“คืนเงิน7แสนที่ยืมฉันมาก่อน แล้วฉันจะเซ็นใบหย่าให้”
ภรรยาของเขาพูดขึ้นหลังจากเขาเลื่อนหนังสือหย่าให้เธอ
“คุณจะเอายังไงอีก เราคุยกันเมื่อคืนแล้วไม่ใช่เหรอ? บ้าน รถ ทรัพย์สมบัติทั้งหมดผมยกให้คุณ ผมจะไปตัวเปล่า?”
“คืนเงินให้ฉันมาก่อน แล้วคุณจะไปที่ไหนก็ไป”
เจ้าหน้าที่ได้แต่พูดไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองลองกลับไปทบทวนอีกครั้ง
“หวังว่าพวกเราคงจะไม่ได้พบคุณทั้งสองคนที่นี่อีกนะครับ”
เจ้าหน้าที่กล่าวทิ้งท้าย!
“เซ็นสัญญาให้ฉันก่อน ว่าคุณยินดีจะคืนเงินให้ฉัน”
ชายหนุ่มกัดฟันกรอด พร้อมกันพูดลอดไรฟันออกมาว่า
“ไม่ต้องห่วง ผมคืนให้คุณแน่”
“ฉันจะรอ เมื่อคืนเงินครบทุกบาททุกสตางค์ เราก็ไปอำเภอกันอีกครั้ง ฉันทวนอีกครั้งนะ บ้านหลังนี้คุณยกให้ฉันเอง ฉันมีกรรมสิทธิ์ที่จะอยู่ที่นี่ ส่วนหนี้ที่คุณสร้างมันเป็นเรื่องของคุณ ฉันไม่เกี่ยว ฉันจะบอกอะไรให้นะ เป็นหนี้ใครแล้วไม่คืน ต่อให้ตายไปก็ตาไม่หลับ” ภรรยาของเขาพูดออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ส่วนเขา ได้แต่ก้มหน้าเซ็นชื่อลงในใบสัญญา ในใจแช่งด่าเธอไปแล้วร้อยพันครั้ง
“สารเลวจริงๆนังผู้หญิงคนนี้!”
อ่านต่อ >> เรื่องราวของสามีภรรยาย “คืนเงินฉันมา…แล้วฉันจะยอมหย่าให้” คลิกหน้า 2
ก่อนหน้าที่จะแต่งงานกับเธอ เขาทำงานที่บริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง จากความสนิทสนมกับผู้รับเหมา เขาก็พอที่จะรู้ช่องทางการรับงานของผู้รับเหมาว่าเขาเหล่านั้นรับงานกันอย่างไร จนวันหนึ่ง เขาได้เจอกับภรรยา และตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน …. ด้วยเส้นสายและความเอ็นดูของเจ้านายเก่า ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากบริษัท ออกมารับงานด้วยตนเอง แต่ด้วยเงินทองที่มีอยู่ในมือยังขาดแคลน เขาจึงเอ่ยปากยืมเงินจากภรรยามาลงทุนไป 7 แสน และยืมจากญาติๆอีกจำนวนหนึ่ง
>> จากผู้รับเหมาเล็กๆ ขยายงานโดยเพิ่มร้านขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างเล็กๆขึ้นอีกหนึ่งอย่าง กิจการยิ่งมาก็ยิ่งเจริญ ในตอนที่เขากำลังจะคืนเงินที่หยิบยืมมาจากภรรยาและญาติๆ จู่ๆร้านขายวัสดุก่อสร้างก็ถูกเพลิงไหม้ งานที่รับไว้เงินก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง เขาพยายามประคับประคองธุรกิจไว้อย่างทุกลักทุเล เงินประกันที่ได้จากเหตุเพลิงไหม้ เขานำไปคืนเจ้านายเก่า และคืนให้กับคนที่หยิบยืมมาแบบเร่งด่วน ก็เหลือแต่ของภรรยาและญาติอีกประมาณ 4 แสน
ภรรยาของเขาเป็นคนที่คอยให้กำลังเขามาโดยตลอด ยิ่งภรรยาดีต่อเขามากเท่าใด เขาก็รู้สึกผิดต่อเธอมากเท่านั้น จนวันหนึ่ง เขาตัดสินใจพูดเรื่องหย่ากับภรรยา เขาไม่ได้บอกความจริงแก่เธอ เขาบอกเธอเพียงแค่ว่า เขาอยากใช้ชีวิตแบบสงบ เขาไม่อยากดิ้นรนต่อสู้อีกแล้ว หลังจากหย่าจากกัน เขาจะยกทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เธอทั้งหมด เขาจะจากไปตัวเปล่า!
