อึ้ง! หนึ่งในสาเหตุทำผู้ชาย เซ็กส์เสื่อม เพราะการทาน ยาแก้ปวด ชนิดนี้!!
คุณพ่อคุณแม่ทราบกันหรือไม่คะว่า ในปัจจุบันพบว่า ชายไทยเข้ารับการปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาในเรื่องของการมีเซ็กส์เสื่อมเพิ่มมากขึ้น และอายุเฉลี่ยของผู้ป่วยนั้นก็ลดลงเรื่อย ๆ โดยอายุที่พบก็คือ 18 ปี และยังพบว่าปัญหาดังกล่าวนั้น เป็นกับคนสังคมเมืองมากกว่าอีกด้วยละค่ะ
นายแพทย์สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน แพทย์ศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์ แพทย์เวชศาสตร์ชลอวัยด้านสมรรถภาพทางเพศ โรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่ จังหวัดสงขลาได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันเพศชายพบปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือภาวะที่อวัยวะเพศไม่แข็งตัวเพิ่มมากขึ้น โดยข้อมูลจากทั่วโลกพบว่า ในปี 2538 มีเพศชายประสบปัญหานี้ 152 ล้านคน คาดว่าในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นเป็น 170 ล้านคนทั่วโลก
อ่านต่อเนื้อหาเพิ่มเติม >>
สำหรับประเทศไทยพบว่ามีเพศชายมาปรึกษาเรื่องอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 50 และพบแนวโน้มอายุเฉลี่ยที่น้อยลง เดิมทีจะอยู่ที่ประมาณอายุ 50-60 ปี ซึ่งเป็นการเสื่อมตามวัย แต่กลับพบในคนอายุน้อยลง โดยอายุน้อยที่สุดคืออายุ 18 ปี เนื่องจากนอนหลับพักผ่อนน้อยมากหรือแทบไม่ได้พักผ่อนเลย จากการตรวจระดับฮอร์โมนพบว่า ฮอร์โมนเพศชายต่ำมาก จึงรักษาด้วยการปรับฮอร์โมน เนื่องจากฮอร์โมนเพศชายจะถูกสังเคราะห์ตอนที่หลับสนิท เมื่อหลับสนิทเพียงพอ ฮอร์โมนเพศชายเพิ่มขึ้น ความแข็งตัวก็จะกลับมาเป็นปกติ
นายแพทย์สืบพงษ์ กล่าวว่า นอกจากการพักผ่อนน้อยและนอนดึกแล้ว ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย ได้แก่ การทำงานหนักเกินไป สูบบุหรี่ รับประทานอาหารขยะ นอกจากนี้เป็น โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน ก็ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ได้ โดยประมาณ 60% ของเพศชายที่เป็นโรคเหล่านี้จะมีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศร่วมด้วย โดยพบว่าภาคกลางนั้นมีปัญหาเรื่องนี้มากที่สุด โดยเฉพาะในสังคมเมือง ที่เหน็ดเหนื่อยจากความเครียดในการทำงาน และนอนพักผ่อนน้อย เป็นต้น
นอกจากสาเหตุตามที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ทราบหรือไม่คะว่า ล่าสุดได้มีผลการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้จากสถาบันการแพทย์ชื่อดังในประเทศฝรั่งเศสและเดนมาร์กว่า อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายส่วนใหญ่เซ็กส์เสื่อมนั้น เกิดมาจากการรับประทานยาแก้ปวดชนิดหนึ่งด้วย จะเป็นยาแก้ปวดกลุ่มไหนนั้น ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
อ่านต่อเนื้อหาเพิ่มเติม >>
เครดิต: Thai Tribune
กินยาแก้ปวดส่งผลให้ เซ็กส์เสื่อม จริงหรือ?
ผลการศึกษาจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการแพทย์ในฝรั่งเศสและเดนมาร์กชี้ ไอบูโพรเฟน และยาแก้ปวดที่ซื้อหาได้ง่ายทั่วไปกระทบการทำงานของอัณฑะ เช่น ลดเชื้ออสุจิ ฮอร์โมนเพศชาย ความต้องการทางเพศ รวมถึงกระทบต่อสุขภาพสำคัญอื่น ๆ จนส่งผลให้ชายวัยหนุ่มแน่นหรือกำลังเจริญพันธุ์มีระดับฮอร์โมนเพศลดถอยเหมือนชายวัยกลางคน
การศึกษาดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการศึกษาผลกระทบการใช้ยาประเภทไอบูโพรเฟนในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งทดสอบและได้ผลลัพธ์ว่า สตรีมีครรภ์ที่ทานยาระงับอาการปวดที่จัดจำหน่ายโดยทั่วไปตามร้านขายยา โดยไม่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์กำกับ ได้แก่ แอสไพริน อะเซตามีโนเฟนหรือที่เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ พาราเซตามอล และไอบูโพรเฟน มีผลกระทบต่ออัณฑะของทารกเพศชายที่เกิดมานอกจากนี้ยังเพิ่มแนวโน้มภาวะพิการแต่กำเนิดของทารกเพศชายด้วย
กลุ่มผู้ทำการค้นคว้าจึงตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับผลการค้นพบนี้ว่า “แล้วผู้ใหญ่ที่บริโภคยาระงับปวดจะได้รับผลกระทบอะไรหรือไม่?” โดยเฉพาะ ไอบูโพรเฟนซึ่งแสดงผลข้างเคียงมากที่สุด และเป็นยาที่นักกีฬาระดับอาชีพเลือกใช้มากที่สุด เนื่องจากไม่มีสารสเตียรอยด์
นักค้นคว้าได้ทำการทดลองกับอาสาสมัครชาย 31 ราย อายุระหว่าง 18-35 ปี แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 จำนวน 14 คน ทานยาไอบูโพรเฟน 1,200 มก.ต่อวัน เป็นเวลา 14 วัน ส่วนอีก 17 คน ทานยาหลอกที่ไม่มีฤทธิ์ต่อการรักษาใด ๆ
อ่านต่อบทสรุปของการวิจัย >>
ผลการตรวจสอบหลังจากการทดลอง 14 วัน พบว่า ฮอร์โมนกระตุ้นการเติบโตของเซลล์อสุจิของกลุ่มที่ทานไอบูโพรเฟนตอบสนองต่อระดับไอบูโพรเฟนในเลือด โดยระดับฮอร์โมนเพศชายหรือเทสโทสเทอโรน และฮอร์โมนกระตุ้นอสุจิ บ่งชี้ว่าร่างกายอยู่ในภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ ส่งผลให้เกิดภาวะเจริญพันธุ์ไม่สมบูรณ์ ภาวะโรคซึมเศร้า และมีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจสูงกว่าปกติ
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญที่ทำการทดลองชี้ว่า ฮอร์โมนเพศที่ผิดปกติของชายกลุ่มทดลองจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในภายหลัง เนื่องจากใช้ไอบูโพรเฟนแค่ชั่วคราว แต่ไม่สรุปว่า ผลสุขภาพจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันในกลุ่มผู้ใช้ยาไอบูโพรเฟนเป็นประจำหรือระยะยาว และยืนยันว่าจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในข้อสงสัยนี้ รวมถึงข้อสงสัยอื่น ๆ เช่น ผลกระทบจะเป็นอย่างไรหากระดับการใช้ไอบูโพรเฟนน้อยกว่าการทดลอง (น้อยกว่า 1,200 มก.ต่อวัน)
การศึกษาดังกล่าวยังเป็นที่สนใจในกลุ่มผู้ค้นคว้าด้านการเจริญพันธุ์ของมนุษย์ อาทิ ผู้เชี่ยวชาญจาก ม.มิสซูรี่ เมืองโคลัมเบีย ของสหรัฐ ที่เชื่อว่า การศึกษาของผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันในฝรั่งเศสและเดนมาร์กเล็กน้อยแต่สำคัญ เนื่องจากไอบูโพรเฟนเป็นยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด และยาจำนวนมากที่ผู้คนเข้าถึงได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์มีผลข้างเคียงต่อระบบสืบพันธุ์ โดยที่เภสัชกรผู้จ่ายยาส่วนใหญ่ละเลยที่จะเตือนผู้ซื้อ
ดังนั้น คุณพ่อทั้งหลาย หากไม่อยากมีปัญหาเรื่องเซ็กส์เสื่อมที่ว่านี้ หลีกเลียงหรือลดการรับประทานยาแก้ปวดกลุ่มดังกล่าวกันบ้างก็ดีนะคะ
เครดิต: Posttoday
อ่านต่อเนื้อหาอื่นที่น่าสนใจ: