AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ไขมันทรานส์คืออะไร? กินมากไปป่วย 12 โรคอันตราย!!

ตามประกาศห้าม ผลิต จำหน่าย และ นำเข้า ไขมันทรานส์ จากกระทรวงสาธารณสุข ทำให้หลาย ๆ คนตื่นตัวว่า ไขมันทรานส์คืออะไร? ทำไมถึงอันตรายและอันตรายแค่ไหน? มาดูกันค่ะว่า โรคที่เกิดจากการกินอาหารที่มีไขมันทรานส์มีอะไรบ้าง?

ไขมันทรานส์คืออะไร? กินมากไปป่วย 12 โรคอันตราย!!

ไขมันทรานส์คืออะไร?

ไขมันทรานส์ เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว สามารถพบได้จากในธรรมชาติ และจากการสังเคราะห์ขึ้น โดยกรดไขมันธรรมชาติ พบได้ในเนื้อสัตว์ (มีไขมันทรานส์อยู่ประมาณ 3-9%) ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัว หรือ นมแพะ หรือ นมแกะ (มีไขมันทรานส์อยู่ประมาณ 2-5%) ส่วนไขมันทรานส์ที่เกิดจากการสังเคราะห์ เป็นไขมันที่เกิดจากกระบวนการเติมไฮโดรเจนในน้ำมัน ทำให้น้ำมันที่อยู่ในสภาพของเหลวเปลี่ยนเป็นไขมันที่มีสภาพแข็งขึ้นหรือเป็นของกึ่งเหลว พบในอุตสาหกรรมเนยเทียม หรือเนยขาว ซึ่งไขมันดังกล่าวจะหืนช้า และมีอายุการเก็บรักษานานขึ้น

ไขมันทรานส์เกิดจากอะไร?

จริง ๆ แล้ว ไขมัน เป็น 1 ใน 5 หมู่อาหารที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับ แต่อย่างที่ทราบกันว่าในกรดไขมันนั้น มีทั้งไขมันดี (HDL-Choresterol) และ ไขมันเลว (LDL-Choresterol) เนื่องจากการเก็บรักษาน้ำมันพืชที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวนั้น หากเก็บไว้นาน ๆ น้ำมันพืชจะทำปฏิกริยาากับอากาศ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นหืน จึงได้มีการเติมไฮโดรเจนบางส่วนลงไป เพื่อให้มีอายุการเก็บรักษานานขึ้น ซึ่งการเติมไฮโดรเจนนี้ ทำให้เกิดไขมันที่เรียกว่า ไขมันทรานส์ ขึ้นมา ซึ่งเจ้าไขมันทรานส์นี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะเปลี่ยนเป็นไขมันเลว และ ยังไปทำลายไขมันดีในร่างกายอีกด้วย ดังนั้น การทานอาหารที่มีไขมันทรานส์มากไป จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ดังนี้

ขอบคุณภาพจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ ไขมันทรานส์คืออะไร? กินมากไปป่วย 12 โรคอันตราย!!

ไขมันทรานส์คืออะไร? กินมากไปป่วย 12 โรคอันตราย!!

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า ไขมันทรานส์คืออะไร? อันตรายแค่ไหน? มาดูกันค่ะว่า ไขมันทรานส์ ก่อให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง

  1. โรคหัวใจและหลอดเลือด

โรคหลอดเลือดหัวใจ เกิดจากไขมันและเนื้อเยื่อสะสมในผนังของหลอดเลือด ทำให้เยื่อบุผนังหลอดเลือดชั้นในตำแหน่งนั้นหนาตัวขึ้น ทำให้หลอดเลือดมีการตีบแคบลง ทำให้เลือดซึ่งนำออกซิเจนไหลผ่านได้น้อยลง ส่งผลให้เลือดไหลไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ไม่เพียงพอ จนนำไปสู่การอุดตัน จนทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปจนถึงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ซึ่งจะทำให้เสียชีวิตกระทันหันได้ ซึ่งไขมันทรานส์ที่เรากินเข้าไปนั้น เป็นตัวการที่ทำให้ปริมาณ์ไขมันเลวสะสมอยู่ในร่างกาย และเกาะตัวอยู่ตามผนังหลอดเลือดเยอะนั่นเอง

โรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง สามารถเกิดขึ้นได้จากการกินอาหารที่มีไขมันทรานส์มากเกินไป

