AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ห้ามลูกกิน! 18 อาหารอันตราย เสี่ยงทำลายสมอง พัฒนาการช้า

อาหารอันตราย

อาหาร” ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ช่วยในการพัฒนาสมองของลูกน้อย  แต่ในทางกลับกัน  อาหารบางประเภทก็อาจเป็น อาหารอันตราย ส่งผลร้าย ทำลายสมองลูก ของคุณได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยระวังเรื่องการเลือกอาหารเพื่อให้ลูกกิน

เผย 18 อาหารอันตราย เสี่ยงทำลายสมอง พัฒนาการช้า

อาหาร มีบทบาท ในการกระตุ้นพัฒนาการของสมองและยังมีอิทธิพลต่อพฤติกรรม สติปัญญา และความเฉลียวฉลาดของเด็กเป็นอย่างมาก ซึ่งพ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกมีสมองดี ซึ่งการจะทำให้มีสมองที่ดีนั้น เกิดจากการเอาใจใส่ในเรื่องต่างๆทั้งการจัดการอารมณ์ การเรียนรู้ หรือแม้กระทั้ง  การเลือกอาหารดีๆ ให้ลูกได้ทานเพื่อบำรุงสมอง  แต่หากเลือกอาหารผิดเป็นโทษ ผลเสียที่ตามมาแทนที่จะไม่ช่วยอะไรแล้ว  อาหารยังทำลายสมองลูกของคุณได้อีกเช่นเดียวกัน มาดูดีกว่าว่าเราควรจะเลี่ยงอาหารอะไรกันบ้าง ที่จะทำร้ายและทำลายสมองของลูกรัก

รายการ อาหารอันตราย ทำลายสมองลูก

1. ฟาสต์ฟู้ด 

อาหารจานด่วนประเภทจังก์ฟู้ด หรือที่แปลเป็นภาษาไทยตรงตัวว่า อาหารขยะ อย่างพวก พิซซ่า เฟรนช์ฟรายส์ แฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอด แซนด์วิช หมายถึงอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการใดๆ (Non-Nutritional Value) มักมีสารอาหารไม่ครบถ้วน นอกจากนี้ อาหารจังก์ฟู้ดบางชนิดยังใส่สารกันบูด หรือมีเกลือ ซึ่งมีโซเดียมในปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งจะก่อให้เกิดโทษกับร่างกาย ทำให้เป็นโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต และโรคหัวใจได้ ยิ่งถ้าเด็กในวัยกำลังเจริญเติบโต บริโภคอาหารประเภทจังก์ฟู้ดมากเกินไป เด็กก็จะได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อการพัฒนาสมอง ซึ่งจะส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็กในระยะยาวได้

2. อาหารที่มีเกลือเยอะ

โซเดียมนั้นนอกจากจะทำให้สมองของเราทำงานช้าแล้ว ยังไม่มีดีต่อสุขภาพ ทำให้ตัวบวมอีกด้วย

3. โปรตีนแปรรูป

เนื้อสัตว์ เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพสูง ซึ่งจะให้ประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควรได้รับจากเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพ ไม่ผ่านการแปรรูป สำหรับเนื้อสัตว์ที่ผ่านการแปรรูป เช่น ไส้กรอกบางชนิด หรือ แฮมบางชนิด เป็นโปรตีนแปรรูป ซึ่งจะมีการผสมสารเคมีที่ใช้ในการแปรรูปอาหาร อย่างสารกันบูด และโซเดียมสูง หากให้ลูกทานโปรตีนแปรรูปเหล่านี้บ่อยๆ จนสะสมในร่างกายมากๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ในการประมวลผลต่างๆ ทำให้การเรียนรู้ และการจดจำทำได้ไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะในเด็กเล็ก

4. โยเกิร์ตแบบมีรสต่างๆ

ถ้าหากคุณเป็นคนชอบรับประทานโยเกิร์ตเอาซะมากๆ ก็ควรเลือกโยเกิร์ตธรรมชาติที่ไม่มีการสังเคราะห์รสชาติ เพราะพวกรสต่างๆนั้น มีสารเคมีที่ไม่ดีเลยกับสมองของเรา

