เมื่อลูกถึงวัยเริ่มกินอาหารเสริม แม่หลายบ้านสาระวนอยู่กับการคิดเมนู หาวัตถุดิบ ต้มบดขูดหวังให้ลูกได้กินอาหารดีมีประโยชน์ แต่เจ้าตัวน้อยกลับไม่ยอมกินง่าย ๆ ป้อนทิ้งบ้าง ร้องโวยลั่นบ้าน จนกลายเป็นสงครามประจำบ้าน แม่รู้สึกเครียด ลูกไม่แฮปปี้ ถ้า ฝึกลูกกินอาหารเอง เลือกเองว่าจะกินอะไรตั้งแต่เริ่มกินมื้อแรก จะช่วยแก้ปัญหาได้หรือไม่
ฝึกลูกกินอาหารเอง ด้วยวิธี Baby Led Weaning ไม่ต้องบด ไม่ต้องป้อน
เป็นเรื่องปกติของลูกน้อยที่กินแต่นมแม่อย่างเดียวมาตลอด 6 เดือนจะต้องปรับตัวครั้งใหญ่กับการกินอาหารครั้งแรกในชีวิต การเปิดโอกาสให้ลูกน้อยได้ทำความรู้จักกับสิ่งที่เขาต้องเอาเข้าปากผ่านการหยิบ ดม ชิม ไปจนถึงการ ฝึกลูกกินอาหารเอง น่าจะช่วยให้คุ้นเคยกับการกินได้ง่ายขึ้น การกินอาหารด้วยวิธี Baby Led Weaning หรือ BLW จึงเป็นอีกทางเลือกที่พ่อแม่รุ่นใหม่กำลังให้ความสนใจ
BLW คืออะไร
เป็นทางเลือกการกินอาหารเสริมของเด็กวัย 6 เดือนขึ้นไป โดยเน้นให้เด็กกินอาหารเองได้ 100 % โดยไม่ต้องป้อน และไม่ใช่การกินอาหารที่ผ่านการบด ครูด หรือปั่นอย่างที่คุ้นเคย แต่เด็ก ๆ จะกินอาหารเหมือนผู้ใหญ่ เพียงแต่ไม่ปรุงรส และหั่นเป็นชิ้นที่เหมาะสมให้หยิบเข้าปากเอง นั่งกินร่วมบนโต๊ะอาหารเดียวกัน
เชื่อว่าคำถามหนึ่งที่เกิดในใจคุณแม่คือ “ลูกจะกินเองได้หรอ” ตามพัฒนาการของเด็กวัย 6 เดือนสามารถนั่งตัวตรงหยิบ จับ ใช้ลิ้นดุด เริ่มเลีย กัด เคี้ยว และกลืนอาหารได้เองตามธรรมชาติ การกินแบบ BLW เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เปิดโอกาสให้เด็กได้พัฒนาทักษะการกินได้อย่างเต็มที่ โดยให้เด็กเป็นคนนำแทนการป้อนที่พ่อแม่เป็นคนควบคุม
หลักการจำง่าย ทำตามได้ของ BLW
ไม่เริ่มหัดก่อนลูกอายุ 6 เดือน
ไม่ปรุงอาหาร เค็ม หวาน ให้กินรสธรรมชาติ
ไม่ป้อน ไม่บด ไม่หลอกล่อ ไม่กดดัน
หั่นอาหารให้ถูกต้อง ไม่เสี่ยงติดคอ
กินครบ 5 หมู่และหลากหลาย
กินข้าวพร้อมกันทั้งบ้าน
BLW ดีกับลูกได้อย่างไร
การ ฝึกลูกกินอาหารเอง แบบ BLW อาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับพ่อแม่คนไทย ในประเทศสหรัฐอเมริกามีการศึกษาพบว่า เด็กที่กิน BLW มีแนวโน้มแพ้อาหารน้อยลงและป้องกันภาวะน้ำหนักเกินได้ จึงมีการสนับสนุนมากขึ้น การที่เด็กกินอาหารมีประโยชน์ทั้งกับลูกน้อย และคุณพ่อคุณแม่ จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย
ประโยชน์กับลูกน้อย
