คุณพ่อคุณแม่ เคยสงสัยไหมว่า ระหว่าง ไข่ไก่ กับ ไข่เป็ด อะไรดีกว่ากัน หรือไข่ชนิดไหน ที่ลูกกินแล้วจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน สำหรับเรื่องนี้แม่น้องฮันน่าห์ จากเพจ Amarin Baby & Kids มีคำตอบมาฝากค่ะ ตามมาดูกันเลย
แม่ฮันน่าห์เชื่อว่า…คุณพ่อคุณแม่หลายคนรู้อยู่แล้วว่า “ไข่” เป็นอาหารที่มีประโยชน์ มีความสำคัญมาก และผู้คนซึ่งเรียกได้ว่าทั่วโลกก็รับประทานกันแพร่หลาย ซึ่ง ไข่ สามารนำไปทำเป็นเมนูอาหารได้หลากหลาย แต่อย่างไรก็ตามจริงๆแล้วเรื่องราวของไข่เกี่ยวกับคุณประโยชน์จริงๆนั้น หลายคนยังรู้จักกันน้อยมาก และบางครั้งก็มักจะมีผู้ตั้งคำถามอยู่เสมอว่าระหว่าง ไข่ไก่ กับ ไข่เป็ด อะไรดีกว่ากัน ชนิดไหนมีประโยชน์มากกว่ากัน เมื่อเป็นเช่นนั้นแม่น้องฮันน่าห์ ขออาสาชําแหละไข่ทั้งสองชนิด มาเทียบกันแบบฟองต่อฟอง เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายได้ทราบว่า ระหว่าง ไข่ไก่กับไข่เป็ด อะไรดีกว่ากัน ควรจะเลือกไข่ชนิดไหนให้ลูกกินดี ตามมาดูกันเลยค่ะ
ไข่ไก่ กับ ไข่เป็ด อะไรดีกว่ากัน ลูกควรกินไข่อะไร?
ความจริงแล้ว ประโยชน์ของไข่ ส่วนหนึ่งมาจากโปรตีนจากไข่ขาว ซึ่งเป็นโปรตีนชั้นดี ที่ร่างกายสามารถนำไปใช้แทนเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพของร่างกายได้ทั้งหมด นับว่าดีกว่าเนื้อสัตว์เสียอีก โดยทางการแพทย์บอกว่า “ไข่ขาว” สามารถเปลี่ยนเป็นโปรตีนของร่างกายได้เต็ม 100% และใน ไข่ 1 ฟอง ยังมีสารอาหารมากมายที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง ซึ่งเด็ก ๆ ควรได้รับประทานไข่ทุกวัน ซึ่งเรื่องการกินไข่ของเด็ก คุณหมอ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า…
ปัจจุบันมีเด็กแพ้อาหารมากขึ้น พบว่า ไข่ เป็นอาหารที่แพ้บ่อยเป็นอันดับ 2 รองจากนมวัว ทำให้มีอาการผิดปกติหลายระบบ เช่น ผื่นผิวหนังอักเสบ ระบบทางเดินอาหารอักเสบ ระบบทางเดินหายใจผิดปกติ เช่น หายใจเสียงดัง นอนกรน เจ็บป่วยไม่สบายบ่อย ซึ่งสาเหตุเกิดจากแพ้ไข่ขาวบ่อยกว่าไข่แดง
ดังนั้นการให้อาหารเสริมแก่ทารก ควรเริ่มไข่แดง หลัง 6 เดือน เริ่มปริมาณน้อย แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณจนกินได้ไม่เกินวันละ 1 ฟอง โดยทำให้กินแบบไข่ต้มสุกแข็ง แล้วเอาเฉพาะไข่แดงมาให้ลูกกิน ถ้าแยกไข่แดงไข่ขาวตอนเป็นไข่ดิบ อาจมีไข่ขาวปนเปื้อน ทำให้มีโอกาสแพ้ได้
แนะนำให้กินไข่ขาวหลัง 1 ปี ในกรณีที่ลูกแพ้ไข่ เพื่อไม่ให้ขาดสารอาหาร ควรปรึกษาแพทย์ หรือ นักโภชนาการ รับคำแนะนำเรื่องการกินอาหารชนิดอื่นทดแทน เพื่อไม่ให้ขาดโปรตีน ธาตุเหล็ก แร่ธาตุ และ วิตามินที่จำเป็นต้องร่างกาย
ซึ่งไข่ที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปก็มีหลายอย่างจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไข่เป็ด ไข่ไก่ หรือไข่นกกระทา แล้วเราควรให้ลูกทานไข่อะไรนะ ถึงจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด นักวิชาการสาธารณสุขด้านโภชนาการกรมอนามัย เคยได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการบริโภคไข่ไว้ดังนี้…⇓
การจะเปรียบเทียบสัดส่วนของสารอาหารในไข่แต่ละชนิดว่า ไข่ไก่กับไข่เป็ด อะไรดีกว่ากัน จะต้องทำในน้ำหนักของไข่ที่เท่ากัน เช่น ไข่เป็ด 1 ฟองมีน้ำหนัก 50 กรัม ดังนั้นหากจะเปรียบเทียบกับไข่ไก่ ก็ต้องเป็นไข่ไก่ ที่มีน้ำหนัก 50 กรัมด้วย ไม่ใช่การเปรียบเทียบเป็นจำนวนฟอง เพราะขนาดของไข่เป็ด ไข่ไก่ ไม่เท่ากัน ซึ่งในสัดส่วน ไข่เป็ด ไข่ไก่ ปริมาณ 100 กรัม สามารถสรุปสารอาหารออกมาได้ ดังนี้
เทียบสารอาหารระหว่าง ไข่ไก่ กับ ไข่เป็ด อะไรดีกว่ากัน
ลูกควรกินไข่อะไร?
