เด็กเป็นเบาหวาน ได้เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ โดยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่พบเด็กป่วยเพิ่มขึ้นนี้ เกิดจากพฤติกรรมการติดหวาน โดยพบว่ามีการขายน้ำหวาน น้ำอัดลม ที่หวานจนเกินไปตามโรงเรียนประถม
รพ.จุฬาเผย! พบ เด็กเป็นเบาหวาน เพิ่มขึ้น 27%
รพ.จุฬาฯ เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจเพราะพบว่าโรคเบาหวานในเด็กและวัยรุ่น ยอดพุ่ง 27% มาจากการการดื่มน้ำหวานในโรงเรียน
ผลจากการศึกษาจากคลินิกต่อมไร้ท่อเด็ก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พบว่า สัดส่วนของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในเด็ก และวัยรุ่น ปี 2551-2560 เด็กอายุ 10-19 ปี ป่วยเบาหวาน ร้อยละ 13 และในปี 2551-2562 เพิ่ม เป็นร้อยละ 27 ขณะนี้ทั่วโลกมีวัยรุ่นเป็นเบาหวานแล้วถึง 63 ล้านคนสาเหตุที่เบาหวานในเด็กและวัยรุ่นเพิ่มมากขึ้น เกิดการพฤติกรรมบริโภคหวาน และขนมในโรงเรียน
โดย ทพญ.สุวรรณา สมถวิล หัวหน้ากลุ่มงานทันตสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน สระบุรี บอกว่า จากการสำรวจ โรงเรียนในจังหวัดสระบุรี 140 แห่งจากทั้งหมดกว่า 200 แห่งที่เข้าร่วมเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน พบว่า เด็กสระบุรีกินหวานถึง 22 ช้อนชาต่อคนต่อวัน แต่จากการสำรวจในปี 2562 พบว่ากินหวานลดลงเหลือเพียง 8-10 ช้อนชาต่อคนต่อวัน แม้จะยังเกินกว่าปริมาณที่แนะนำคือ 6 ช้อนชาต่อคนต่อวัน
ทั้งนี้ทพญ.สุวรรณา บอกว่า การลดบริโภคน้ำตาลในในโรงเรียนสระบุรีทีลดลงเกิดจากการไม่จำหน่ายน้ำอัดลมทุกชนิด ไม่มีเครื่องปรุงใดๆ บนโต๊ะอาหาร ไม่มีเครื่องดื่มที่มีความหวานเกิน 10% ขายในโรงเรียน ไม่มีสื่อโฆษณาขนมขบเคี้ยวหรือน้ำหวานในโรงเรียน และในโรงเรียนต้องมีมุมความรู้ด้านโภชนาการให้กับนักเรียนได้เข้าไปศึกษาด้วย จึงกอยากเรียกร้องให้โรงเรียน งดการขายน้ำอัดลมทุกชนิดในโรงเรียน
ขณะที่ข้อมูลจากสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย พบว่า โรงเรียนมีบทบาทสำคัญมากในการลดน้ำตาล โดยต้องมีนโยบายชัดเจนโดยต้องมีการส่งเสริมให้เด็ก ๆ ให้มีกิจกรรมทางกายให้มาก ๆ ต้องจำกัดการเข้าถึงขนม น้ำอัดลม อาหารขบเคี้ยวที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ขอบคุณข่าวจาก : www.tnnthailand.com
สิ่งที่น่าตกใจจากข่าวนี้คือ มีการปลูกฝังพฤติกรรมการบริโภคหวานแบบผิด ๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เด็กไทยสมัยนี้ ติดทานหวาน โดยเฉพาะน้ำหวานที่ขายอยู่ตามโรงเรียน มักจะทำรสชาติออกมาเพื่อเอาใจเด็ก ๆ โดยใส่น้ำตาลเยอะ ๆ เพื่อให้มีรสชาติหวาน นอกจากนี้ขนมและอาหารในสมัยนี้ ก็พบว่ามีปริมาณน้ำตาลมากเกินกว่าปริมาณที่แนะนำให้ทานต่อวัน นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ เด็กเป็นเบาหวาน ชนิดที่ 2 เพิ่มมากขึ้น
โรคเบาหวาน มี 2 ชนิด โดยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 นั้น เกิดจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกันในร่างกาย กรรมพันธุ์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ไม่สามารถป้องกันได้ ซึ่งโรคเบาหวานชนิดนี้พบได้ไม่บ่อย ส่วนโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นั้น เกิดจากพฤติกรรมกรบริโภคที่ไม่เหมาะสม คือทานหวานเกินไป รวมถึงสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ โรคเบาหวานชนิดนี้สามารถพบได้ทุกเพศ ทุกวัย แต่ส่วนมากจะเกิดในวัยผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก
จะเห็นได้ว่าโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นั้นเกิดขึ้นจากพฤติกรรมการทานอาหารของตัวผู้ป่วยเอง เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ทีมแม่ ABK อยากชวนคุณพ่อคุณแม่มารู้จักกับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 วิธีป้องกัน เด็กเป็นเบาหวาน และวิธีลดโอกาสการเป็นเบาหวานให้ลูก ได้ที่หน้า 2 ค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และวิธีลดโอกาสการเป็นเบาหวานให้ลูก
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 คืออะไร?
