AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ลูกท้องผูก ระบบขับถ่ายไม่ดี ของแบบนี้แก้ไขได้!

เชื่อสิ! ว่าคนเป็นแม่แทบทุกคนต้องคอยแอบลุ้น แอบเบ่งตามทุกครั้งที่ ลูกท้องผูก หรือ เบ่งอึไม่ออก ก็แหมพ่อคุณแม่คุณเล่นเบ่งเอาหน้าดำหน้าแดงแบบนี้ จะให้คนเป็นแม่อย่างเราไม่รู้สึกห่วงกันได้อย่างไร

แบบไหนเรียกว่า ลูกท้องผูก

อุจจาระที่เป็นก้อนแข็ง อีกทั้งยังหมายถึงความยากลำบากขณะขับถ่าย และต่อให้ลูกขับถ่ายทุกวัน แต่เป็นก้อนเล็ก ๆ แข็ง ๆ ก็สามารถเรียกได้ว่า ลูกท้องผูก แล้วละค่ะ ปกติแล้วเด็ก ๆ จะถ่ายอุจจาระเฉลี่ยวันละ 4 ครั้ง ในช่วงอายุ 1 สัปดาห์แรก ไปจนถึงวันละ 2 ครั้ง เมื่ออายุ 2 ปี ช่วงนี้ปริมาณอุจจาระจะเพิ่มเป็น 10 เท่า และมีน้ำประมาณร้อยละ 75

สำหรับเด็กที่มีอาการท้องผูกนั้น จะถ่ายออกมาเป็นก้อนเล็ก ๆ แข็ง ๆ หรือที่พวกเราคุ้นเคยกันดีว่า ลูกกระสุน ต้องเบ่งด้วยความยากลำบาก ทำให้มีอาการปวดท้อง จุกเสียด เนื่องจากอุจจาระตกค้างอยู่ในร่างกาย เด็กท้องผูกนั้นสามารถพบได้ในทุกช่วงวัย และพบมากที่สุดคือช่วงอายุประมาณ 6 เดือน – 4 ปี ซึ่งมีสาเหตุแตกต่างกันไปในเด็กแต่ละคน จากการเบ่งอุจจาระของลูกอาจทำให้เกิดอาการเจ็บก้น เขาจึงพยายามหยุดเบ่งโดยไม่รู้ตัว

ปกติเด็กมักถ่ายอุจจาระทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กแรกเกิดที่กินนมแม่ อาจถ่ายวันละ 5 – 6 ครั้ง แต่เมื่อเด็กโตขึ้น ความถี่ของการถ่ายอุจจาระจะลดลง  ทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความกังวลว่านี่คือ ลูกกำลังท้องผูกหรือไม่

ลูกท้องผูก มีอาการอย่างไร?

  • สัญญาณความถี่ของการอุจจาระที่บ่งบอกว่าลูกท้องผูก คือการถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งใน 1 สัปดาห์ หรืออาจถ่ายทุกวันแต่ต้องเบ่งมากและอุจจาระแข็งอาจจะเป็นก้อนเล็ก ๆ คล้ายลูกกระสุนปืนอัดลมหรือก้อนใหญ่ ๆ ที่ทำให้มีอาการเจ็บปวดมากเวลาเบ่งถ่าย หรือบางครั้งอาจมีเลือดติดออกมาด้วยเพราะรูทวารฉีกขาด ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จะส่งผลให้ลูกจะรู้สึกกลัวการถ่ายอุจจาระจึงพยายามกลั้นเอาไว้ จนทำให้อุจจาระยิ่งมีขนาดใหญ่และแข็งมากขึ้นเรื่อย ๆ และเพิ่มความเจ็บปวดในการขับถ่ายในแต่ละครั้งได้

อ่านสาเหตุที่ทำให้ลูกท้องผูกได้ที่หน้าถัดไป

สาเหตุที่ทำให้ ลูกท้องผูก

วิธีแก้ไขเวลาที่ ลูกท้องผูก

  1. ให้ลูกดื่มน้ำผึ้งผสมน้ำ เพราะน้ำผึ้งจะช่วยอุ้มน้ำไว้ในโพรงลำไส้ ส่งผลให้อุจจาระนิ่มและถ่ายได้ง่ายขึ้น  แต่ถ้าหากว่าลูกท้องเสียขึ้นมาให้รีบหยุดทันที

2. น้ำผลไม้ อาจจะเป็นน้ำส้มคั้นก็ได้นะคะ ให้ลูกดื่มสักวันละ 2-3 ออนซ์ เวลาคั้นก็ไม่ต้องกรองเอากากออกนะคะ ควรให้มีเนื้อส้มติดมาด้วย จะได้ช่วยเพิ่มกากใยให้กับลำไส้ของลูกให้มากขึ้นและทำให้อุจจาระของลูกไม่แข็ง อ่อนตัว และถ่ายได้ง่ายขึ้นด้วยละค่ะ แต่น้ำผลไม้นั้นควรให้ลูกมีอายุ 6 เดือนขึ้นไปก่อนนะคะ

3. ให้ลูกดื่มน้ำให้มาก แนะนำให้คุณแม่นำน้ำต้มสุกที่เย็นแล้วมาให้ลูกดื่มบ่อย ๆ เพราะน้ำจะช่วยทำให้อุจจาระของลูกนิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้าตื่นนอนขึ้นมา ให้ลูกดื่มน้ำสักแก้วก่อนจะดีมากเลยละค่ะ น้ำจะได้ไปกระตุ้นระบบการขับถ่ายให้ลำไส้บีบรัดเอาอุจจาระที่คั่งค้างออกมาได้ นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกให้ลูกขับถ่ายเป็นเวลาได้อีกด้วย