สารอาหาร |
ไข่ไก่ |
ไข่เป็ด |
พลังงาน (แคลอรี) | 169 | 180 |
ไขมัน (กรัม) | 11.9 | 12.6 |
คาร์โบไฮเดรต (กรัม) | 1.7 | 4.1 |
โปรตีน (กรัม) | 12.7 | 11.7 |
แคลเซียม (มิลลิกรัม) | 76.0 | 71.0 |
เหล็ก (มิลลิกรัม) | 3.5 | 2.8 |
วิตามิน B1 (มิลลิกรัม) | 0.08 | 0.27 |
วิตามิน B2 (มิลลิกรัม) | 0.48 | 0.56 |
วิตามิน B5 (มิลลิกรัม) | 0.1 | 0.1 |
จะเห็นได้ว่าคุณค่าของไข่ไก่และไข่เป็ด มีส่วนแตกต่างกันบ้าง เช่น ไข่ไก่เหนือกว่าไข่เป็ด ในด้านโปรตีน แคลเซียม เหล็ก แต่ไข่เป็ดกลับเหนือว่าในด้านพลังงาน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน B1 วิตามิน B2
ซึ่งหากเรารับประทานไข่ไก่หรือไข่เป็ด 1 ฟอง คิดปริมาณน้ำหนัก 50 กรัม เมื่อเทียบความต้องการสารอาหารที่ควรได้รับสำหรับคนทั่วไป ใน 1 วัน ก็นับว่าเพียงพอแล้ว ส่วนสำหรับลูกน้อยที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต ใน 1 วันควรรับประทานไข่เพียงวันละ 1 ฟอง ก็จะได้สารอาหารที่จำเป็นมากพอสมควรแล้วล่ะค่ะ
ความแตกต่าง ระหว่าง ไข่ไก่ กับ ไข่เป็ด อะไรดีกว่ากัน ในด้านอื่นๆ
และนอกจากสารอาหารที่เทียบกันให้ดูข้างต้นแล้วว่า ไข่ไก่กับไข่เป็ด อะไรดีกว่ากัน แม่น้องฮันน่าห์ก็ได้ชำแหละไข่ทั้งสองชนิดออกมาเทียบดูก็พบความแตกต่าง ระหว่าง ไข่ไก่ กับ ไข่เป็ด ได้อีกคือ ไม่เพียงต่างกันในที่มา หากแต่ ไข่ไก่ ไข่เป็ด ยังมีความแตกต่างในหลายจุดที่ชวนให้สังเกต โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ เรื่องของ….⇓
- “สีเปลือกไข่” ซึ่งทุกคนคุ้นตากันดีว่าไข่เป็ดมีเปลือกสีขาวหรือขาวอมชมพู ส่วนไข่ไก่มักจะมีเปลือกสีชมพูอมน้ำตาล สีน้ำตาลอมแดง สีน้ำตาลอมครีม ขึ้นอยู่กับพันธุ์ของไก่ แต่กระนั้นก็มีไก่บางพันธุ์ที่ให้ไข่มีเปลือกสีขาว อย่างเช่น ไก่ขนสีขาว
ในขณะที่ในด้านความสะอาดของเปลือกไข่นั้น….⇓
- ไข่เป็ด ตามธรรมชาติจะดูมอมแมมกว่าไข่ไก่ตามธรรมชาติ เพราะพฤติกรรมการเลี้ยงเป็ดส่วนใหญ่ในบ้านเรานิยมเลี้ยงในเล้าที่มีพื้นเป็นดินหรือดินโรยแกลบ เป็ดจึงนิยมไข่เรี่ยราดทิ้งไว้ตามพื้นปะปนกับของเสียที่เป็ดขับถ่าย ทำให้ไข่เป็ดดูเปรอะเลอะมอมแมมอม เพราะฉะนั้นก่อนนำไปบริโภคจึงควรล้างทำความสะอาดก่อน
- ส่วน ไข่ไก่ ตามธรรมชาติที่แม้เปลือกจะดูสะอาดตากว่า แต่ว่าที่ผิวของเปลือกไข่ก็มีแบคทีเรียซามอนเนล้าติดอยู่ดังนั้นก่อนบริโภคจึงควรล้างให้สะอาดเช่นเดียวกันกับไข่เป็ด เพราะถ้าแบคทีเรียตัวนี้ เข้าไปในร่างกายผ่านทางปากก็จะทำให้ เกิดอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้องได้
- อีกสิ่งหนึ่งที่แสดงถึงความแตกต่างระหว่างไข่ไก่กับไข่เป็ดก็คือ “ขนาดฟอง” ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไข่เป็ดมีขนาดฟองใหญ่กว่าไข่ไก่ (แต่ไข่เป็ดที่ฟองเล็กกว่าไข่ไก่ก็มี) แต่ในด้านคุณค่าทางโภชนาการเนื่องจากไข่เป็ดมีขนาดใหญ่กว่าจึงมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าไข่ไก่ แต่ว่าหากมองในเรื่องของตัวคอเลสเตอรอลในไข่แดง ไข่เป็ดก็จะมีมากกว่าไข่ไก่เช่นกัน
นอกจากนี้หากพิจารณาสีของไข่แดงทั้งของไข่ไก่และไข่เป็ดแล้วจะพบว่า…
การที่ไข่แดงของทั้งไข่เป็ดและไข่ไก่ให้สีแตกต่างกันเป็นแดงเข้มแดงอ่อนนั้น ก็เนื่องมาจากอาหารที่ใช้เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ ซึ่งแต่ละแห่งต่างก็มีส่วนประกอบไม่เหมือนกัน ซึ่งในอดีตไข่แดงของไข่ไก่และไข่เป็ดจะแดงเข้ม เพราะในอดีตเกษตรกรนิยมเลี้ยงด้วยอาหารธรรมชาติจำพวกเศษหอย ปู ปลา ที่นำมาจากทะเล ส่งผลให้ไข่แดงมีสีแดงเข้ม เนื่องจากในอาหารทะเลเหล่านั้นมีสารให้สีพวกแคโรทีนอยด์ (caroteniod) อยู่มาก แต่ในปัจจุบัน เศษหอย ปู ปลา หายากขึ้นเพราะมีปริมาณน้อยลงและมีราคาแพงขึ้น จึงทำให้ไข่แดงตามธรรมชาติลดความเข้มของสีลงไป
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันได้มีฟาร์มผลิตไข่ไก่ไข่เป็ดหลายแห่งใช้วิธีเติมสีให้กับไข่แดง ด้วยวิธีการซื้อสารแคโรทีนอยด์มาจากต่างประเทศ แล้วใช้ผสมลงในอาหารที่ให้เป็ดและไก่กินโดยตรง เพื่อให้ไข่แดงมีสีแดงเข้มขึ้น เพราะยิ่งสีไข่แดงเข้มก็จะยิ่งเป็นที่ต้องการของตลาด
นอกจากนี้ ยังมีความพยายามในการศึกษาหาแหล่งของสารให้สีที่มีอยู่ในบ้านเรา เพื่อนำมาใช้ทดแทนสีจากสารแคโรทีนอยด์ อาทิ เซลล์ของโฟโตแบคทีเรีย, เซลล์พวกสาหร่ายบางชนิด เช่น สาหร่ายเกลียวทองที่มีสารแคโรทีนอยด์สูง รวมถึงจากดอกดาวเรืองที่มีทั่วไปในบ้านเราแต่ว่าต้นทุนในการผลิตยังสูงอยู่
ไข่เป็ด – ไข่ไก่ ฟองไหนอร่อยกว่ากัน?