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 คือภาวะที่ร่างกายไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้ หรือไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นโรคที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงกว่าปกติ ซึ่งน้ำตาลกลูโคสเป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์ที่ได้จากการรับประทานอาหาร และถูกนำเข้ามาโดยฮอร์โมนอินซูลินที่สร้างจากตับอ่อน ร่างกายของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้เพียงพอกับความต้องการ หรือไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง และเซลล์ไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้
วิธีลดโอกาสการเป็นเบาหวานให้ลูก
ปลูกฝังพฤติกรรมการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
ด้วยการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ให้ลูกกิน ไม่ปรุงอาหารให้มีรสหวาน รวมถึงขนมต่าง ๆ ก็ควรเลือกขนมที่ไม่หวานจนเกินไป แต่ก็ไม่ถึงกับต้องห้ามไม่ให้ลูกทานขนมหรอกนะคะ เพราะเด็กกับขนมเป็นของคู่กัน และควรให้ลูกกินอาหารที่หลากหลาย และครบ 5 หมู่ โดยกองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำ เมนูอ่อนหวาน เพื่อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ปรุงและทานอาหารที่ไม่หวานจนเกินไปให้ลูกทาน (อ่านต่อ เมนูอ่อนหวาน)
เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก
เพราะเด็กเรียนรู้ได้ดีจากสิ่งที่เขาเห็น การที่พ่อแม่บอกลูกว่าอย่ากินของหวาน ทั้ง ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่กำลังกินของหวานอยู่ ลูกก็จะไม่เชื่อค่ะ เพราะลูกจะคิดว่าพ่อแม่ยังกินได้เลย ดังนั้น การป้องกันไม่ให้เด็กติดหวานถือเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องทำเป็นตัวอย่างด้วย
พกขนมไปทานที่โรงเรียน
ในเมื่ออยู่ที่โรงเรียน พ่อแม่จะไม่สามารถกำหนดได้ว่าลูกจะซื้อขนมอะไรทานที่โรงเรียน ดังนั้นจึงควรให้ลูกพกขนมของตัวเองไปทานที่โรงเรียนแทน โดยอาจจะพาลูกไปซื้อขนมโดยมีคุณพ่อคุณแม่ช่วยกันตัดสินใจเลือกขนมชิ้นนั้นก็ได้ พร้อมกันนี้ควรช่วยกันรณรงค์ให้โรงเรียนงดขายชนมที่มีรสหวานจนเกินไปอีกทางด้วยค่ะ
ออกกำลังกาย
ใครว่าเด็กไม่ต้องออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้ลูกห่างไกลจากโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ และการออกกำลังกาย นอกจากจะทำให้ลูกห่างไกลจากโรคเบาหวานชนิดนี้แล้ว ยังทำให้ร่างกายของเด็กที่ออกกำลังกายมีความแข็งแรงมากขึ้น
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
กินยาดักไข้ กันลูกเป็นหวัด เป็นไข้ ได้จริงหรือ?
9 พฤติกรรมการกินยาผิด ๆ ที่ทำให้เสี่ยงตายจาก “เชื้อดื้อยา”
กพฐ. ดันนโยบาย “เด็กไทยว่ายน้ำเป็น” ให้สอนว่ายน้ำทุกโรงเรียน
เลี้ยงลูกให้มีความสุข รอยยิ้มลูก คือกระจกส่องเรา โดย พ่อเอก
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.honestdocs.co, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่