2. โรคเบาหวาน และ ภาวะความไวต่ออินซูลิน

โรคเบาหวาน เป็นภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือการดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ส่งผลให้กระบวนการดูดซึมน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงานของเซลล์ในร่างกายมีความผิดปกติหรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จนเกิดน้ำตาลสะสมในเลือดปริมาณมาก หากปล่อยให้ร่างกายอยู่ในสภาวะนี้เป็นเวลานานจะทำให้อวัยวะต่าง ๆ เสื่อม เกิดโรคและอาการแทรกซ้อนขึ้น โดยวิจัยระบุว่าการทานอาหารที่มีไขมันทรานส์มาก ๆ ส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะความไวต่ออินซูลิน จนนำไปสู่การเป็นโรคเบาหวานได้

3. โรคอ้วนลงพุง

เกิดจากกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกายมีความผิดปกติ ทำให้ร่างกายมีไขมันสะสมที่หน้าท้องและมีรอบเอว ทำให้ขนาดของหน้าท้องและรอบเอวมีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งโรคอ้วนลงพุงนั้น มักจะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น ซึ่งตัวการที่ทำให้เกิดความผิดปกติในกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกาย ก็คือ ไขมันทรานส์ นั่นเอง

การทานอาหารที่มีไขมันทรานส์มาก ทำให้เกิดโรคอ้วนลงพุงได้

4. โรคความดันโลหิตสูง

โรคความดันโลหิตสูง เป็นเพชฌฆาตเงียบ ที่ผู้ป่วยมีความดันเลือดในหลอดเลือดแดงสูงกว่าปกติตลอดเวลา ซึ่งโรคนี้ เป็นเพราะ การกินอาหารที่มีไขมันทรานส์มากไป จนทำให้ร่างกายมีไขมันติดอยู่ตามหลอดเลือด เมื่อเลือดไหลผ่านได้ไม่สะดวก ก็จะส่งผลให้ความดันโลหิตทำงานได้ไม่สม่ำเสมอ จนทำให้เป็นโรคนี้ได้ โดยโรคนี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่รุนแรงได้ เช่น โรคหัวใจ โรคไตเรื้อรัง เป็นต้น

5. โรคหลอดเลือดสมอง

ไขมันทรานส์ ไม่ได้ทำให้ไขมันเลวไปเกาะตามหลอดเลือดที่เลี้ยงเข้าสู่หัวใจ เพียงจุดเดียวเท่านั้น  ไขมันเลวต่าง ๆ ยังสามารถไปเกาะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองได้อีกด้วย ซึ่งโรคนี้จะทำให้เกิดภาวะสมองขาดเลือดได้ ซึ่งหากอาการรุนแรงมาก อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

6. โรคอัลไซเมอร์

อัลไซเมอร์ โรคที่เป็นสาเหตุของภาวะสมองเสื่อม ส่งผลต่อสมองส่วนที่ควบคุมความคิด ความทรงจำ และการใช้ภาษา อาการของโรคจะเริ่มจากการหลงลืมที่ไม่รุนแรงจนแย่ลงเรื่อย ๆ ถึงขั้นไม่สามารถสนทนาโต้ตอบหรือมีการตอบสนองต่อสิ่งรอบข้าง ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างร้ายแรง โดยปกติแล้วการทำงานของสมอง ในด้านการจดจำและเรียนรู้ จำเป็นจะต้องใช้ไขมันดีมาเป็นวัตถุดิบ แต่การทานไขมันทรานส์ ซึ่งไปลดไขมันดีในร่างกายให้เหลือน้อยลง ทำให้สมองไม่มีวัตถุดิบมาทำงาน จึงทำให้มีอาการหลง ๆ ลืม ๆ ได้

7. มะเร็งเต้านม

วิจัยระบุว่า ผู้หญิงที่ทานอาหารที่มีไขมันทรานส์มาก ๆ ในช่วงก่อนวัยหมดประจำเดือน จะมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม ในช่วงวัยหลังหมดประจำเดือนได้มากกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ทาน

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ ไขมันทรานส์คืออะไร? กินมากไปป่วย 12 โรคอันตราย!!

ไขมันทรานส์คืออะไร? กินมากไปป่วย 12 โรคอันตราย!!