…จากวันนั้นเป็นต้นมา ภรรยาของเขาก็เปลี่ยนไป เธอถามสาเหตุที่แท้จริงจากเขา ว่าเขามีบ้านเล็กบ้านน้อยใช่หรือไม่ ทำไมถึงคิดจะหย่าขาดจากเธอ เพราะหากเป็นเพราะเหตุผลที่เขาบอก เธอก็พร้อมจะสู้ไปกับเขา เริ่มต้นสร้างฐานะครอบครัวไปกับเขาอีกครั้ง แม้เธอจะถามสักกี่ครั้ง เขาก็ตอบเธอไปเหมือนเดิมทุกครั้ง เพราะเขาไม่ได้มีบ้านเล็กบ้านน้อยเหมือนที่เธอสงสัย จนมาถึงเหตุการณ์ในวันนี้ ที่พากันไปหย่าที่อำเภอ!
เขาฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง เขาจะไม่ยอมให้ผู้หญิงใจร้ายคนนี้สบประมาทเขาอีกเป็นอันขาด…เขาตัดสินใจย้ายออกมาเช่าบ้านอยู่ข้างนอก และขอยืมเงินจากเพื่อนสนิทจำนวนหนึ่งล้านเพื่อเป็นทุนในการรับเหมางานอีกครั้ง
“ที่กูให้มึงยืมไม่ใช่เพราะเห็นว่ามึงเป็นเพื่อนหรอกนะแต่กูอยากให้มึงตั้งตัวได้อีกครั้ง มึงเป็นคนรักศักดิ์ศรี อย่าให้กูผิดหวังล่ะ!”
เพื่อนของเขาพูดขึ้นในวันที่เขาไปรับเงิน
เขาเข้าไปของานจากเพื่อนร่วมเส้นทางธุรกิจก่อสร้าง ไม่ปฏิเสธแม้งานเล็กงานน้อย ทำงานด้วยความขยันและอดทนกว่าเมื่อก่อนไม่รู้กี่เท่า กินอยู่อย่างประหยัดมัธยัสถ์ ทำให้เงินทองที่หยิบยืมมาเกิดดอกออกผลขึ้นมาเรื่อยๆ
เพื่อนคนที่ให้เขายืมเงิน หมั่นเวียนแวะมาเยี่ยมเขาอยู่เสมอ ทุกครั้งที่มาก็มีของกินของใช้ติดมือมาด้วยตลอด ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ >> เรื่องราวของสามีภรรยาย “คืนเงินฉันมา…แล้วฉันจะยอมหย่าให้” คลิกหน้า 3
ผ่านไป 2 ปี เขาก็พอมีเงินมีทองที่จะชดใช้จ่ายคืนได้บ้างแล้ว เขาไม่มีผู้หญิงอื่น เพราะเขาก็ไม่ได้คิดนอกใจภรรยาของเขาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่ง เขาอยากให้เธอสำนึกผิดและละอายใจที่ประเมินเขาต่ำไป
เขานำเงินไปคืนให้เพื่อนๆที่เขาหยิบยืมมาก่อนหน้านั้น เริ่มจากรายที่น้อยๆก่อน ส่วนที่เป็นของภรรยาและญาตินั้นค่อยเอาไว้ทีหลัง
แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ เพื่อนทุกคนต่างก็บอกกับเขาว่า
“จะเอามาคืนอีกทำไม ก็ในเมื่อคืนมาตั้งเกือบ2ปีแล้ว”
มันเป็นไปได้ยังไง เขาไม่เคยนำเงินมาคืนเพื่อนๆเลยนี่นา
“ก็เมียของนายนั่นแหละที่เป็นคนเอาเงินมาคืน”
เขายิ่งประหลาดใจหนักเข้าไปใหญ่ จากเจ้าหนี้คนที่1,2,3 ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันเขาตัดสินใจไปหาเพื่อนคนที่ให้เขายืมเงินล้านมาเมื่อสองปีที่แล้ว
“ไม่ใช่แค่นี้นะโว้ย เงินที่กูให้มึงยืมก็เป็นเงินของเมียมึงอีกเหมือนกัน! และของกินของใช้ที่กูเอาไปฝากมึงตลอด นั่นก็เป็นของที่เมียมึงฝากให้กูเอาไปอีกเหมือนกัน!”
“เธอไปเอาเงินมาจากไหนตั้งมากมาย?” เขาคิดทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่า
ผู้หญิงใจดำที่เขาแค้นนักแค้นหนาคนนั้นนะเหรอ ที่เป็นคนให้เงินเขามาตั้งตัว? ที่ให้ข้าวของอาหารการกินกับเขามาตลอด? … เขาตัดสินใจไปที่บ้านหลังเก่าของเขาอีกครั้ง เมื่อพบภรรยาของเขา เขาตรงไปคุกเข่าขอให้เธออภัยในความโง่เขลาของเขา ภรรยาของเขารีบพยุงสามีให้ลุกขึ้น
“คุณไปเอาเงินมาจากไหนตั้งมากมาย?”
คำถามแรกที่หลุดจากปากของเขาด้วยความสงสัย
“ฉันตัดสินใจขายบ้านของเราค่ะ เจ้าของใหม่ใจดี ให้ฉันเช่าอยู่ต่อด้วยราคาที่ถูกแสนถูก”
ภรรยาของเขาตอบด้วยน้ำตา
“ทำอะไรโง่ๆ แล้วถ้าผมตั้งตัวไม่ได้ล่ะ คุณจะไปอยู่ที่ไหน?”
เขาตำหนิภรรยาที่กำลังยืนร้องไร้อยู่ตรงหน้าเขา
“บ้าน ขายแล้วก็ซื้อใหม่ได้ แต่คน จากไปแล้วก็ไม่เหลืออะไร!”
เขาดึงภรรายเข้ามากอดไว้แน่น
“ผมขอโทษ ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำอะไรโง่ๆให้คุณต้องเสียใจอีกต่อไป ผมสัญญา”
……………………………….
ภรรยา #ผู้หญิงโง่ๆ ที่ยอมอดข้าวอดขนมเพื่อซื้อของขวัญให้คุณในวันพิเศษ
ภรรยา #คนรับใช้หญิง ที่ยอมทิ้งหลายสิ่งหลายอย่างเพราะรักคุณ ยอมอยู่เคียงข้างคุณไปจนแก่เฒ่า
ภรรยา #ผู้หญิงใจแคบ ที่ไม่ยอมให้คุณมองใคร ชมใคร ยกย่องใครไปมากกว่าเธอ
ภรรยา #ผู้หญิงที่เข้มแข็ง สวย เชิด เริ่ด หยิ่งกับใครๆ แต่พออยุ่กับคุณ กลับเอาแต่ใจและเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง
ภรรยา #ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ยอมให้คุณเอาเปรียบรองจากแม่ของคุณ!
ขอบคุณข้อมูลจาก : นุสนธิ์บุคส์