AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ทดสอบการหายแพ้ของลูกน้อยเอง ระวังช็อกตาย

อาการแพ้ในเด็กนั้น กุมารแพทย์ยืนยันแล้วว่า 100% เกิดจากการแพ้อาหาร ซึ่งไม่ควรทดสอบเอง และพบว่าการเจาะเลือดทำสกินเทสต์นั้น มีโอกาสตรวจเจอเพียง 10% คุณพ่อ คุณแม่จึงอย่าวางให้ใจลูกน้อยรับประทานอาหาร ถ้ายังไม่พบการแพ้ และห้าม ทดสอบอาการแพ้เอง เด็ดขาด

ทดสอบอาการแพ้เอง

ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ สาขาวิชาโภชนาการ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวว่า อาการแพ้ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเด็กทารก เช่น ผื่นลมพิษ ผื่นคันเรื้อรัง ปวดท้อง ท้องเสีย ท้องผูกเรื้อรัง เป็นต้น 100% นั้นเกิดจากการแพ้อาหาร เช่น โปรตีนนมวัว ถั่วต่างๆ ไข่ เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่การเจ็บป่วยธรรมดา

แต่คุณพ่อ คุณแม่บางคนอาจจะไม่ได้คิดถึงเรื่องการแพ้อาหาร และพาลูกน้อยไปรักษาที่ปลายเหตุ ทำให้ไม่หายจากการเจ็บป่วย ดังนั้น เมื่อลูกมีอาการเหล่านี้ ให้คิดถึงการรับประทานอาหารเป็นอันดับแรก แล้วตรวจสอบว่าลูกน้อยแพ้อาหารอะไรบ้าง แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ คุณพ่อ คุณแม่ที่พาลูกน้อยไปทำสกินเทสต์ หรือเจาะเลือดเพื่อทดสอบอาการแพ้นั้น โอกาสที่จะตรวจพบมีเพียง 10% ทำให้คุณพ่อ คุณแม่หลายคนคิดว่าเมื่อตรวจไม่เจออาการแพ้ก็วางใจ ให้ลูกน้อยรับประทานอาหารเช่นเดิม แต่สุดท้ายลูกก็ยังป่วยอยู่ดี

ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ กล่าวต่อว่า การตรวจว่าลูกน้อยหายจากการแพ้อาหารแล้วหรือไม่ จะทำการตรวจอาหารที่แพ้ทีละตัว โดยจะตรวจทุก 3 เดือน แต่ถ้าเด็กที่โตเกิน 3 ขวบ ยังไม่หาย ก็อาจจะตรวจทุก 6 เดือน ซึ่งการตรวจจะใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าลูกน้อยไม่มีอาการแพ้แล้ว ก็สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ

แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ มีคุณพ่อ คุณแม่หลายคนที่รักษาลูกน้อยไปสักระยะแล้ว ลองให้ลูกรับประทานอาหารเหมือนเดิม เพื่อตรวจดูว่าลูกหายแล้วหรือยัง ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เพราะเด็กยังไม่หายดี ก็อาจจะเกิดอาการแพ้ขึ้นมาใหม่ และพบว่าเด็ก 1 ใน 10,000 คน มีสิทธิ์เกิดอาการช็อกจากการแพ้ภายในชั่วโมงแรก เพราะแม้แต่การทดสอบในโรงพยาบาล คุณหมอยังต้องเตรียมบุคลากร เครื่องมือ และยาแก้แพ้ไว้ช่วยเหลือ ถ้าเด็กเกิดอาการช็อก

คุณพ่อ คุณแม่ไม่ควรเปลี่ยนให้ลูกรับประทานอาหารแบบเดิมเอง เพราะถ้าลูกยังแพ้อยู่ อาจเกิดอาการช็อก และช่วยชีวิตเอาไว้ได้ไม่ทัน จนเสียชีวิตได้ จึงควรรอให้คุณหมอตรวจสอบจะปลอดภัยที่สุด

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ “ทำความรู้จักกับโรคภูมิแพ้ในเด็ก” คลิกหน้า 2

ทำความรู้จักกับโรคภูมิแพ้ในเด็ก

โรคภูมิแพ้ในเด็ก เป็นโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหาร เช่น นมวัว ไข่ ถั่วลิสง อาหารทะเล หรือภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น สัตว์เลี้ยง ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งผลให้เกิดการแสดงในหลายระบบของร่างกาย เช่น ผิวหนัง การหายใจ และทางเดินอาหาร

โดยอาการที่พบเมื่อลูกเป็นภูมิแพ้ มีดังนี้

1.ผิวหนัง จะมีอาการผื่นคัน ผิวหนังแห้ง โดยเฉพาะใบหน้า แก้ม ข้อศอก ข้อพับ เข่า ซอกคอ และตามลำตัว

