แม่ผู้เสียสละ …เรื่องราวนี้เป็นเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เนื่องจากคุณแม่ลูกอ่อนวัย 21 ประสบเหตุ จยย.พลิกคว่ำเอง โดยมีลูกน้อยวัยขวบเศษมีบาดแผลถลอก และเกิดร้องงอแงไม่หยุดผู้เป็นแม่จึงรีบฝืนร่างกายในสภาพเลือดโชกเต็มใบหน้า แล้วจึงถลกเสื้อขึ้นเพื่อให้ลูกน้อยดื่มกินนมจากเต้า หวังเพื่อปลอบประโลม
แม่ผู้เสียสละ ทนเจ็บได้เพื่อลูก
เจ้าหน้าที่จากเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ชื่อ สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ สุโขทัยทีม ได้รับแจ้งว่ามีเหตุ รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ บนถนนท่าข้าวโค้งตานก ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย ซึ่งที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 3 ราย เป็นครอบครัวเดียวกัน โดยประสบเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำเอง
และเมื่อกู้ภัยพร้อมชาวบ้านไปถึงก็ต้องพบภาพสะเทือนใจจนน้ำตาซึม เนื่องจากพบว่าผู้บาดเจ็บผู้เป็นแม่ ที่อยู่ในสภาพศีรษะแตกเลือดท่วมใบหน้า กำลังถลกเสื้อให้ลูกสาววัยทารกดื่มกินนมจากเต้า แม้ว่าบาดแผลจะสาหัสแค่ไหนก็ตาม แต่เพื่อให้ลูกคลายความเจ็บปวดและหิวนม ผู้เป็นแม่ก็ยอม ก่อนที่กู้ภัยจะเข้าไปปฐมพยาบาล
อ่านต่อ >> “นมแม่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของลูกได้จริงหรือ” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ซึ่งพอสอบถามทำให้ทราบว่า หนูน้อยทารกคนนี้ อายุ 1 ปีเศษ ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำ มีแผลถลอกตามตัวจนต้องร้องไห้ตลอดเวลา ผู้เป็นแม่จึงฝืนเจ็บถลกเสื้อขึ้นมาให้ดื่มกินนมจากเต้าปลอบประโลม ก่อนนำส่ง รพ.สุโขทัย
จากเหตุดังกล่าว ทำให้หลายคนที่ได้เห็นภาพต่างรู้สึกสงสารจนน้ำตาไหลในความรักของคนเป็นแม่อย่างมาก และกระทั่งมีการเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ จึงทำให้เกิดความซาบซึ้งและประทับใจในหัวจิตหัวใจของคนเป็นแม่ของหญิงสาววัยรุ่นรายนี้อย่างมาก
นมแม่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของลูกได้จริงหรือ?
หากจะพูดถึงการบรรเทาความเจ็บปวดของลูกน้อย ด้วยอ้อมอกแม่ หรือด้วยน้ำนมจากเต้าของแม่ ก็สามารถเป็นไปได้ เพราะ พญ.บุณยาพร พันธิตพงษ์ กลุ่มงานสูติกรรม โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี ได้เปิดเผยถึงผลการวิจัย R2R เรื่อง “เปรียบเทียบผลของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในการลดระดับความเจ็บปวดของทารกแรกเกิดจากการเจาะเลือดขณะให้ลูกกำลังดูดนมแม่และหลังจากให้ลูกดูดนมแม่แล้ว”
♥ แนะนำบทความควรอ่าน! : ประโยชน์คับเต้า นมแม่ ทำอะไรได้มากกว่าที่คิด
♥ แนะนำบทความควรอ่าน! : น้ำนมเหลือง สิ่งมหัศจรรย์ปกป้องลูกจากโรคร้าย
โดยพญ.บุณยาพ กล่าวว่า ทารกแรกเกิดมีโอกาสที่จะได้รับการทำหัตถการที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด เช่น ถูกเจาะเลือด หรือฉีดยา เป็นต้น จึงได้ทำการศึกษาในทารกแรกคลอดครบกำหนดจำนวน 75 คน ที่ต้องถูกเจาะเลือดตามกระบวนการดูแลทารกตามปกติที่อายุ 48 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ทารกจะถูกจับสลากแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ถูกเจาะเลือดขณะกำลังดูดนมแม่ , กลุ่มที่ 2 ถูกเจาะเลือดหลังดูดนมแม่อิ่มแล้วไม่เกิน 10 นาที และกลุ่มที่ 3 ถูกเจาะเลือดขณะที่ไม่ได้ดูดนมแม่มานานเกิน 1 ชั่วโมงแล้ว แต่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง
แล้ววัดการตอบสนองต่อความเจ็บปวดทางสรีระด้วยอัตราการเต้นของหัวใจ ค่าความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดที่เปลี่ยนแปลง วัดพฤติกรรมที่ตอบสนองต่อความเจ็บปวดด้วยระยะเวลานานของการร้องไห้ และ Neonatal Infant Pain Scale (NIPS) ซึ่งเป็นแบบประเมินการตอบสนองเพิ่มขึ้นระหว่างการทำหัตถการ และคะแนนลดลงหลังทำหัตถการ เพื่อใช้เฝ้าระวังทารกก่อน ระหว่าง และหลังการทำหัตถการที่ทำให้ทารกได้รับความเจ็บปวด
