ทุกวันนี้อันตรายต่างๆ เป็น “ภัยใกล้ตัว” มากขึ้น เด็กๆ ก็เปรียบเหมือนผ้าขาวที่ต้องคอยสอน และให้ความรู้ แนะนำวิจารณญาณในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม และสังคม รวมไปถึงป้องกันการถูกชักจูงจากผู้ที่ไม่หวังดี บางครั้งทำให้เด็กหลงเชื่อ และทำให้ลูกได้รับอันตรายโดยไม่คาดคิด
ภัยใกล้ตัว
1.การลักพาตัว
ในปัจจุบันมีข่าวการลักพาตัวเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับคุณพ่อ คุณแม่ที่มีลูกในวัยเด็กเล็กเป็นอย่างมาก ในสมัยก่อนถ้าเด็กถูกลักพาตัว ถ้าไม่ถูกพาไปเป็นขอทาน ก็ถูกพาไปใช้แรงงาน ซ้ำร้ายถ้าเป็นเด็กที่หน้าตาดี ไม่ว่าเด็กผู้หญิง หรือเด็กผู้ชาย ก็อาจจะถูกพาไปค้าประเวณี แต่ในปัจจุบันธุรกิจการค้ามนุษย์เริ่มมีอิทธิพลครอบคลุมไปในหลายๆ ส่วน แม้กระทั่งในทางการแพทย์แบบผิดกฎหมายที่มีการลักพาตัวเด็กไปเพื่อขโมยอวัยวะก็มี
2.การถูกข่มขืน ถูกทำอนาจาร
แม้แต่ในประเทศไทยที่เน้นในเรื่องศีลธรรม และจริยธรรมเอง ยังมีกลุ่มคนส่วนหนึ่งที่กระทำความผิด ทำให้สังคมไทยดูเสื่อมถอยลงไปทุกที การไว้ใจคนแปลกหน้า หรือแม้แต่คนใกล้ตัว ก็อาจจะกลายเป็นอันตรายต่อลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย ข่าวการถูกข่มขืน กระทำชำเราในเด็ก เกิดขึ้นเนื่องจากการขาดสติของคน ถึงแม้ว่าจะมีกฎหมายเข้มงวดเพียงใด ถ้าทุกคนในสังคมไม่ช่วยกันดูแล เรื่องเหล่านี้ก็คงเกิดขึ้นอีกซ้ำซาก
อ่านต่อ “7 ภัยอันตราย… ใกล้ตัวลูกน้อย” คลิกหน้า 2
3.การติดสารเสพติด และอบายมุข
อบายมุขทั้งหลาย เช่น สุรา บุหรี่ และสิ่งเสพติดทั้งหลาย เป็นสิ่งที่อันตรายต่อเด็ก การฝากยาไว้กับเด็ก หรือหลอกเด็กให้ลองดื่มสุรา ลองสูบบุหรี่ หรือสูดดมสารเสพติด หรือแม้กระทั่งคนในครอบครัวที่เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีเอง ที่ดื่มสุรา และสูบบุหรี่ให้ลูกเห็น ก็ส่งผลให้เด็กในบ้านเกิดการเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนั้น ส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย และจิตใจโดยไม่รู้ตัว
4.การใช้เทคโนโลยี
ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีก้าวไกลไปมาก เด็กๆ หลายคนมีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนใช้เป็นของตัวเอง สามารถเปิดคอมพิวเตอร์ หรือเล่นเกมผ่านแท็บเลตได้เอง ทั้งๆ ที่ยังไม่เข้าโรงเรียน กลายเป็นสิ่งเสพติดที่เด็กๆ ขาดไม่ได้ ต้องการไขว่คว้าให้ได้มา โดยไม่ทราบถึงอันตรายที่เกิดขึ้น และผลข้างเคียงจากการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ซึ่งผลวิจัยจากฮาร์วาร์ดระบุว่า การใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อกันเป็นเวลานาน จะส่งผลให้เซลล์ในร่างกายของมนุษย์เปลี่ยนแปลง ก่อให้เกิดมะเร็ง หรือเนื้องอกในสมองได้ (http://mthai.com/square/news/news62855.html) โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 ขวบ กะโหลกศีรษะยังไม่หนาเพียงพอต่อการต้านทานจากผลกระทบของคลื่นแม่เหล็กที่ปล่อยออกมา ถ้าใช้บ่อยๆ เป็นเวลานานๆ อาจจะมีผลกระทบต่อสมอง รวมถึงการใช้โทรศัพท์มือถืออย่างไม่ระวัง อาจถูกลักทรัพย์ได้ง่าย