* ป้องกันอาหารติดคอ เพราะเด็กได้เรียนรู้วิธีเอาอาหารเข้าปาก และสำรอกอาหารออกมา ซึ่งเป็นทักษะสำคัญหากเด็กเผลอกินอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือติดคอ ลูกจะต้องหยิบอาหารมากัดเป็นชิ้นที่พอดีกับปาก และควบคุมให้อยู่ในปากเพื่อเคี้ยวเป็นชิ้นก่อนกลืน
หลายคนอาจสงสัยว่า เด็กอายุ 6 เดือนยังไม่มีฟันจะกัดอาหารได้อย่างไร ความจริงแล้วเหงือกของลูกน้อยแข็งแรงมาก (เทียบกับแรงที่ดึงทึ้งเวลาดูดนม) ลูกจึงสามารถใช้เหงือกกัดอาหารให้ขาดเป็นชิ้นพอดีคำได้ ไม่ว่าจะเป็น แอปเปิ้ลทั้งลูก น่องไก่ เป็นต้น
*ฝึกการใช้งานมือและตาให้สัมพันธ์กัน (Hand-Eye Coordination) ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานประมวลผลจากการเห็นและสัมผัส รวมถึงการเคลื่อนไหวร่างกายที่คล่องแคล่วเมื่อโตขึ้น เพราะทุกครั้งที่ลูกหยิบอาหารเข้าปาก เขาต้องใช้ตามองอาหารและกะระยะให้ตรงกับปากพอดี
*ฝึกประสาทสัมผัสทั้งห้า ผ่านการมองเห็น สัมผัส ดมกลิ่น รับรสอาหารด้วยตัวเองทุกคำ เช่นรู้ว่าบรอกโคลีต่างจากข้าวโพดอ่อนอย่างไร สิ่งนี้ช่วยส่งเสริมให้ลูกน้อยเรียนรู้สิ่งรอบตัวได้รวดเร็ว
*สร้างความมั่นใจ และกล้าตัดสินใจ (Self-esteem) เพราะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เลือกเองว่าจะกินอะไรเป็นอย่างแรก และกินเท่าไร เพราะเขารู้ว่าอาหารตรงหน้าคืออะไร มีรสชาติแบบไหน ชอบหรือไม่ชอบ
*กล้าลองกินอาหารใหม่ ๆ เพราะรู้จักรสชาติของอาหารแต่ละชนิด จึงเลือกว่าจะกินหรือไม่กินด้วยตัวเอง โดยไม่ถูกบังคับ ทำให้เด็กกินอาหารได้หลากหลาย หมดปัญหาเรื่องการกินซ้ำ กินแค่บางอย่าง หรือขาดสารอาหาร
*ควบคุมความอยากกินของตัวเองได้ เมื่อ ฝึกลูกกินอาหารเอง พอรู้สึกอิ่มก็จะหยุดกิน แต่ถ้ามื้อไหนหิวก็จะกินต่อจนอิ่ม ไม่กินจนเกินพอดี ไม่เสี่ยงต่อการกินมากจนเกินไป ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคร้ายต่าง ๆ
*พูดเร็วขึ้น เวลาเด็กเคี้ยวอาหารที่เนื้อสัมผัสต่างกัน เช่น อ่อนนิ่ม หนา บาง แข็ง กรอบ จะได้ฝึกขยับปากและลิ้นในหลายรูปแบบ เมื่อถึงวัยหัดพูด ลูกจะพูดได้เร็ว และพูดชัด
ประโยชน์กับพ่อแม่และครอบครัว
*ทุกคนในบ้านจึงกินอาหารได้อย่างมีความสุข เมื่อลูกกินอาหารเองทำให้เขากินอาหารอย่างมีความสุข และกินในเวลาเดียวกับคนอื่นในครอบครัวโดยไม่ต้องบังคับ ทำให้พ่อแม่กินข้าวไปพร้อมกันได้ โดยไม่ต้องคอยกังวลกับการป้อนอาหาร
*พ่อแม่เครียดน้อยลง เพราะไม่ต้องคอยคาดหวังว่าลูกจะกินมากหรือน้อย ต้องมาคิดหาเมนูที่ลูกจะกิน ทำให้ครอบครัวมีความสุขมากขึ้น *ไม่เสียเวลาหลอกล่อ BLW ช่วยฝึกให้ลูกกินเป็นเวลา เมื่อถึงเวลาอาหาร ลูกพร้อมจะกินทันทีโดยไม่ต้องคะยั้นคะยอ
*ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะ BLW ใช้เพียงถาดวางอาหาร กับผ้ากันเปื้อนไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องบดปั่นอาหาร หรือจานชามสวยไว้หลอกล่อ ที่สำคัญลูกยังกินอาหารเหมือนพ่อแม่ จึงไม่ต้องแยกซื้ออาหารด้วย
*กินข้าวนอกบ้านแสนสบาย เพราะเด็กสามารถนั่งกินอาหารที่สั่งมาได้เหมือนผู้ใหญ่ เพียงแต่เลือกเมนูที่ไม่ปรุง เช่น น่องไก่ทอด ข้าวสวย และแครอทต้ม ไม่ต้องเสียเวลาป้อนหรือเตรียมอาหารแยกไปต่างหาก
อ่านต่อ รู้ได้อย่างไรว่าลูกพร้อมกินแบบ BLW หรือยัง หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
Check List ลูกพร้อมเริ่ม BLW หรือยัง
แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำว่าควรเริ่มให้อาหารเสริมลูกตอนอายุ 6 เดือน แต่หลายบ้านอาจเริ่มเร็วกว่านั้น ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการตัดสินใจของพ่อแม่เป็นหลัก แต่การ ฝึกลูกกินอาหารเอง แบบ BLW ให้ดูจากความพร้อมของลูกเป็นหลัก เพราะเด็กแต่ละคนมีพัฒนาเร็วช้าแตกต่างกัน ลองมาทำ Check List กันดูซิว่าลูกน้อยพร้อมเริ่มอาหารมื้อแรกหรือยัง
□ ลูกอายุครบ 6 เดือน (สำหรับอายุครรภ์ปกติ หากคลอดก่อนกำหนดให้นับทบเพิ่ม) เพราะระบบย่อยอาหารและภูมิคุ้มกันพร้อมแล้ว
□ ลูกนั่งหลังตรง ไม่คว่ำหน้า ไม่ใช้มือค้ำ เพื่อจับอาหารได้ถนัดและไม่เสี่ยงติดคอ
□ ใช้มือคว้าจับ หรือกำของเข้าปากได้
□ เลิกเอาลิ้นดุดปากคล้ายการดูด และเริ่มเคี้ยวของในปากได้
หากลูกมีพัฒนาการตามนี้แล้ว สามารถเริ่มฝึกให้กินอาหารเองได้ แต่ถ้ายังทำไม่ได้แม้อายุครบ 6 เดือนแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน หรือทำได้ก่อนอายุ 6 ขวบ ก็ไม่ควรเริ่ม BLW เช่นกัน เพราะอาจเสี่ยงอันตรายได้
Check List พ่อแม่พร้อมสำหรับ BLW หรือไม่
อย่างที่กล่าวไว้ว่า BLW เป็นทางเลือกการกินอาหารของลูก ไม่ได้การันตีว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการกินแบบใดก็ไม่ผิด สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ต้องสำรวจก่อนว่าตัวเองพร้อมจะ ฝึกลูกกินอาหารเอง หรือยัง เพราะ BLW ต้องอาศัยการมีวินัย ต้องไม่สลับใช้กับวิธีกินอื่น ซึ่งจะทำให้ลูกสับสน ลองมาทำ Check List เตรียมความพร้อมกันก่อน
□ เป็นคุณแม่ Full Time
□ มีคนดูแลลูกที่เข้าใจการกินแบบ BLW
□ ทำอาหารเองที่บ้าน
□ ทุกคนในครอบครัวเห็นด้วยและมีความสุขกับการกินแบบ BLW
□ ตั้งใจให้ลูกกิน BLW อย่างแน่วแน่
BLW อาจเป็นเรื่องง่ายกว่าถ้าเป็นคุณแม่ Fulltime เพราะมีเวลาลูกน้อยได้เต็มที่ แต่ก็ใช่ว่าแม่ทำงานจะใช้วิธี BLW ไม่ได้ เพียงแต่ต้องทำให้คนดูแลลูกเข้าใจและสามารถทำตามกฎของ BLW ได้จริง โดยหมั่นตรวจสอบอยู่สม่ำเสมอ กรณีที่อยู่เป็นครอบครัวใหญ่ ทุกคนควรมีส่วนร่วมการ ฝึกลูกกินอาหารเอง ด้วยวิธีนี้ เพราะลูกกินอาหารเหมือนผู้ใหญ่และกินพร้อมกัน
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ต้องคุณพ่อคุณแม่ต้องสำรวจตัวเองให้มั่นใจก่อนว่าสามารถทำตามวิธี BLW ได้จนสำเร็จ เพราะการกินแต่ละมื้อจะไม่เท่ากัน มากบ้างน้อยมาก โดยเฉพาะในช่วงแรกที่เหลือทิ้งมากกว่าเอาเข้าปาก ทำให้หลายบ้านกังวลว่าลูกจะกินไม่อิ่ม ได้สารอาหารไม่ครบถ้วน แต่ธรรมชาติของเด็ก ถ้ามื้อนี้กินน้อย มื้อต่อไปจะหิวจัดและกินได้เยอะขึ้น แม้บางช่วงน้ำหนักอาจไม่เพิ่มขึ้นเลย แต่ไม่ควรกังวลกับตัวเลขบนตาชั่ง ให้สังเกตสุขภาพโดยรวมของลูกจะดีกว่าว่า เขาป่วยไหม แข็งแรงสมบูรณ์ดีหรือไม่ น้ำหนักและส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์หรือเปล่า จะดีกว่าการชี้วัดด้วยตัวเลขเพียงอย่างเดียว
สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับ BLW
เก้าอี้แบบ High Chair ปรับความสูงให้เหมาะกับโต๊ะอาหารในบ้าน จะได้กินอาหารร่วมโต๊ะกับทุกคนในครอบครัวได้
ถาดพลาสติก/ จานพลาสติก
ผ้ากันเปื้อน
ผ้ายางหรือกระด้งสำหรับรองเศษอาหาร
อาหารในแต่ละมื้อ (ส่วนผสมเดียวกับใช้ทำอาหารในบ้าน) หั่นเป็นแท่งขนาดเท่า “นิ้วชี้” และเป็นแท่งอ้วนๆ คล้ายเฟรนช์ฟรายแท่งหนา หลีกเลี่ยงการหั่นเป็นแว่นๆ เช่น ไส้กรอก เพราะเสี่ยงติดคอ
ปิดทีวีและสิ่งรบกวนทั้งหมด เพื่อให้ลูกจดจ่อกับอาหารตรงหน้า
ควรนั่งอยู่กับลูกตลอดเวลา หรือกินพร้อมกันเพื่อให้ลูกได้เรียนรู้วิธีกินอาหารจากพ่อแม่
อย่างไรก็ตาม ก่อนคุณพ่อคุณแม่จะ ฝึกลูกให้กินอาหารเอง ด้วยวิธี BLW ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นการกินวิธีไหน หากลูกได้รับสารอาหารมีประโยชน์ครบถ้วน และมีความสุขกับการกิน ย่อมเหมาะสมกับลูกของเราแล้ว
บทความน่าสนใจอื่นๆ
เบบี๋อยากกินเอง ทำได้จริงหรือ?
อาหาร 6 อย่างนี้ “ห้ามให้ลูกน้อยต่ำกว่า 6 เดือน” กินเด็ดขาด!
ขอบคุณข้อมูลจาก www.facebook.com/babyledweaningthailand/
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่