2.การหายใจ ทำให้เป็นหวัดบ่อย หรือบางช่วงเวลาของวัน เช่น จามน้ำมูกไหลในตอนเช้า แต่ไม่มีอาการในเวลาอื่น หรือเป็นหวัดเรื้อรัง เช่น ไซนัสอักเสบ มีอาการไอบางเวลา เช่น เวลาวิ่ง อากาศเปลี่ยนแปลง เวลากลางคืน หรือไอหลังจากหายจากหวัดเป็นเวลานาน

3.ทางเดินอาหาร เช่น ริมฝีปากบวม มีผื่นคันรอบปาก คลื่นไส้ อาเจียน แหวะนมบ่อย ท้องอืด ถ่ายเหลว มีมูกเลือดปนในอุจจาระ

การทดสอบอาการแพ้ด้วยวิธีต่างๆ

การตรวจสอบอาการแพ้นั้น มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ได้แก่

1.การทดสอบทางผิวหนัง (skin test) เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด เพราะทำให้ทราบผลได้ภายในวันเดียว

2.การเจาะเลือด เป็นวิธีที่ใช้เมื่อไม่สามารถทำการทดสอบทางผิวหนังได้ เช่น ในคนที่มีประวัติการแพ้รุนแรงถึงขั้นช็อก หรือคนที่มีผื่นมาก และผิวหนังไม่ปกติมากพอในการทดสอบ แต่บางครั้งเมื่อตรวจเลือดแล้ว อาจต้องตรวจทางผิวหนังเพื่อยืนยันการทดสอบด้วย

3.การทดสอบสมรรถภาพปอด โดยทดสอบในเด็กที่สงสัยว่าจะเป็นหอบหืด ส่วนใหญ่จะตรวจในเด็ก 6-7 ขวบขึ้นไป

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ “การทดสอบการแพ้ด้วยการทำสกินเทสต์” คลิกหน้า 3

การทดสอบการแพ้ด้วยการทำสกินเทสต์

ขั้นตอนในการทดสอบภูมิแพ้ด้วยการทำสกินเทสต์ หรือเรียกอีกอย่างว่า วิธีการสะกิดนั้น คุณหมอจะนำสารสกัดจากภูมิแพ้หลายชนิด มาสะกิดที่ผิวหนังทีละจุด โดยในเด็กนั้นจะทำการทดสอบที่แผ่นหลัง วิธีการคือหยดน้ำยา แล้วนำเข็มมาสะกิดที่ผิวหนัง และรอผลประมาณ 15-30 นาที ถ้าสารไหนก่อให้เกิดอาการแพ้ บริเวณนั้นก็จะนูนแดงขึ้นมา และเป็นผื่น คุณหมอก็จะวัดขนาดของรอยนูนนั้น เพื่อตรวจว่าลูกน้อยแพ้อะไรบ้าง มากหรือน้อยแค่ไหน เพื่อแนะนำให้ลูกน้อยหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้

หลังจากทำการทดสอบ ควรนั่งรอดูอาการอีกประมาณ 30 นาที แล้วค่อยกลับบ้าน และหลังจากกลับบ้านแล้ว คอยสังเกตอาการลูกน้อยเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ถ้ายังพบผื่นนูนแดงอยู่ ให้รีบแจ้งคุณหมอ เพื่อทำการตรวจรักษาต่อไป

สำหรับการเจาะเลือด ทำสกินเทสต์นั้น ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ กล่าวว่า ผลที่ได้มานั้นอาจไม่ชัดเจนเท่ากับอาการแพ้ที่เกิดขึ้นจริง จึงควรสังเกตว่าลูกน้อยแพ้อาหารอะไรกันแน่ เพื่อหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารนั้น โดยลูกน้อยสามารถรับประทานอาหารชนิดอื่นที่มีสารอาหารจำเป็นต่อร่างกาย และพัฒนาการได้ เช่น เด็กที่แพ้นมวัว และอาหารหลายชนิด ทางโรงพยาบาลก็จะให้รับประทานนมข้าวอะมิโนที่มีโปรตีนที่ไม่เหมือนกับนมวัว ซึ่งมีปริมาณน้อยมาก แต่ยังมีคุณค่าทางสารอาหารอย่างครบถ้วน หลังจากนั้นจึงค่อยๆ อาหารเพื่อทำการตรวจเช็คอาการแพ้ไปเรื่อยๆ ว่าหายดีแล้วหรือไม่ เพราะอาการแพ้ต่างๆ ส่วนใหญ่จะเกิดกับเด็กทารก ไปจนถึงอายุ 2-3 ขวบ แล้วจะหายไปเอง

เครดิต: ผู้จัดการออนไลน์, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, siri allergy guard

อ่านเพิ่มเติม คลิก!

แม่ถึงแม่!! ลูกแพ้อาหาร เพราะแม่ท้องโด๊ปอาหารกลุ่มเสี่ยงมากเกินไป

7 เมนูอาหารและขนม สำหรับเด็กแพ้อาหาร

อาหารแม่ท้องและให้นมลูก กินอย่างไร? ไม่ให้ลูกแพ้อาหาร

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

Save

Save