4. ลดอาหารที่มีไขมันสูง ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันในปริมาณมากจำพวกของท้อง อาหารที่ส่วนผสมของเนย และอาหารจำพวกแป้งให้น้อยลง เพราะอาหารที่ให้แป้งมาก ๆ เช่น ข้าวขาว ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยว จะทำให้ของเสียในลำไส้ของลูกแข็งตัวมากขึ้น

นอกจากวิธีการดังกล่าวนั้น ยังมีผลไม้บางชนิดที่จะได้ว่าเป็นสุดยอดผลไม้ที่จัดได้ว่าเป็นฮีโร่ในของการกระตุ้นระบบขับถ่าย จะมีผลไม้อะไรบ้างนั้น คลิกอ่านได้ที่หน้าถัดไปเลยค่ะ

คลิก!! อ่านสุดยอดผลไม้ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย


เครดิต: Sabuykid

7 สุดยอดอาหารช่วยเสริมสร้างระบบขับถ่าย

  1. สับปะรด เป็นที่ทราบกันดีว่าสับปะรดนั้นมีประโยชน์ที่นอกจากช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้นแล้ว ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการย่อยอาหารและระบบขับถ่าย เพราะสับปะรดนั้นอุดมไปด้วยกากใยอาหาร ที่สำคัญยังมีส่วนช่วยในการลดไขมันในเลือดหรือคลอเรสเตอรอลได้อีกด้วยนะคะ
  2. ลูกพรุน คือหนึ่งในผลไม้ขึ้นชื่อที่อุดมไปด้วยวิตามินเอและโปรแตสเซียม ลูกพรุน นอกจากจะมีสรรพคุณช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายแล้ว ยังช่วยบำรุงสายตา บำรุงหัวใจ ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันของลูกให้แข็งแรง
  3. มะละกอสุก เพราะมะละกอมีน้ำย่อยธรรมชาติในตัวเอง ที่เรียกกันว่าเอนไซม์ชื่อปาเปน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับน้ำย่อยเปปซินในกระเพาะอาหาร ที่สามารถช่วยกำจัดคราบโปรตีนเก่า ๆ ที่ย่อยไม่หมดและติดค้างอยู่ในลำไส้ให้ออกไปได้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นยาระบายอ่อน ๆ ที่ได้ผลอีกชนิดหนึ่งเลยละค่ะ
  4. มะม่วงสุก นับว่าเป็นโชคดีของคนไทยเราค่ะ ที่บ้านเรานั้นเต็มไปด้วยผลไม้มาก ๆ โดยเฉพาะผลไม้ขึ้นชื่ออย่าง “มะม่วง” ที่มีให้ทานกันตลอดปี มะม่วงสุกนั้นมีเอนไซม์ที่ชื่อ ปาเปน มีลักษณะคล้ายกับน้ำย่อยเปปซินในกระเพาะอาหาร ที่จะช่วยทําให้ของเสียที่เป็นโปรตีนนั้นแตกตัวได้เร็ว ดังนั้น การให้ลูกรับประทานสุกจะเป็นการช่วยให้อุจจาระที่แข็งของลูกนั้นนิ่มขึ้น และทำให้ลูกขับถ่ายได้คล่อง
  5. แอปเปิ้ล อีกหนึ่งผลไม้ที่หารับประทานได้ง่าย อีกทั้งยังราคาไม่แพง คุณแม่ทราบหรือไม่คะว่า แอปเปิ้ลนั้นไม่ว่าสีไหน ๆ ก็มีคุณค่าทางโภชนาการไม่ต่างกันค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แอปเปิ้ลเขียว ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์มากถึง 4.4 กรัม ต่อ 1 ผล ยิ่งรับประทานทั้งเปลือกก็จะช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีสารแพคตินที่ช่วยเพิ่มกากใยให้กับทางเดินอาหาร จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขับถ่ายของลูกให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันโรคหวัด ป้องกันโรคลักปิดลักเปิดและยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
  6. ส้ม ผลไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของวิตามินซีที่ช่วยทำให้ร่างกายของลูกแข็งแรง นอกจากส้มจะอุดมไปด้วยวิตามินซีแล้ว ยังมีโพแทสเซียมและกรดโฟลิก ที่ช่วยให้กระเพาะอาหารและลำไส้เคลื่อนตัว ลดอาการอาหารไม่ย่อย สำหรับการรับประทานส้มนั้น แนะนำให้ลูกทานทั้งกากใยของส้มที่เป็นเส้นใยขาว ๆ เข้าไปด้วยนะคะ เพราะเจ้าใยขาว ๆ นี้ละค่ะ ที่จะมาช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
  7. กีวี่ ผลไม้ที่ใคร ๆ ก็ชอบทาน เพราะมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน และอุดมไปด้วยประโยชน์ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นตัวช่วยระบายแล้ว ยังให้วิตามินซีที่สูงกว่าส้มมากถึง 74 เปอร์เซ็น นอกจากนี้ยังมีวิตามินอีที่ช่วยในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ที่มีสูงมากกว่ากล้วยถึง 15 เปอร์เซ็น นอกจากจะดีกับลูกแล้วยังดีกับคุณแม่อีกด้วยนะคะ เพราะจะมาช่วยควบคุมน้ำหนักและปรับสมดุลในร่างให้ดีขึ้น

แหม! เห็นแบบนี้แล้ว อย่าลืมหาผลไม้เหล่านี้มาให้ลูกรับประทานกันด้วยนะคะ เพราะนอกจากจะดีกับตัวลูกแล้ว ยังดีกับคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย เรียกได้ว่า “ผู้ใหญ่ทานได้เด็กทานแล้วดี” เลยละค่ะ


เครดิต: Health Gossip

คลิก! อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids