ทารกกินกล้วย เสียชีวิต! ด้วยวัยเพียง 7 วัน

โดยทางเพจ Drama-addict ก็ได้โพสต์ข้อความเพื่อเตือนสติคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ พร้อมทั้งให้แง่คิดเกี่ยวกับการให้อาหารสำหรับเด็กวัยแรกเกิดทาน ซึ่งระบุว่า…

และหลังจากที่เรื่องดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาชาวเน็ตอย่างมากมาย

ขอขอบคุณเรื่องราวที่มาจาก : Drama-addict

ทำไมคนโบราณจึงชอบให้ ทารกกินกล้วย?

การป้อนกล้วย ให้ ทารกกินกล้วย เป็นอีกหนึ่งเรื่องความเชื่อตั้งแต่สมัยโบราณ ที่เมื่อเด็กอายุได้ประมาณหนึ่งก็เริ่มจะให้กินอาหารที่อ่อนๆนิ่มๆ กัน ซึ่งกล้วยก็เป็นตัวเลือกยอดฮิต เพราะหาง่าย นิ่ม กินแล้วหนักท้อง แต่ตามหลักการแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว องค์การอนามัยโลก ยูนิเซฟ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทารกที่อายุต่ำกว่า 6 เดือนไม่ควรกินอะไรนอกจากนม โดยเฉพาะถ้าเป็นนมแม่ยิ่งดีที่สุด

ส่วนเหตุผลที่ว่า ต้องการให้ลูกอายุยังไม่ถึง 6 เดือน กินกล้วยเข้าไปเพื่อให้อยู่ท้อง จะได้หลับนานๆ จะได้ไม่ต้องตื่นขึ้นมาดูดนมแม่บ่อยๆ นั้น ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเคยมีกรณีที่ป้อนกล้วยให้กับเด็กอายุยังไม่ถึงเดือนด้วยเหตุผลนี้ ผลที่เกิดขึ้น คือ กล้วยไปทำให้ลำไส้อุดตัน กระเพาะอาหารแตก และเสียชีวิต

…ดังนั้นถ้ามีปัญหาลูกตื่นบ่อย ให้หาทางแก้ปัญหาโดยวิธีอื่น ไม่ใช่แก้ปัญหาโดยการป้อนกล้วย เช่น ตื่นบ่อยเพราะไม่ชอบถูกวางให้นอนเพียงลำพัง ก็ให้เอามาอุ้มบ่อยๆ ไกวเปลให้มีการเคลื่อนไหวเหมือนอยู่ในท้องแม่ ลูกก็จะหลับได้ดีขึ้น แต่ถ้ามีนมแม่ไม่พอจริงๆ ควรไปคลินิกนมแม่เพื่อหาสาเหตุ และ หาทางเพิ่มน้ำนม และในระหว่างที่น้ำนมยังไม่มาเต็มที่ ก็ให้เสริมนมผงที่ลูกไม่แพ้ไปก่อน แต่ไม่ใช่ให้กล้วย

ทั้งกุมารแพทย์ทุกคน ต่างระบุว่า  ไม่มีคำแนะนำ ให้เด็กที่มีอายุต่ำว่า 6 เดือน รับประทานอาหารจำพวก กล้วยบด  ข้าวบด หรืออาหารเสริมอื่นๆ  นอกจากนมแม่เท่านั้น เพราะเนื่องจากการย่อยอาหารในร่างกายของเด็ก จะเริ่มสมบูรณ์เมื่ออายุอย่างน้อย 4 เดือนขึ้นไป  หากจะเริ่มป้อนอาหารเสริมกล้วยบด หรือข้าวบด เต็มที่ควรเริ่มป้อนอย่างน้อยตอนอายุ 4-5 เดือนขึ้นไปเท่านั้น  แต่ก็ควรให้ในปริมาณที่น้อยมาก

ซึ่งสิ่งสำคัญของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ต้องดูแลเด็กทารกแรกเกิด ควรศึกษาคู่มือการดูแลเด็กทารกแรกเกิด ตั้งแต่เด็กยังอยู่ในครรภ์ จากแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุด คือสมุดฝากครรภ์และสมุดสุขภาพเด็ก ซึ่งจะระบุไว้อย่างชัดเจนเลยว่า อาหารชนิดใดที่เหมาะสมกับเด็กอายุแรกเกิดในระยะกี่เดือน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต้องศึกษาอย่างละเอียด เพราะส่วนใหญ่คุณพ่อคุณแม่มักไม่อ่านคู่มือ แต่มักศึกษาข้อมูลจากเว็บบอร์ด ในโลกออนไลน์  ซึ่งบางครั้งอาจเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ในระยะ 6 เดือนแรกควรให้เด็กรับประทานนมแม่เพียงอย่างเดียว  ถ้าจะเริ่มให้อาหารเสริม อาจจะให้ในช่วงที่มีอายุ 4-5 เดือนขึ้นไปอย่างน้อย และควรให้ในปริมาณน้อยก่อน อาจจะเพียง 1 ช้อนชาเท่านั้น  เพื่อค่อยๆฝึกการย่อยอาหารที่มีกากในร่างกายเด็กไปก่อน แต่ทั้งนี้อาหารหลักๆก็ควรจะเป็นนมแม่เท่านั้น

• อุทาหรณ์! ลูกไม่โต เพราะ กล้วยอุดตันลำไส้ จนเน่า
• กล้วยบด รับประทานก่อน 6 เดือน เสี่ยงติดเชื้อ
• สุดเศร้า ทารกวัย 1 เดือนเศษ ตายเพราะป้อน กล้วยบด

ทารกกินกล้วย มีประโยชน์อย่างไร?

กล้วย ถือเป็นผลไม้ที่เหมาะเป็นอาหารเสริมสำหรับเด็กทารกโดยตรง ซึ่งเหมาะสำหรับลูกน้อยวัย 6 เดือนขึ้นไป เพราะเนื้อมีลักษณะนิ่ม ง่ายต่อการกินของทารกที่ยังไม่มีฟันหรือที่ฟันเพิ่งเริ่มขึ้น นอกจากนี้ กล้วยยังมีคุณค่าของธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกด้วย เช่น มีกรดอะมิโนและเกลือแร่ที่จำเป็นสำหรับเด็กทารกหลายชนิด อีกทั้งมีส่วนประกอบของโปรตีนที่ใกล้เคียงกับน้ำนมแม่ เราจึงเห็นภูมิปัญญาของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันที่ใช้กล้วยน้ำว้ามาบดกับข้าวให้เด็กทารกกินเป็นอาหารเสริม เพราะทำให้เด็กทารกมีสุขภาพแข็งแรง

ทั้งนี้กล้วยที่เอามาทำอาหารเสริมให้ลูกเล็กต้องมีลักษณะเนื้อเหนียวและนุ่ม ไม่มีเสี้ยนหรือกากใยที่แข็ง เมื่อสุกมีรสหวาน เป็นแหล่งของน้ำตาลผลไม้ที่ให้พลังงานได้ดี เพราะน้ำตาลจากผลไม้ร่างกายสามารถดูดซึมทันที ย่อยง่าย

ซึ่งชนิดของกล้วย ที่เหมาะกับลูกเล็ก ได้แก่ กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยหอม และกล้วยหักมุก แต่ต้องนำไปปิ้งหรือย่างให้สุกก่อนเท่านั้นจึงจะกินได้ ส่วนกล้วยที่ไม่เหมาะที่จะนำมาปรุงเป็นอาหารเสริมได้แก่ กล้วยดิบ กล้วยห่าม และกล้วยที่มีเมล็ด เช่น กล้วยน้ำว้านอก เพราะมีเนื้อแข็งเกินไป

ประโยชน์ของกล้วย

กล้วยมีเบต้าเคโรทีน ให้พลังงาน อุดมด้วยน้ำตาลธรรมชาติ 3 ชนิด คือ ซูโครส ฟรุคโทส และ กลูโคส รวมกับเส้นใยและกากอาหาร กล้วยจะช่วยเสริมเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายทันทีทันใด จากงานวิจัยพบว่ากินกล้วยแค่ 2 ผล ก็สามารถเพิ่มพลังงานให้อย่างเพียงพอ กับการออกกำลังกายอย่างเต็มที่ได้นานถึง 90 นาที

อีกทั้งกล้วยยังมีคุณประโยชน์หลากหลายชนิด ทั้งไฟโตเคมิคัลที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ป้องกันมะเร็ง มีเอนไซม์ช่วยในการย่อยอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานหนักลดลง ในกล้วยดิบยังมีฤทธิ์ในการขับพิษสูง และหากกล้วยสุก ก็ทำให้ร่างกายสร้างสารภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นกว่าปกติอีกด้วย

นอกจากนี้ ในกล้วยนั้นจะมีวิตามินบี 1 และบี 2 ที่ช่วยในการเร่งเผาผลาญ น้ำตาลและไขมัน ทั้งยังช่วยฟื้นฟูร่างกายการจากเหนื่อยล้า อีกยังมีโปแตสเซียมช่วยในการขับโซเดียม อันเป็นหนึ่งในตัวการที่จะทำให้ความดันเลือดสูงออกทางปัสสาวะ และส่งผลให้ลดการบวมของร่างกายได้ค่ะ

สุดท้ายแม้ใครจะเชื่อโบราณ แล้วให้ลูกกินกล้วยก่อนอายุ 6 เดือน แล้วลูกปกติดี ไม่เป็นอะไร ก็ถือว่าโชคดีไปค่ะ น่าจะเป็นเพราะไม่ได้ป้อนเยอะเกินไปจนเกิดปัญหา และถ้าลูกกินกล้วยก่อน 6 เดือน แล้วพบว่า ลูกก็เป็นเด็กฉลาด นั่นไม่ได้เป็นเพราะกล้วยนะคะ คนจะฉลาดกินอะไรก็ฉลาดได้ เพราะลูกฉลาดได้พันธุกรรมที่ดีมาจากพ่อแม่ และได้รับการเลี้ยงดูที่ดี ได้รับการกระตุ้นพัฒนาการอย่างเหมาะสม จึงทำให้ลูกเป็นเด็กฉลาดนั่นเองค่ะ

อย่างไรก็ดี การให้ ทารกกินกล้วย ถือเป็นเรื่องดี เพราะกล้วยมีประโยชน์สามารถกินได้ตั้งแต่เด็กยันแก่ แต่สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ควรป้อนกล้วยให้ลูกในวัยที่เหมาะสม คือ หลัง 6 เดือนเป็นต้นนะคะ และกล้วยก็จะมีประโยชน์ไม่ทำให้ลูกน้อยเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้นั่นเองค่ะ

อ่านต่อ “บทความอื่นน่าสนใจ” คลิก!

• อาหารเสริมทารก เริ่มอย่างไร ให้ลูกกินเก่งแถมกินง่าย!
• ป้อนกล้วยลูก ถูกต้องตามวัย ได้ประโยชน์เต็มที่
• “อาหารตามวัย” กินอย่างไรให้ลูกแข็งแรง

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.lovefitt.com