อ่านต่อ “7 ภัยอันตราย… ใกล้ตัวลูกน้อย” คลิกหน้า 3
5.การเดินทางบนท้องถนน
เด็กโตเกินกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ เริ่มเดินทางโดยลำพังด้วยรถประจำทาง หรือบางคนอาจใช้บริการบ้างเป็นครั้งคราว แต่ความปลอดภัยในการใช้รถประจำทางกลับแทบจะเป็น 0% อันตรายที่เกิดขึ้นบนท้องถนน อาจส่งผลให้ลูกน้อยเกิดอุบัติเหตุได้ ถ้าไม่ได้รับคำแนะนำ หรือคำสั่งสอนจากผู้ใหญ่
6.การเลือกซื้อของหน้าโรงเรียน
ตอนเย็นหลังเลิกเรียน จะสังเกตเห็นได้ว่ามีร้านค้าต่างๆ มาตั้งร้านขายของให้เด็กๆ ที่หน้าโรงเรียน และหนีไม่พ้นอาหารที่กินง่าย ถูกใจเด็กๆ และที่สำคัญคือ ไม่มีประโยชน์ เช่น ลูกชิ้นปิ้ง น้ำปั่น ไก่ทอด ขนมกรุบกรอบ ฯลฯ ล้วนแต่ล่อตาล่อใจเด็กๆ ให้ซื้อมารับประทาน พ่อค้าแม่ค้าบางคนก็เอาสิ่งที่เป็นอันตรายกับลูกน้อยมาขาย โดยชี้ชวนว่าเป็นของดี น่าตื่นเต้น เด็กๆ ก็ซื้อมาเล่น โดยไม่รู้เลยว่าสารที่เคลือบผิว หรือแม้กระทั่งขนมหน้าตาแปลกเหล่านั้นเป็นอันตราย
อ่านต่อ “7 ภัยอันตราย… ใกล้ตัวลูกน้อย” คลิกหน้า 4
7.การใช้อินเทอร์เน็ต และการติดเกมออนไลน์
อันตรายข้อนี้ กลายเป็นสิ่งเหนือความคาดหมาย สำหรับผู้ใหญ่ที่ก้าวตามโลกไม่ทัน สื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทกับชีวิตเรามากขึ้น โดยเฉพาะเด็กๆ ที่เกิดมาพร้อมยุคดิจิตอล ซึ่งถูกแทรกซึมไปทั่ว ไม่ว่าจะที่บ้าน โรงเรียน โรงพยาบาล ร้านค้า และหน่วยงานต่างๆ ถึงแม้จะมีประโยชน์อย่างมหาศาล ทำให้โลกใบนี้ย่อลงเหลือเพียงนิดเดียว ได้คุยกันข้ามโลกโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายราคาแพง
ถึงแม้ว่าจะมีด้านดีมากมาย แต่ก็มีผลร้ายสำหรับเด็กๆ ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่มีความรู้ ความเข้าใจ และขาดการยับยั้งชั่งใจ ถูกหลอกลวง หลอกล่อ จากบุคคลที่ตนเองพูดคุยด้วย ถูกชักชวน นัดแนะ และโน้มน้าวจิตใจ ให้นำไปสู่สิ่งที่เป็นอันตราย
รวมไปถึงสื่อออนไลน์ที่โชว์ภาพลามกอนาจาร หรือเรื่องโหดร้าย น่ากลัว ทำให้เด็กๆ จิตใจเตลิดไปกับโลกออนไลน์ไม่รู้ตัว
สิ่งต่อมาก็คือเกมออนไลน์ ที่หาดาวน์โหลดได้ทั่วไป ทำให้เด็กติด และหลงใหลในเกม ส่งผลต่อพฤติกรรม ยิ่งถ้าเป็นเกมที่มีความรุนแรง ก็จะยิ่งทำให้เด็กกลายเป็นคนก้าวร้าวรุนแรง ส่งผลให้ก่ออาชญากรรม แบบตัวอย่างที่เห็นกันตามข่าวครึกโครม
ทั้งหมดนี้ คืออันตรายที่คุณพ่อ คุณแม่ต้องคอยระวัง และเป็นเกราะป้องกันให้ลูกน้อย คอยให้ความรู้ ความเข้าใจ ดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด จนกว่าเขาจะพร้อม และต่อสู้กับโลกภายนอกได้ด้วยตัวเอง