ข้าวต้ม เมนูง่าย ๆ ที่ประโยชน์เหลือเชื่อ พร้อม 3 เมนูที่เหมาะกับการทำให้ลูกได้ทาน
เมื่อถึงเวลาที่ลูกเริ่มโตขึ้น การให้ลูกได้รับประทานอาหารเสริมควบคู่ไปด้วยนั้นควรที่จะเริ่มทำตอนที่ลูกมีอายุได้ 6 เดือนค่ะ โดยคุณแม่สามารถเลือกขั้นตอนการให้อาหารกับลูกในช่วงแต่ละเดือน ดังนี้
1. ลูกอายุ 6 เดือน ในช่วงนี้ให้เริ่มทานกล้วย แอปเปิล มันฝรั่ง แครอท ข้าวขาว ข้าวกล้อง แต่อาหารเด็กอ่อนนั้น จะต้องต้มให้เปื่อยหรือบดให้ละเอียดเท่านั้น และควรให้ทานในปริมาณน้อย
2. ลูกอายุ 6 – 9 เดือน เมื่อเด็กมีอายุมากกว่า 6 เดือน ให้เริ่มเพิ่มอาหารเหล่านี้ลงไป เช่น มะละกอ องุ่น พริกหยวก มะเขือ ถั่วเหลือง เต้าหู้ ไข่แดงสุก เนื้อปลา เนื้อไก่ เนื้อหมู เห็ด งา อาหารเด็กอ่อนนั้นควรบดอาหารเหล่านี้ให้ละเอียดค่อนข้างหยาบ สามารถทานได้ 3 มื้อ
3. ลูกอายุ 10 – 12 เดือน ในช่วงนี้เด็กสามารถทานอาหารได้ทุกอย่างของเด็กอายุ 6 – 9 เดือน สิ่งที่ควรเพิ่มมาก็คือมะม่วงสุกมะเขือเทศ ผักโขมบด สามารถทานได้ทั้ง 3 มื้อ
4. ลูกอายุ 12 เดือนขึ้นไป เด็กทารกในช่วงนี้สามารถทานอาหารที่กล่าวมาได้ทั้งหมด ให้ลองเพิ่มผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ข้าวโพด น้ำผึ้ง ถั่วลิสง เนยถั่ว หากสังเกตว่าลูกมีฟันขึ้นเยอะแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องกินข้าวบดที่เป็นอาหารเด็กอ่อน สามารถเริ่มกินข้าวเม็ดได้เลย
เทคนิค การปรุงอาหารเด็กอ่อน
ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงเมนู “ข้าวต้ม” กันค่ะ ว่าทำม๊ายทำไม ข้าวต้มถึงมีประโยชน์มากกว่าการให้ลูกรับประทาน
คลิกดูข้อดี ของการป้อนข้าวต้มให้ลูกได้ทาน
4 คุณประโยชน์ของ ข้าวต้ม
- ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและท้องร่วง เมื่อลูกเกิดอาการท้องเสีย แนะนำให้คุณแม่ทำข้าวต้ม หรือนำน้ำข้าวต้มให้ลูกได้ทาน เพราะน้ำข้าวเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับโรคท้องร่วงและปัญหาทางเดินอาหารอื่น ๆ อีกทั้งยังช่วยรักษาโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบได้อีกด้วยละค่ะ
- ช่วยบรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ ฟังแล้วดูเหลือเชื่อใช่ไหมละคะ แต่บอกเลยว่า ถ้าหากคุณแม่ทราบถึงประโยชน์ข้อนี้แล้วจะตกใจค่ะ เพราะน้ำข้าวนั้น สามารถช่วยบรรเทาอาหารผิวหนังอักเสบให้กับลูกได้ด้วย การทำเอาน้ำข้าวต้มนั้น มาผสมกับน้ำที่ลูกอาบ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ในน้ำข้าวต้มนั้น จะช่วยให้ผิวของลูกน้อยมีความชุ่มชื้นมากขึ้น
- ช่วยลดไข้ การป้อนน้ำข้าวต้มอุ่น ๆ ให้ลูกทาน สามารถช่วยลดไข้ของลูกได้ ทั้งการป้อนน้ำข้าวต้มให้ลูกนั้นนี้ถือเป็นการขับไอร้อนออกจากร่างกายไปในตัว
- อุดมไปด้วยพลังงาน การป้อนน้ำข้าวต้มให้ลูกทานนั้น สามารถเติมเต็มพลังงานให้กับลูกได้เป็นอย่างดีเลยละค่ะ เพราะน้ำข้าวนั้นอุดมไปด้วยคาร์โบเฮเดรตที่ร่างกายต้องการ หากลูกไม่อยากทานหรือเบื่อข้าว ลองให้ลูกทานน้ำข้าวต้มดูบ้างก็ไม่เป็นไรนะคะ
และวันนี้ทีมงาน Amarin Baby & Kids ก็ได้เตรียมเมนูน่าทานที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรพลาดทำให้ลูกน้อยทานมาฝากค่ะ พร้อมกันแล้วหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วให้รีบหยิบกระดาษและปากกาขึ้นมาจดเลยค่ะ
คลิกดูวิธีทำเมนูข้าวต้มลูกน้อย
เครดิต: Momjunction
เมนูแรก “ข้าวต้มปลาทูผักรวม”
ส่วนผสม:
- ข้าวสวย
- น้ำซุป
- ปลาทูนึ่ง 1 ตัว
- ผักอะไรก็ได้ที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ตำลึง ผักกาดขาว หอมใหญ่ แครอท ถั่วลันเตา ข้าวโพด เป็นต้น
ขั้นตอนการทำ:
- ตั้งน้ำซุปให้เดือด หลังจากนั้นใส่ข้าวสวย ผักรวม และเนื้อปลาทูที่แกะก้างแล้วลงไป
- ต้มให้เละ ใส่เกลือนิดหน่อย
- หลังจากนั้นปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน
คุณแม่สามารถทำแบ่งไว้ได้หลายมื้อนะคะ ด้วยการนำออกมาวางให้หายร้อน ใส่ภาชนะและใส่กล่องแช่แข็ง เพื่อจะได้นำมาอุ่นให้ลูกทานได้ในมื้อถัดไป
คลิกดูวิธีการทำเมนูที่สอง
เครดิต: Janes Rungkan
เมนูที่สอง “ข้าวต้มทรงเครื่อง”
ส่วนผสม:
ข้าวกล้องหุงสุก 1 ถ้วย
เผือกต้มสุก ¼ ถ้วย
แห้วต้มสุก ¼ ถ้วย
ตะไคร้บุบ 1 ต้น
น้ำซุป 2 ½ ถ้วย
เนื้อปลานิลหั่นชิ้นเล็ก ½ ถ้วย
ขิงซอย
เกลือป่นและซีอี๊วขาวสำหรับปรุงรส
วิธีการทำ:
- หมักปลานิลกับซีอี๊วและขิงซอยไว้ประมาณ 30 นาที
- ต้มน้ำซุปในหม้อให้เดือด ใส่ตะไคร้ ข้าวกล้อง เผือกและแห้ว ต้มรวมกันให้ข้าวบานดี ปรุงรสด้วยเกลือและซีอี๊วตามชอบ ปิดไฟพักไว้ ตักใส่ชามเสิร์ฟ
- นำปลานิลที่หมักไว้ไปจี่ในกระทะ Non-Stick ให้พอสุก ตักโรยหน้าข้าวต้ม
คลิกดูวิธีการทำเมนูุสุดท้าย
ส่วนผสม:
แครอทนึ่ง
ผักโขมนึ่ง
ข้าวต้มข้าวกล้อง
นํ้าอุ่นสะอาด
วิธีการทํา
- นําแครอทมาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นเท่าๆ กัน นําไปนึ่งโดยใช้เวลาประมาณ 10-12 นาที หรือจนกว่าจะนิ่ม
- นําใบผักโขมมานึ่งเช่นเดียวกันโดยใช้เวลาประมาณ 2 นาที (ควรใช้ผักโขมใบอ่อนหรือปวยเล้งเพราะมีเส้นใยหยาบเยอะกว่า)
- นําแครอทนึ่ง ผักโขมนึ่งและข้าวต้มมาปั่นรวมกันโดยใส่นํ้าอุ่นเล็กน้อยจนได้ความข้นที่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม คุณแม่จะต้องมั่นใจด้วยนะคะว่า ลูกของเราไม่ได้แพ้อาหารทะเล และสำหรับการแช่แข็งนั้น สามารถเก็บไว้ได้ 8 สัปดาห์ แต่ก็ไม่ควรนานค่ะ ควรทำไว้ให้ลูกทานประมาณ 2 – 3 มื้อก็พอค่ะ
อ่านเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
- แพ้อาหาร ผ่านไมโครเวฟ แพ้กลิ่นหรือควันอาหาร
- 7 วิธีแก้ปัญหา ลูกไม่กินข้าว และป้อนอาหารลูกเล็กอย่างไรให้ปลอดภัย ?
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่