แต่หากพูดถึงความอร่อยของไข่เป็ดและไข่ไก่นั้น ไม่มีดัชนีชี้ตายตัว ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและรสนิยมการบริโภคชนิดที่สามารถลอกเลียนแบบกันได้
โดยไข่ไก่เหมาะสำหรับการทำไข่ต้ม/ไข่ดาว/ไข่เจียว/ไข่หวาน และไข่ลวก แต่ถ้าไปทำไข่พะโล้จะไม่อร่อยเพราะไข่ขาวนุ่มเกินไป
ส่วนไข่เป็ดเหมาะต่อการทำเป็น ไข่ต้ม/ไข่พะโล้/ไข่เค็ม แต่ถ้าใครนำไข่เป็ดไปทำไข่ลวก บางทีคนกินอาจมีการ “อ้วก” กันได้ง่ายๆ เพราะกลิ่นคาวของไข่เป็ดนั้นแรงอย่าบอกใครเชียว
สำหรับเรื่องนี้ในมุมมองของแม่น้องฮันน่าห์ที่ชอบ เมนูไข่ คิดว่า ถ้านำไข่เป็ดมาทำไข่ต้มแบบยางมะตูมจะอร่อยมากๆ แต่ถ้านำมาทำเป็นไข่ลวกจะกินไม่ได้เลย กลิ่นของมันจะเหม็นคาวจนกินไม่ได้ แต่ไข่ที่ส่วนใหญ่ซื้อไว้ติดบ้าน มักจะเป็นไข่ไก่มากกว่าไข่เป็ด เพราะไข่ไก่นั้นสามารถทำอาหารได้หลายเมนู เช่น บางครั้งที่บ้านไม่มีกับข้าว เราก็สามารถทำไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ต้มไว้ทานแก้หิวได้ ข้อดีของไข่ไก่คือ สามารถทำอาหารได้หลายประเภทด้วยวิธีง่ายๆ
แต่อย่างไรก็ตามจากข้อสงสัยที่ว่่า ไข่ไก่กับไข่เป็ดอะไรดีกว่ากัน ก็อยู่ที่การพิจารณาตามสารอาหารและความแตกต่างที่แม่ฮันน่าห์ได้ให้ข้อมูลไว้ข้างต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น “ไข่” ก็ถือว่ามีโคเลสเตอรอลมากกว่าเนื้อสัตว์ถึง 2 เท่า ดังนั้นการบริโภคไข่เพียงสัปดาห์ละ 3-4 ฟอง ก็มากพอแล้ว ไข่ เป็นอาหารที่จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารในกลุ่มนี้จะให้โปรตีนซึ่งช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ อาหารในกลุ่มนี้ไม่ใช่เฉพาะไข่ที่มีโคเลสเตอรอลสูง ยังมีอาหารประเภทหนังสัตว์ เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารทะเลประเภทกุ้ง หอย และน้ำมันจากสัตว์ต่างๆ ก็ล้วนมีโคเลสเตอรอลสูง
ดังนั้นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง จึงต้องระมัดระวัง นอกจากไข่ไก่และไข่เป็ดแล้ว ก็ยังมีไข่ของสัตว์อื่นๆ ล้วนมีโคลเลสเตอรอลสูง ไม่ว่าจะเป็นไข่ปลา ไข่ปลาหมึก ไข่กุ้ง ไข่มดแดง เป็นต้น ดังนั้นการรับประทานอาหารเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงจึงควรปฏิบัติตามโภชนบัญญัติ โดยเฉพาะในเรื่องการรับประทานอาหาร ให้ครบ 5 หมู่ และหลากหลาย ซึ่งก็คือในแต่ละหมู่ของอาหารจะมีอาหารหลากชนิดก็ควรรับประทานอาหารหลายชนิดสลับกันไปไม่ซ้ำซากเพื่อที่จะทำให้ได้สารอาหารครบถ้วน และหากอาหารนั้นๆ มีการปนเปื้อน ก็จะได้ไม่เกิดการสะสมจนเกิดอันตรายเพราะร่างกายกำจัดได้ทัน
อ่านต่อบทความอื่นๆ ของแม่น้องฮันน่าห์ คลิก :
- วิธีดูไข่เก่าไข่ใหม่ เลือกอย่างไรให้ได้ไข่สด!
- เผยวิธีเลือก อัลมอนด์ แบบไหน ลูกกินแล้วปลอดภัย?
- เผยวิธี ปอกแอปเปิ้ล อย่างไรไม่ให้ดำ! (มีผลการทดลอง)
- ตำลึง ตัวผู้ ตัวเมีย ดูให้ดี! เลือกผิด? ลูกกินอาจท้องเสีย
- เผยเคล็ดลับ! วิธีเลือกส้มหวาน อร่อย ไม่เปรี้ยว ไม่ฟ่าม
ขอบคุณแหล่งอ้างอิงข้อมูลจาก : www.scimath.org, mgronline.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่