พญ.บุณยาพร กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่า ระยะเวลานานของการร้องไห้และ NIPS ในทารกที่ถูกเจาะเลือดขณะดำลังดูดนมแม่น้อยกว่ากลุ่มที่ 2 และ 3 อย่างชัดเจน ส่วนการเปลี่ยนแปลงอัตราการเต้นของหัวใจและค่าความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดทั้ง 3 กลุ่มไม่พบความแตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ
สรุปคือ การทำหัตถการทารกขณะดูดนมแม่ ช่วยลดความเจ็บปวดของทารกได้ ถือเป็นการนำสิ่งที่เป็นธรรมชาติ คือ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางคลินิก
อ่านต่อ >> “จิตวิญญาณของความเป็นแม่ คืออะไร” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
คำว่า “แม่” เป็นมงคลสูงสุดของมนุษย์ เป็นจิตวิญญาณ อะไรที่มีคุณค่ามนุษย์จะเรียกว่า “แม่” เช่น แม่ธรณี แม่น้ำ แม่คงคา แม่โพสพ แม้แต่กับผู้ชายก็ยังใช้คำว่าแม่ เช่น แม่ทัพ ภาษาอังกฤษก็ใช้เช่นกัน เช่น Mother Nature “พระแม่ธรรมชาติ” Mother Earth “พระแม่แผ่นดิน” หรือก็คือ แม่ธรณี
แม่จึงเป็นอะไรที่ใหญ่โตและทรงคุณค่าจับจิตจับใจของมนุษย์ เพราะมนุษย์ทุกคนมีแม่ อยู่ในท้องของแม่ ฟังหัวใจของแม่ อยู่ในอ้อมอกแม่ กินน้ำนมแม่ กินอาหารที่แม่ป้อน แม่ปกป้องคุ้มครองลูกให้ปลอดภัยทุกวิถีทาง และตายแทนลูกได้ ความรักของแม่ที่มีต่อลูกกว้างใหญ่ไพศาลอย่างประมาณมิได้
ทั้งนี้หากพูดถึงจิตวิญญาณของความเป็นแม่ นั้นก็คือ การเป็นผู้ให้ ให้ชีวิต ให้ข้าว ให้น้ำ ให้ความดูแล เอาใจใส่ลูก และให้ความเมตตาต่อลูกเสมอ ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรขึ้นกับลูก แม้ผู้เป็นแม่จะเจ็บด้วยก็ตาม แต่ด้วยความมีจิตวิญญาณของความเป็นแม่อยู่ในตัว ผู้เป็นแม่นั้นก็ย่อมเสียสละเพื่อปกป้องลูก ดูแลลูก ก่อนตัวเองได้เสมอ
♥ จิตวิญญาณของความเป็นแม่
ในสังคมที่สับสนวุ่นวาย เครียด ไม่มีเวลาที่ใครจะคิดถึงใคร และอะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปหมดนี้ สิ่งที่คงทนต่อความเปลี่ยนแปลงมากที่สุด คือ ความรักที่แม่มีต่อลูก ความรักของแม่เป็นความรักที่บริสุทธิ์ เป็นความรักที่ปราศจากเงื่อนไข ถึงแม้ความรักของลูกที่มีต่อแม่จะไม่เท่ากับความรักของแม่ที่มีต่อลูกและยังถูกบั่นทอนไปด้วยชีวิตยุ่งๆ หนักๆ ในสังคมปัจจุบัน ก็เป็นสิ่งที่ปลุกไม่ยาก เพราะเป็นร่องรอยที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจในสายสัมพันธ์ที่ล้ำลึกระหว่างแม่กับลูก
เพราะลูกก่อกำเนิดมาจากเซลล์และดีเอ็นเอของแม่ อยู่ในร่างกายของแม่ ได้อาหารและพลังงานมาจากกระแสเลือดของแม่ ความรักทุกๆ อณูของแม่ที่มีต่อลูกในครรภ์จะสัมผัสสัมพันธ์กับชีวิตที่ค่อยๆ เติบโตขึ้น การเต้นตึ้กๆ ของหัวใจของแม่กระตุ้นสมองของลูกให้งอกงามขึ้น มนุษย์เป็นสัตว์ที่อยู่รอดด้วยตนเองเมื่อแรกคลอดไม่ได้ แต่อยู่รอดมาได้เพราะการประคบประหงมของแม่ น้ำนมของแม่มีสารที่ช่วยให้ภูมิคุ้มกันของลูกเข้มแข็งไม่เจ็บป่วยง่ายๆ สายตาแม่ลูกที่ประสานกันขณะลูกดูดนมแม่ด้วยความสุขคือสายใยของความรัก การโอบกอดของแม่ รอยยิ้มและการพูดคุย กระตุ้นโครงสร้างสมองของลูกให้แตกกิ่งก้านสาขา โครงสร้างในสมองของลูกที่กำหนดจิตใจต่อไปในอนาคตได้มาจากสัมผัสและการเลี้ยงดูของแม่
นั่นคือสิ่งยืนยันว่า เมื่อผู้หญิงได้กลายเป็นแม่คนแล้ว จิตวิญญาณของความเป็นแม่ กำเนิดขึ้น พร้อมการคลอดลูกออกมา และก็เชื่อได้อย่างสนิทใจเลยว่าลูกจะรู้สึกดีมีความสุขและปลอดภัยเมื่อได้อยู่ในอ้อมอกแม่อย่างแน่นอน
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- ฮอร์โมนแห่งการเสียสละของแม่ พิสูจน์แล้วจากการวิจัย
- ลูกๆ ควรอ่าน 10 ข้อฉุกคิดก่อนที่จะเถียงหรือขึ้นเสียงใส่แม่!
- คุณแม่ Full Time เลี้ยงลูกอยู่บ้าน สบายที่สุด (จริงหรือ?)
ขอบคุณข่าวจาก : www.dailynews.co.th , www.matichon.co.th
ขอบคุณภาพจาก สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ สุโขทัยทีม