5. เบคอน / แฮม

เบคอนหรือความจริงแล้วก็คือ หมูสามชั้นติดมันที่ถูกสไลด์ให้เป็นแผ่นบางนั่นเอง แน่นอนว่ามันต้องอุดมไปด้วยไขมัน ไขมัน และไขมัน ! ที่คุณอาจมีสิทธิ์อ้วนได้แบบงง ๆ และคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดก็อาจอุดตันจนก่อให้เกิดโรคหัวใจได้โดยที่คุณไม่ตั้งใจ แถมเบคอนยังมีส่วนผสมของดินประสิว ซึ่งอาจเปลี่ยนเป็น “สารไรโตรซามีน” สารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ด้วย ส่วนแฮมก็ใช่ย่อย เพราะมีทั้งไขมัน สารกันบูด และสารไนโตรซามีน ซึ่งเป็นตัวก่อมะเร็ง เช่นเดียวกับเบคอนและไส้กรอก

6. อาหารทอด

อาหารประเภทของทอดทุกรูปแบบมักจะใช้น้ำมันที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อการทำงานของสมองเรา

อ่านต่อ >> “อาหาร ทำลายสมองลูก 7-18” คลิกหน้า 2

7. เครื่องดื่มบำรุงกำลัง

สำหรับผู้ใหญ่ การดื่มเครื่องดื่มบำรุงกำลังถือเป็นเรื่องปกติ แต่ก็มีเด็กบางคนคิดผิดว่าเครื่องดื่มบำรุงกำลังช่วยในการเพิ่มกำลังในการออกกำลังได้ หรือหลังจากที่เล่นจนเสียเหงื่อไปมาก ก็ใช้เครื่องดื่มบำรุงกำลังเป็นตัวช่วย แต่เครื่องดื่มบำรุงกำลังประเภทนี้มีสารกระตุ้นให้สมองตื่นตัว แต่มันทำให้สมองเฉื่อยซึมลงทันทีเมื่อฤทธิ์ของสารกระตุ้นหมดไป

เครื่องดื่มบำรุงกำลัง หนึ่งใน อาหารอันตราย ทำลายสมองลูกได้

8. น้ำสลัด

น้ำสลัด ถือเป้น หนึ่งใน อาหารอันตราย เพราะมีส่วนผสมของน้ำตาลสูง ทำให้สมองเรียนรู้ช้า ดังนั้นราดน้ำสลัดน้อยๆ หรือเปลี่ยนชนิดของน้ำสลัดแบบที่ sugar free หรือ low sugar ค่ะ

9. ข้าวโพดคั่ว

ข้าวโพดคั่วส่วนใหญ่จะมีระดับโซเดียมสูงมาก และสำหรับข้าวโพดคั่วรสชาติใหม่ๆ ที่เราอาจจะเคยลองกันมาแล้วเวลาไปดูหนังรสชาติเหล่านี้เกิดจากสารสังเคราะห์ ซึ่งทั้งโซเดียมและสารสังเคราะห์เหล่านี้สกัดกั้นการทำงานของสมองอย่างเป็นระบบนั่นเอง

10. ข้าวโอ๊ตอบแห้ง

บางบ้านเลือกที่จะทานข้าวโอ๊ตอบแห้ง ผสมกับลูกเกด ผสมผลไม้ และใส่นมนิดหน่อยเป็นอาหารเช้า เหมือนจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพใช่ไหมคะ  แต่จริงๆ แล้วมันมีน้ำตาลสูงมากและเมื่อทานติดต่อกันนานๆ รับรองว่าน้ำตาลไปขัดขวางการทำงานของสมองแน่นอน ทางที่ดี ควรทานข้าวโอ๊ตแบบไม่มีน้ำตาลที่มีรสชาติจืดๆน่าจะดีที่สุดค่ะ

ของหวาน หนึ่งใน อาหารอันตราย ทำลายสุขภาพและสมองของลูกน้อย

11. หมากฝรั่ง

ในการศึกษาเก่าๆ จะบอกเราว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งจะช่วยให้สมองกระปรี้กระเปร่า เกิดสมาธิดี แต่ล่าสุด วารสารจิตวิทยา Experimental Psychology ของอังกฤษบอกว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งมีส่วนทำให้ความจำระยะสั้นของคนเราถดถอยลง แต่ทั้งนี้ถ้าเรากินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ หรือคอยจิบน้ำเปล่าระหว่างวัน การเคี้ยวหมากฝรั่งย่อมไม่มีผลใดๆ กับสมองของเรา

12. ของหวานและน้ำตาล

นอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว น้ำตาลยังทำลายสมองของคนเราได้ด้วย  นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลีส (หรือ UCLA) ให้หนูทดลองกินอาหารที่ผสมฟรุกโตสในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วสแกนสมองพบว่า ใยประสาทในสมองทำงานติดขัดทำให้มีปัญหาเรื่องการเรียนรู้และสูญเสียความทรงจำ นอกจากนี้นักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตว่าที่สมองทำงานด้อยลงเป็นเพราะน้ำตาลฟรุกโตสที่มากเกินไปไม่กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ทำให้สมองประมวลผลผิดพลาด ซึ่งส่งผลต่ออารมณ์และความคิดแน่นอน

 

อ่านต่อ >> “อาหารทำลายสมองลูก 13-18” คลิกหน้า 3

13. เนื้อแดงและเนย

หลายคนอาจจะคิดว่าเนื้อแดงไม่ติดมันนั้นปลอดภัย ไม่น่า อะไรได้ แต่คุณคิดผิดค่ะ เพราะในเนื้อแดงนั้นมีไขมันอิ่มตัวอยู่ในปริมาณมาก งานวิจัยจากฮาร์วาร์ดตีพิมพ์ในวารสาร the Annals of Neurology บอกว่านักวิจัยได้ศึกษาพฤติกรรมการกินอาหารของผู้หญิงกว่า 6,000 คน เป็นเวลา 4 ปี พวกเขาพบว่าผู้หญิงที่กินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวมากที่สุด (เนื้อแดง แฮม เบคอน เนย นม) สมองจะมีประสิทธิภาพลดลง

14. อาหารโลว์คาร์โบไฮเดรต

คุณพ่อคุณแม่เข้าใจว่าอาหารที่เป็นแป้งมักจะทำให้อ้วน จึงใช้วิธีลดคาร์โบไฮเดรตหรือกินแป้งให้น้อยลง แต่ทราบหรือไม่ว่า ถ้าได้รับคาร์โบไฮเดรตน้อยเกินไปร่างกายจะขาดพลังงานสะสม ทำให้หงุดหงิดและเกิดความเครียดได้ ดังนั้นหากไม่อยากอ้วนและสมองเสื่อมไปพร้อมๆ กัน เราเลี่ยงมากินข้าวกล้องหรือขนมปังโฮลวีทแทนก็ได้

15. ชาและกาแฟ

โดยส่วนมากแล้ว มักจะไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหน ให้ลูกวัยก่อนเข้าเรียน ดื่มชาและกาแฟกันอยู่แล้ว แต่สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่คิดจะให้เด็กได้ลองดื่มชาและกาแฟ คาเฟอีนในชาและกาแฟจะส่งผลให้ประสาทตื่นตัว นอนไม่หลับ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก อีกทั้งยังขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กในกระแสเลือด เพื่อส่งออกซิเจนไปยังสมอง สำหรับพัฒนาการทางสมองของเด็กอีกด้วย

16. อาหารแช่แข็ง และอาหารกึ่งสำเร็จรูป

อาหารกึ่งสำเร็จรูป หรืออาหารประเภทที่แค่นำออกมาจากช่องแข็ง ก็นำมาอุ่นพร้อมรับประทานได้เลย รวมถึงอาหารกระป๋อง เป็น อาหารอันตราย ที่ไม่ควรให้เด็กก่อนวัยเรียนได้ทานบ่อยๆ เพราะอาหารเหล่านี้ ต้องผ่านกระบวนการยืดอายุอาหาร เพื่อให้เก็บไว้ทานได้นานขึ้น นอกจากจะมีสารเคมีแล้ว อาหารเหล่านี้ยังไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการ หากให้ลูกทานมากๆ จะสะสมในร่างกาย ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อมขึ้นได้เมื่อลูกน้อยโตขึ้น

17. อาหารหมักดอง

อาหารประเภทนี้จะใช้เกลือเป็นวัตถุดิบสำคัญในการหมักดอง จึงทำให้อาหารหมักดองมีโซเดียมสูง และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากรับประทานเข้าไปเป็นประจำ โซเดียมจะเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกายของคุณ จนทำให้คุณเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง ระบบปัสสาวะได้รับผลกระทบที่ไม่ดี แล้วคุณจะมีอาการตัวบวม และที่เป็นอันตรายที่สุดอาจเป็นโรคใหลตาย ซึ่งสาเหตุของโรคนี้เกิดจากการที่ร่างกายขาดสารเคมีที่จะไปทำลายสารไทรามีนที่มีอยู่ในลำไส้และกระแสเลือด ซึ่งสารนี้จะได้รับจากอาหารหมักดอง ทำให้เกิดการอุดตันในหลอดเลือดคล้ายกับภาวะโรคหัวใจ ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายขาดความสมดุล ส่งผลให้หัวใจหยุดเต้นไปเฉย ๆ โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว

18. อาหาร ปิ้ง / ย่าง

การปิ้ง หรือย่างอาหารที่ใช้ความร้อนสูงจะทำให้เกิด “สารอะคริลาไมด์” ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ ได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งช่องปาก มะเร็งปากมดลูก มะเร็งอัณฑะ มะเร็งผิวหนัง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสารอันตรายที่เกิดจากการทอด ปิ้ง หรือย่างอีกหลายชนิดด้วยกัน เช่น สารไนโตรซามีน ที่มักจะแฝงตัวอยู่ในปลาหมึกย่างและปลาทะเลย่าง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งตับ มะเร็งไต มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร, สารกลุ่มพัยโรลัยเซต เป็นสารที่เกิดจากการใช้ความร้อนสูง พวกมันจะอยู่ในส่วนที่เป็นสีดำที่ไหม้เกรียมของอาหาร สารตัวนี้มีอันตรายอย่างมากต่อ DNA ในร่างกาย เพราะมันจะทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์จนกลายเป็นเซลล์มะเร็งที่น่ากลัวนั่นเอง, สารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน สารชนิดนี้จะแฝงตัวอยู่ในเขม่าควันไฟต่าง ๆ เป็นสารพิษที่มีความอันตรายมากกว่าสารพิษอื่น ๆ ที่กล่าวมา เพราะพวกมันเป็นสารเริ่มต้นของสารก่อมะเร็ง คุณอาจจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอดหากสูดดมเข้าไปนาน ๆ และถ้าควันนั้นสัมผัสโดนผิวหนังคุณบ่อย ๆ คุณอาจมีสิทธิ์เป็นมะเร็งผิวหนังได้โดยไม่รู้ตัว

จากอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงทั้งหมดที่กล่าวมา ถือเป็น อาหารอันตราย หากได้รับเข้าไปมากจนเกินความพอดี ก็อาจไป ทำลายสมองลูก และของคุณพ่อคุณแม่ได้เช่นกัน ดังนั้นแล้วหากอยากมีสมองดี ก็ควรที่จะเลือกรับประทานอาหารที่ดี และหลีกเลี่ยงอาหารที่กล่าวมาข้างต้นนี้ก็จะดีมากๆค่ะ และทางที่ดีควรออกกำลังกายด้วยนะค่ะ เพื่อสุขภาพสมองที่ดีค่ะ

อ่านต่อบทความน่าสนใจ


ที่มาจากเว็บไซต์ Reader’s digest

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: woman.teenee.com/health/3511.html

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

Save

Save