ก็ดูจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร นั่นเพราะกระบวนการพัฒนาสมองในช่วง 3 ขวบปีแรกถือเป็นช่วงที่ดีและสำคัญสุดของชีวิตเด็ก เนื่องจากเป็นช่วงที่สมองมีการเรียนรู้ และพัฒนาเติบโตขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

บทความแนะนำ คลิก>> 10 เทคนิค ช่วยให้ สมองดี สมองไบรท์

การให้เด็กเล็กๆ ได้เริ่มลิ้มลองอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เต็มไปด้วยปริมาณน้ำตาล ไขมัน อย่างอาหารจั๊งค์ฟู๊ดนอกจากผลกระทบต่อสุขภาพสมองแล้ว ยังทำให้เด็กขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งต่อสุขภาพ พัฒนาการที่ดีสมวัยให้กับลูก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกได้เริ่มต้นโภชนาการที่ดีกันตั้งแต่ขวบปีแรก เพราะการเริ่มต้นดีย่อมส่งผลต่ออนาคตที่ดีของเด็กๆ นั่นเองค่ะ

อ่านต่อ 5 อาหารบำรุงสมองลูกน้อย หน้า 3

 

5 อาหารบำรุงสมองลูกน้อย

ช่วง 3 ขวบปีแรก เป็นช่วงที่พัฒนาการสมองเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องได้รับสารอาหารจากอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งหากจะให้ง่ายที่สุดสำหรับคุณแม่ก็คือ การจัดอาหารให้ลูกได้ทานอย่างหลากหลาย ทานให้สมดุลกันในแต่ละหมู่ของอาหาร และนี่คือตัวอย่างอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อพัฒนาการ และสิทธิภาพการทำงานของสมองของเด็กๆ ค่ะ

1. แซลมอน

เป็นที่มีปลาโอเมก้า-3 มีกรดไขมัน EPA และ DHA สูง สารอาหารเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างและพัฒนาสมองของลูกน้อย

มีงานวิจัยมากมายที่พิสูจน์แล้วว่า คนที่ทานกรดไขมัน EPA และ DHA เป็นประจำมักจะมีสมองเฉียบแหลมคิดได้อย่างฉับไว และทำแบบทดสอบทักษะด้านจิตใจได้ดี

2. ไข่

เป็นที่รู้กันดีว่า “ไข่” ให้โปรตีนสูง แต่นอกเหนือจากโปรตีนแล้ว ไข่แดงยังอุดมไปด้วยโคลิน (choline) ซึ่งมีส่วนช่วยพัฒนาความจำด้วยค่ะ

3. ธัญพืชโฮลเกรน

ธัญพืชโฮลเกรน (Whole Grain) หรือธัญพืชเต็มเมล็ด คือ ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีหรือขัดสีน้อยที่สุด จึงยังคงรักษา สารอาหารที่มีประโยชน์ไว้ได้ครบถ้วนกว่าธัญพืชที่ขัดสีแล้ว

น้ำตาลกลูโคสเป็นสารอาหารที่สมองจะขาดไม่ได้เลย ดังนั้นจึงควรทานธัญพืชไม่ขัดสีเป็นประจำ เพราะใยอาหารในธัญพืช ไม่ขัดสีมีส่วนสำคัญที่จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ธัญพืชไม่ขัดสียังมีวิตามิน B สูง ช่วยบำรุงระบบประสาทได้ดีอีกด้วยค่ะ

4. ผักสีสด

มะเขือเทศ มันเทศ ฟักทอง แครอท ผักปวยเล้ง ผักสีต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้เซลล์สมองของลูกน้อยได้อย่างดี

5. นมและโยเกิร์ต

ผลิตภัณฑ์จากนมอุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามิน B ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อสมอง สารส่งผ่านประสาท และเอนไซม์ต่างๆ “นมและโยเกิร์ต” ยังให้ทั้งโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สมองชอบมาก”

มีงานวิจัยเปิดเผยว่า เด็กเล็กและวัยรุ่นต้องการปริมาณวิตามิน D มากกว่าปริมาณที่แนะนำถึง 10 เท่า วิตามิน D นั้นมีประโยชน์ต่อระบบประสาทร่วมกล้ามเนื้อ และวงจรชีวิตของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย

การส่งเสริมให้ลูกได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ ย่อมดีกว่าการให้ลูกทาน อาหาร ขยะ เป็นไหนๆ ค่ะ ที่สำคัญพ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการบริโภคอาหารที่ดีและมีคุณภาพให้ลูกได้เห็นเป็นตัวอย่างด้วยนะคะ ถึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวของลูกค่ะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย

 

 

อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก

บำรุงสมองลูกน้อย ด้วย “อาหาร” ตั้งแต่แรกเกิด-3 ขวบ
เปิดสูตรเด็ด! เมนูบำรุงสมอง ลูกน้อยซูชิข้าวผัดแซลมอนทำง่ายได้ประโยชน์เต็มคำ (มีคลิป)

---

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
www.thaiday.com
sites.google.com