คุณแม่น้องณกฤษ โพสต์เตือนใจ เพื่อเป็นอุทาหรณ์จากการป้อนกล้วยก่อนเวลาอันควร ทำให้ กล้วยอุดตันลำไส้ จนเน่า เกือบต้องผ่าท้อง
อุทาหรณ์! ลูกไม่โต เพราะ กล้วยอุดตันลำไส้ จนเน่า
โดยคุณแม่เล่าว่า “น้องณกฤษ 9 เดือนกว่าแล้วครับ มีแต่คนตกใจพอรู้ว่า 9 เดือน ใครเห็นก็ว่า 3-4 เดือน บ้างก็ถามว่าทำไมตัวเล็กจัง?? #ก็กล้วยไงคะต้นเหตุ คุณแม่จะเล่าประสบการณ์ให้ฟัง
เราแบบธรรมชาติน้ำหนักแรกเกิด 3040 กรัม คลอดได้ประมาณเดือนกว่า เราอยู่บ้านแฟน เราวัยรุ่น แฟนวัยรุ่นต่างเลี้ยงไม่ค่อยเป็น แต่ศึกษาตามเพจแม่และเด็กบ้าง โปรแกรมต่างๆ บ้าง ก็พอรู้ว่าไม่ควรให้ทานอะไรนอกจากนมจน 6 เดือน แต่เรื่องของเรื่อง
เราเลี้ยงคนเดียวตลอด 24 ชม. แม่แฟนจะคอยดูห่างๆ เพราะอยากให้เราหัดไว้ เราจะห่างกับลูกตอน #เข้าห้องน้ำ #กินข้าว 2 อย่าง ใช้เวลาพอสมควร ทำแบบนี้จนลูก 2 เดือน ลูกเริ่มผิดปกติ คือ
– ร้องตลอดเวลา มหาหิงค์ไม่ช่วยอะไรเลย เบบี้ดอลไม่ช่วยเลย
– กินนมก็อ้วกออกหมด จนน้ำหนักลดมาก
– ไม่ถ่ายเลย ใช้สวนตลอด
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ไปหาหมอเอ็กซเรย์ดูลำไส้ปกติดี จนปล่อยมา 4 เดือนก็เหมือนเดิน ตัวร้อนทุกวันเลยค่ะ สวนให้ถ่ายทุก 3-4 วัน จนพ่อแฟนทนไม่ไหวพาไปหมอเด็กราชบุรีกะทันหัน
นอนโรงพยาบาลไม่ให้นอนห้องพิเศษเลย เพราะหมอบอกหาต้นเหตุด่วน เด็กอาการแย่มาก คือตัวเล็กมากค่ะ 2 วันจากการนอนโรงพยาบาลถึงรู้ เพราะหมอสวนกล้องเข้าไปจะดูว่าลำไส้ผิดปกติไหมแต่เจอ #กล้วยที่ตันจนเน่าค่ะ
แม่และหมอตกใจมากๆๆๆๆ ที่มันตันมานานเกือบ 5 เดือน ถามว่าเรารู้ไหม?? ไม่รู้ค่ะ รีบโทรถามแม่สามีถึงรู้ว่า เวลาเราเข้าห้องน้ำ รึอาบน้ำ เวลานั้นเขาจะแอบป้อนกล้วยลูกเรา แอบให้กินตั้งแต่เดือนกว่าๆ #กล้วยที่ตันเกือบโดนผ่าออกแล้วไหมล่ะ และทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ คือ
1. ลำไส้อักเสบมากเกือบเน่า ให้ยาฆ่าเชื้อเป็นเดือนๆ
2. ตันจนไปกดทับกระเพราะปัสสาวะ ทำให้ติดเชื้ออวัยวะเพศตัน ต้องใช่มีดกรีดปลาย
#ตอนนี้กินน้ำมันตับปลาบำรุงค่ะ หมอเขียนใบนัดว่าผู้ป่วยพิการ เรานี้ตกใจเลย
ตอนนี้หายดีแล้วค่ะ”
ทีมงาน Amarin Baby & Kids ขอขอบคุณคุณแม่น้องณกฤษมากๆ ค่ะที่แบ่งปันประสบการณ์ เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจแก่คุณแม่ท่านอื่นๆ ในครั้งนี้
หลายคนอาจคิดว่า การป้อนกล้วยเด็กทารกอายุก่อน 6 เดือน เป็นเรื่องปกติที่ทำกันมาแต่โบราณไม่เห็นเป็นไร ไม่เห็นมีใครตาย แต่จริงๆ แล้วอาจมีการเสียชีวิตแต่ในสมัยก่อนไม่ได้มีการเก็บสถิติบันทึกข้อมูลไว้เหมือนในปัจจุบัน และด้วยความรวดเร็วของโลกโซเชียลจึงทำให้เราเห็นกรณีตัวอย่างจากการป้อนกล้วยทารกอยู่บ่อยครั้ง มีหลายเคสที่ต้องผ่าตัดเพราะ กล้วยอุดตันลำไส้ และบางเคสก็เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียวค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ แพทย์เตือน ป้อนกล้วยบดทารกแรกเกิด เสี่ยงปัญหาลำไส้อุดตัน คลิกหน้า 2
แพทย์หญิงอรพร ดํารงวงศ์ศิริ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า เนื่องจากระบบการย่อยอาหารของทารกแรกเกิดยังไม่แข็งแรงสมบูรณ์เต็มที่ ทําให้การย่อยการดูดซึมอาหารไม่มีประสิทธิภาพมากเท่ากับผู้ใหญ่
อาหารสำหรับทารกแรกเกิดที่ดีที่สุด คือ นมแม่ ซึ่งทารกสามารถย่อยและดูดซึมได้ดี แต่หากป้อนอาหารอื่นๆ ที่ไม่ใช่นมให้แก่ทารกแรกเกิด เช่น ข้าว กล้วย หรืออาหารเสริมอื่นๆ เข้าไป อาหารเหล่านี้จะไม่สามารถย่อยและดูดซึมในกระเพาะอาหารและลําไส้ของทารกได้ อาจก่อให้เกิดอาการผิดปกติได้ เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย แพ้อาหาร และจะก่อให้เกิดปัญหาลําไส้อุดตันจากเศษอาหารที่ไม่ย่อยนี้ได้ ซึ่งอาจรุนแรงจนต้องรักษาด้วยการผ่าตัดลำไส้ หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
ดังนั้น ทุกภาคส่วนจึงสนับสนุนให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่จนถึง 6 เดือน หลังจากนั้นจึงค่อยเริ่มอาหารเสริมชนิดอื่นๆ เพราะนมแม่มีสารอาหารครบถ้วน ประหยัด และถูกหลักทางโภชนาการมากกว่าอาหารชนิดอื่นๆ ทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับลูกน้อยอีกด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก คุณแม่น้องณกฤษ, herkid.com, http://www.thairath.co.th/content/467092
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ คลิก
ลำไส้อักเสบ เพราะกินอาหารเสริมก่อนวัยอันควร
เด็กชายญี่ปุ่นวัย 6 เดือน เสียชีวิตด้วยโรคโบทูลิซึมในทารก เพราะน้ำผึ้งเป็นเหตุ!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่