8. ภาวะการอักเสบในร่างกาย

ภาวะการอักเสบในร่างกาย คือ การบาดเจ็บของเซลล์ ส่งผลให้เนื้อเยื่อเกิดบวม แดง ร้อน เจ็บ ปวด และอาจมีไข้ได้ โดยการอักเสบนี้ สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ไวรัส แบคทีเรีย สารเคมี อาหารการกิน เป็นต้น โดยอาหารที่ทำจากไขมันทรานส์ จะปล่อยอนุมูลอิสระออกมาทำลายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะการอักเสบได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดอาการ เช่น สิว ภูมิแพ้ผิวหนัง หรือ โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น

การทานอาหารที่มีไขมันทรานส์ ส่งผลกระทบต่อการตกไข่ในผู้หญิง

9. ภาวะมีบุตรยาก

จากการวิจัย พบว่า การทานอาหารที่มีไขมันทรานส์มากไป จะส่งผลกระทบต่อการตกไข่ในผู้หญิง ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้นั่นเอง

10. ตับทำงานผิดปกติ

อาหารทุกชนิดที่เรากินเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน วิตามิน ยา หรืออาหารใด ๆ ก็ตาม ร่างกายเราไม่สามารถดูดซึมสารอาหารเหล่านี้ไปใช้ได้ทันที ต้องผ่านกระบวนการย่อย โดยตับจะทำหน้าที่จัดเก็บสารอาหารต่าง ๆ แล้วนำมาสร้างสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย การทานอาหารที่มีไขมันทรานส์เข้าไปในร่างกาย ส่งผลให้ตับต้องทำงานหนักมากขึ้น เพราะร่างกายของเราไม่มีกระบวนการที่สามารถย่อยสลายไขมันทรานส์ได้ด้วยวิธีการปกติ เมื่อตับต้องทำงานหนักมากขึ้น ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะผิดปกติได้

11. นิ่วในถุงน้ำดี

นิ่วในถุงน้ำดี คือ การที่ร่างกายมีก้อนนิ่วอยู่ในถุงน้ำดี โดยก้อนนิ่วนี้ เกิดขึ้นเมื่อส่วนประกอบของน้ำดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งคอเลสเตอรอลและบิลิรูบิน ตกตะกอนผลึกเป็นก้อนคล้ายกับน้ำตาลที่ตกตะกอนอยู่ด้านล่างของขวดน้ำเชื่อม โดยก้อนนิ่วที่เกิดขึ้นนี้อาจมีขนาดเล็กเท่าเม็ดทรายหรือใหญ่เท่าลูกกอล์ฟ และอาจมีได้ตั้งแต่หนึ่งก้อนจนถึงหลายร้อยก้อนก็เป็นได้ วิจัยได้ระบุว่า การบริโภคอาหารที่มีไขมันทรานส์เป็นประจำ เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เป็นนิ่วในถุงน้ำดีได้มากขึ้น

12. จอประสาทตาเสื่อม

เนื่องจากไขมันทรานส์ เป็นกรดไขมันที่ปล่อยอนุมูลอิสระมาทำลายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย จึงทำให้เซลล์ต่าง ๆ เสื่อมได้เร็วขึ้น ซึ่งเซลล์ในจอประสาทตา ก็เป็นอวัยวะหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากไขมันทรานส์

เห็นไหมคะ ว่าไขมันทรานส์กินแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเราบ้าง ทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงอยากชักชวนให้ทุก ๆ ท่านหันมากินไขมันให้พอดีต่อสุขภาพ โดยในแต่ละวันควรกินไขมันไม่เกิน 30% หรือ 2-3 ช้อนชาต่อมื้ออาหาร และควรใช้น้ำมันให้ถูกประเภท อาหารประเภท ผัด หรือ ทอดธรรมดา ควรใช้น้ำมันถั่วเหลืองหรือน้ำมันรำข้าว ส่วนอาหารประเภททอดกรอบ ควรใช้น้ำมันปาล์ม และอย่าลืมออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดีกันนะคะ

อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้ที่นี่

เบคอน อาหารปลิดชีวิตคนจากมะเร็งได้พอ ๆ กับบุหรี่

อันตรายจากสาร BPA ในขวดน้ำดื่ม ที่แม่ท้องต้องระวัง

ไขมันเลว คืออะไร พร้อมวิธีกำจัดออกจากร่างกาย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : ส ส ส, honestdocspobpad, webmd, healthline, www.kapook.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids